วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เที่ยวเกาะหลอน !!


       ณ เกาะแห่งหนึ่งของไม่บอกชื่อของผมและเพื่อนอีก 3 คนที่จองรีสอร์ท 4 วัน 3 คืนที่เกาะแห่งนั้นเพราะพวกเรามาถึงที่ท่าเรือก่อนจะขึ้นเกาะมันก็พูดขึ้นมาว่าเมื่อคืนกูฝันว่าเราจะกลับมาไม่ครบว่ะไอ้บีก็แทรกขึ้นเป็นเหี้ยอะไรปากหมาแม่มึงหยุดเพ้อเจ้อ Mr แม่งจะออกเดินทางกันอยู่แล้วผมก็รีบห้ามพวกมันกลัวว่าจะทะเลาะกันสิก่อนพวกเราขึ้นเรือเขาเรียกไปได้สัก 20 นาทีท้องฟ้าก็เริ่มมืดเมฆฝนเริ่มเข้ามาลอยผ่านเหนือหัวแล้วเมย์ก็เลยจะไปพอมาถึงเกาะพนักงานก็มาช่วยยกกระเป๋าขึ้นจากเรือผมเข้าไปเช็คอินแล้วพนักงานก็พาเดินไปที่ห้องพักซึ่งผมนอนกับอีกส่วนบีนอนกับสัตว์แต่ห้องของเราติดกันพอมาถึงห้องก็ขึ้นไปนิดหน่อยเพราะสภาพห้องค่อนข้างสูงแถมแล้วยังมีศาลเก่าๆตั้งอยู่ผมพยายามจะไม่คิดอะไรหลังจากเก็บของอะไรในห้องเสร็จแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือจะไปเล่นน้ำทะเลกันเล่นไปเล่นมาก็ใกล้จะหกโมงเย็นแล้วพวกเราก็เลยขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าไปกินข้าวกันที่ล็อบบี้พอกินเสร็จก็เดินกลับห้องกันฉันเป็นคนที่กลัวผีมาตอนเดินมาถึงหน้าห้องมันก็ทำท่าร้อนรนให้รีบขายห้องดีก็พูดขึ้นมาว่ามึงกลัวสั้นข้างหลังขนาดนั้นเลยหรอวะแล้วก็พูดต่อว่าคืนนี้เขามาหามึงแน่ พอตกดึกพวกผมก็นอนเล่นกันกับอีคาดว่าซันกระบี่น่าจะนอนไปแล้วผมก็ปิดไฟห้องแล้วนอนหลับไม่นานก็ต้องตกใจสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขาได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากฮ่องกงดีกับฉันเมื่อมองดูนาฬิกาก็เป็นเวลาตี 3 กว่าๆแล้วผมกำลังจะเดินไปหาพวกมันทั้งสองคนแต่ไม่ทันเดินไปถึงประตูห้องก็มีเสียงดังเปิดให้ผมสะดุ้งตกใจแล้วก็ส่องดูตรงที่ช่องมองของประตู ก็เห็นดีกับฉันยืนทำหน้าสิกระสับกระส่ายร้อนรนอยู่ตรงนั้นเพราะเปิดประตูให้พบมันก็รีบวิ่งเข้ามาแล้วกระโดดขึ้นเตียงผมรีบล็อคห้องแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้นพวกมันก็แย่งกันพูดพูดไม่เป็นข่าวฟังดูไม่รู้เรื่องแต่ผมก็พอจะเดาออกได้ว่าพวกมันเจออะไรมาผมถามมันไปว่าเธอใช่ไหมแน่ใจนะแล้วทั้งสองก็ตอบพร้อมกันว่าใช่ ผมก็บอกให้มันนอนห้องผมก่อนแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยคุยกันแต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครนอนลงสักคนพวกเราก็เลยนั่งคุยกันผมบอกให้มันเล่าทุกอย่างให้ผมฟังมันก็เล่าว่าหลังจากที่แยกย้ายกันเข้าห้องซันมันก็เอาแต่กลัวไอ้บีก็เลยรำคาญมันแล้วก็ด่ามันไปว่าโตป่านนี้แล้วจะกลัวอะไรวะ ก็ผีมันมีจริงมันคงมาหามึงแล้วนี้มึงกลัวศาลเก่าๆนั้นหรอปัญญาอ่อน