วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เจ้าที่หลอนวังน้ำเขียว !!


         เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วในช่วงเดือนธันวาคมปี 2558 เราได้มีโอกาสไปเที่ยวที่วังน้ำเขียวซึ่งเป็นที่ที่งดงามไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เราและเพื่อน 2 คนเดินทางออกจากชลบุรีในตอนเช้าขับรถไปเรื่อยๆแวะถ่ายรูปตามทางถึงเวลาหิวก็แวะกินข้าวกัน เราไปถึงบ้านเพื่อนก็เกือบเดือนแล้วแล้วแวะกินข้าวเย็นที่บ้านเพื่อนซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องเมื่อกินอิ่มแล้วก็นั่งเล่นสักพักนึงก็ได้เวลาออกเดินทางไปที่พักของพวกเราเราเดินทางไปยังรีสอร์ทที่วังน้ำเขียวแล้วเราก็ไปถึงที่นั่นประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆพอไปถึงที่พักต่างคนต่างก็เหนื่อยมาพวกเราก็เลยรีบอาบน้ำเพื่อที่จะเตรียมตัวเข้านอนเพราะว่าอาบน้ำเสร็จพวกเราก็ปิดไฟนอนเพื่อนคนหนึ่งนอนริมสุดด้านในติดกำแพงห้องอีกคนเป็นเพื่อนรุ่นน้องนอนตรงกลางส่วนเรานอนตรงริมนอกสุดเหวี่ยงคนที่นอนติดกำแพงหันหลังเล่นเกมในมือถือคนที่นอนตรงกลางก็เล่นเกมส่วนตัวเราเหนื่อยมากง่วง ก็เลยนอนไปก่อนเรานอนหันหลังให้เพื่อนๆหันหน้าไปทางห้องน้ำพอหลับตาลงได้สักพักหนึ่งก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีคนกำลังดึงเราออกไปจากตรงนั้นความรู้สึกเหมือนกำลังไกลออกไปเรารีบลืมตาตื่นหันมามองเถอะเพื่อนแต่ทุกคนก็ยังคงนอนเล่นเกมอยู่ เราหันกลับมาแล้วคิดในใจว่าคงจะเหนื่อยและคิดไปเองมากกว่า แล้วเราก็หลับตาลงอีกครั้งเหมือนเดิมเพราะหลับตาลงไปได้สักพักหนึ่งก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมันเด้งเราอีกครั้งนี้เรามีความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังไหลไปจะติดกำแพงห้องแล้วหรือเรากำลังถูกผีอำอยู่เราเริ่มสวดมนต์พุทโธพุทโธท่องในใจพุทโธพุทโธทันใดนั้นเสียงหัวเราะที่เย็นนี้ก็ดังขึ้น สลับกับเสียงหายใจรดต้นคอเราเริ่มหายใจไม่ออกแล้วเสียงหัวเราะนั้นก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆเราฝืนดีดตัวลุกขึ้นแล้วหันไปมองทั้งเพื่อน 2 คนที่กำลังเล่นเกมอยู่เพื่อนมันก็แปลกใจพากันหันมามองเราแล้วถามว่าเป็นอะไรเราก็ตอบไปว่าเปล่าไม่มีอะไรแล้วเราก็ลงนอนอีกครั้งในใจก็คิดว่าสงสัยจะเหนื่อยเลยคิดมากไปเอง เราล้มตัวลงนอนอีกครั้งลองดูใหม่ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือว่าเราคิดไปเองแต่คราวนี้เราไม่ได้หลับตาแต่มีความรู้สึกว่าสายตาเรามันเริ่มจะมัวมัวมองเห็นทุกอย่างแบบเลือนลางแล้วเราก็เห็นเงาดำๆเรานั้นค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างแล้วเห็นเป็นลักษณะเหมือนกับผู้หญิงซึ่งกำลังนั่งหัวเราะแล้วยังหันหน้ามาทางเราอีกด้วย เสียงหัวเราะเบาๆที่ยินดีกับสายตาที่มองมาเหมือนจะบอกว่ามองเห็นฉันไหมว่าฉันมีจริง เสียงหัวเราะนี่มันช่างเขาถึงกระดูกเลยทีเดียวแล้วสักพักผู้หญิงคนนั้นก็หายไปแต่เสียงหัวเราะยังดังก้องอยู่ในหัวของเราแล้วเสียงของลมหายใจนั้นก็กลับมาอีก ลมหายใจที่ยืนฉี่รดต้นคอร้าวที่มีเรารู้นะว่านี่มันของจริงแน่ๆไม่ไหวแล้วเราลุกขึ้นพร้อมกับบอกเพื่อนดอกที่นอนอยู่ตรงกลางว่า ขณะที่เรากำลังจะเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นเพื่อนอีกคนที่อยู่ในสุดก็รีบบอกว่าอย่าเล่านะรอให้เช้าก่อนค่อยเล่า หลังจากเราเปลี่ยนที่นอนกันกับเพื่อนรุ่นน้องเราก็นอนหลับสบายไม่รู้เรื่องจนเช้าพอเช้ามาเรารีบอาบน้ำพออาบเสร็จก็ลงไปรอเพื่อนๆเลยโดยที่ไม่ยอมออกจากรถเลยเพราะเพื่อนๆอาบเสร็จก็ตามมาแล้วก็ขับรถออกจากรีสอร์ทไปแต่พ่อขับออกมาได้สักพักหนึ่งเพื่อนคนหนึ่งที่นอนในสุดก็ถามว่าเรามาเกิดอะไรขึ้นเราก็เลยเล่าตั้งแต่ต้นจนจบแล้วเพื่อนอีก 2 คนพอได้ฟังก็ขนหัวลุกกันเลยทีเดียวเพื่อนรุ่นน้องที่นอนตรงกลางก็บอกว่าเห็นพี่นอนมองที่น่านอนจริงๆผมคิดว่าพี่คงนอนไม่หลับเลยไม่ได้สนใจอะไร เราคิดในใจคนเดียวว่าสรุปราวที่เรานอนหลับตาในตอนแรกนะคนอื่นมองเห็นกันว่ามันก็เหมือนคนนอนปกติทั้งๆที่เรารู้สึกว่าโดนผีอำแทบตายส่วนตอนที่เราลงนอนแล้วไม่หลับตาเพื่อนก็คิดว่าเราคงนอนไม่หลับเฉยๆเท่านั้นเอง แล้วเพื่อนรุ่นน้องก็เล่าว่ารีสอร์ทนี้จะมีแฟนเก่าๆอยู่ 3 1 ทุกคนที่มาพักจะต้องไหว้ของที่นอนก่อนถึงจะนอนได้แต่ถ้าใครไม่ว่างก็จะเจอเหตุการณ์เดียวกันเหมือนกับพี่เจอบ้างได้ถึงขนาดต้องไปรดน้ำมนต์กันเลยทีเดียวที่พี่เจอนิดหน่อยนะจากประสบการณ์ครั้งนี้มันทำให้เราจดจำไว้เลยว่าทุกๆครั้งอาจจะไปนอนที่ไหนดีทีเราไม่รู้จักหรือไม่นอนต่างที่เราจะต้องไม่ลืมว่าขอเจ้าที่เจ้าทางก่อนทุกครั้ง

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...