ซันมันก็อึ้งแล้วมันก็ไปอาบน้ำหลังจากนั้นอาบน้ำเสร็จก็นอนคลุมโปงแต่ไอ้บีก็ไม่ได้สนใจอะไรปิดไฟนอนเพราะนอนไปได้สักพักหนึ่งเตียงมันก็สั่นปีเลยลืมตามามองรอบๆห้องแล้วหันไปมองฉันก็เห็นไม่สั่นนอนคลุมโปงอยู่แต่ตัวมันสั่นๆก็เลยเขย่าตัวมันแต่มันก็ยังไม่หยุดฝันดีก็เลยดึงผ้าห่มมันออกแล้วสิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นมันก็ไม่ใช่ไอ้ซันมันเป็นหน้าผู้ชายแก่ๆแล้วมันก็พูดว่าเพราะมีตกใจมากกระโดดลงเตียงพอหันกลับไปมองอีกทีมันก็เป็นได้สั้นเหมือนเดิม บีก็เลยรีบปลุกมันเพราะมันตื่นมันก็ทำท่าตกใจว่าทำไมถึงไปยืนตรงห้องน้ำแต่ตอนนั้นที่ยืนอยู่ข้างๆเตียงของมันดีก็เลยเรียกมันบอกว่ากูอยู่นี่แล้วสั่นมันก็หันกลับมาที่พี่แล้วร้องเสียงหลงตะโกนว่าพอดีหันไปดูกระจกด้านหลังมันก็เป็นรอยฝ้าซึ่งมีลักษณะเป็นรูปหน้าคนอยู่บนกระจกดีกับฉันก็เลยแผ่นนี้ออกมาของผมซึ่งสั้นมันก็เล่าให้ฟังทีหลังว่าขณะที่พวกเรากลับมาจากการกินอาหารกันเมื่อหัวค่ำมันเห็นความผิดปกติบางอย่างแต่มันก็พูดไม่ออกซันบอกว่าตอนนั้นขณะที่ผมกำลังจะไขประตูห้องมันก็เห็นลุงแก่ๆคนหนึ่งเดินมาจากตรงศาลนั้นและกำลังเดินมาหามันกะปิ แล้วไอ้บีก็ดันปากเสียขึ้นมาอีกผมก็บอกกับทุกคนไปว่าจริงๆแล้วผมก็เห็นเหมือนกันแต่ไม่ได้พูดตอนนั้นขณะที่กำลังขึ้นเรือผมก็เห็นมีลุงแก่ๆคนหนึ่งเดินเข้าไปในที่พักของเราผมก็เลยไปถามพนักงานว่าวันนี้มีแขกเข้าพักเยอะใหม่พนักงานเขาก็บอกว่าไม่ค่อยเยอะมีแค่พวกเรากับอีก 3 ครอบครัวเท่านั้นรับผมก็ถามต่อไปว่ามีคนแก่เข้ามาพักด้วยเหรอพนักงานก็ทำหน้างงๆแล้วบอกว่าไม่มี ตอนนั้นผมก็งงเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วตอนที่เล่นน้ำเสร็จกลับมาอาบน้ำกันก่อนจะเข้าห้องผมก็เห็นลุงแก่ๆคนนั้นยืนอยู่บริเวณศาลแล้วจ้องมองมาที่ ID แต่ผมก็พยายามไม่คิดอะไรจนไม่มีก็ไปซ้ำโดนหลอกนี่แหละ เช้ามาผมก็ไม่ถามพนักงานว่ามันเคยมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าตอนแรกพนักงานก็ไม่ยอมบอกจนผมหงุดหงิดเริ่มขึ้นเสียงเขาจึงยอมบอกและเราว่าเมื่อก่อนเคยมีลุงคนหนึ่งเขามาพักอาศัยอยู่ที่นี่แล้วแกก็เกิดหัวใจวายตายคาห้องพักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเวลามีแขกมาพักที่ห้องนั้นก็ไม่เคยมีใครอยู่ได้ต้องเห็นหนีแล้วใช่จะเอาออกกันหมดจนเจ้าของโรงแรมตัดสินใจสร้างสรรค์ให้จากนั้นความเฮี้ยนของลุงฉะนั้นจึงลดลง หลังจากที่ลุงแกไม่มาหลอกใครแล้วก็ไม่มีใครไปเส้นไหว้ที่ศาลมันอีกเลยจนกระทั่งพวกผมเข้ามาพักอยู่เพราะผมรู้เรื่องทั้งหมดผมกับเพื่อนก็ตัดสินใจใช้ก็เอาออกในตอนนั้นเลยไม่เสียดายเงินแล้วดีกว่าไปอยู่ห้องเดียวกันกับผีนั่นก่อนจะออกจากที่นี่ผมก็ขอโทษจากพนักงานเธอไปจุดขอขมาที่ 3 แล้วพวกเราก็มาจากเกาะและไม่คิดที่จะไปเหยียบที่นั่นอีกเลย

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...