เรื่องนี้เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เราได้เกือบ 20 คนได้มีโอกาสไปเที่ยวชะอำจังหวัดเพชรบุรีซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดที่นี่มีหาดทรายขาวยาวและยังเป็นแหล่งเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญซึ่งเป็นรายได้ให้กับด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวธุรกิจการโรงแรมธุรกิจการค้าของที่ระลึกร้านอาหารการประมงเป็นต้นนอกจากนี้ 3 ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวไทยและชาวต่างประเทศในระดับต้นๆของประเทศไทยก่อนที่พวกเราจะเดินทางไปได้จองบ้านพักแบบพูลวิลล่าที่มีสระน้ำในตัวพวกเราจองไว้ในราคา 10,000 บาทรุ่งเช้าก็เดินทางเพราะไม่ถึงที่ ภาพก็ประมาณช่วงบ่ายแล้วเตรียมของทำกับข้าวกินกัน กลุ่มผู้ชายก็ขนของลงจากรถเล่นน้ำปาร์ตี้กันตามปกติบ้านพักหลังนี้มี 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำซึ่งเป็นบ้านที่ค่อนข้างใหญ่อยู่ได้ 20 กว่าคนช่วงหัวค่ำก็ปาร์ตี้กันตามปกติไม่มีอะไรเวลาประมาณ 09:00 นอีเพื่อนตามมาอีก 2 คนพร้อมลูกชาย 3 ขวบมาถึงก็กินข้าวนั่งเล่นพอตกดึกแม่ก็พาเด็กเข้านอนส่วนพวกเราก็สังสรรค์กับเราเข้านอนก่อนตอนเวลาประมาณ 02:00 นถ้ารู้สึกเหนื่อยมาทั้งวัน เพื่อนๆที่เหลือยังไม่นอนก็สังสรรค์กันต่อเช้ามาเวลาประมาณ 09:00 นขณะที่กำลังนอนอยู่นานเราก็ต้องตกใจตื่นขึ้นเพราะเสียงกรีดร้องของคนที่เป็นแม่แต่พอตื่นขึ้นมาก็ถามเพื่อนที่นอนข้างๆว่าเกิดอะไรขึ้นวะเพื่อนก็ตอบว่าเด็กจมน้ำและเนื่องจากประตูห้องเราพร้อมกับสระว่ายน้ำพอดีภาพที่เห็นในตอนกลางคืนเด็ก 3 ขวบนอนแผ่แม่นี่มีคนปั๊มหัวใจและผายปอดอยู่เราทำอะไรไม่ถูกคนอื่นนิ่งไปตามๆกัน เพื่อนๆที่มาเที่ยวก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นคนที่มาเที่ยวบ้านข้างๆก็มามุงดูตอนนั้นคนเยอะมากแต่ก็ยังพอจะมีโชคอยู่บ้างให้มีพลเมืองดี 2 คนที่เป็นพี่น้องกันและเขาก็มาเที่ยวพักอยู่บ้านข้างๆ เขา 2 คนเข้ามาช่วยน้องเขาไว้แต่โชคร้ายของน้องเพราะตอนนั้นน้องเขาลิ้นจุกปากตัวเขียวอุจจาระออกเต็มไปหมด แต่เช็คแล้วว่าชีพจรยังคงเต้นอยู่สักพักก็มีป้าแถวนั้นตะโกนขึ้นมาว่าทำไมไม่เอาเด็กพาดบ่าแล้วเขย่าพี่ที่เขาช่วยปฐมพยาบาลอยู่นั้นก็ตอบกลับมาว่ามีใบวิชาชีพช่วยคนได้ครับจากนั้นเราก็โทรแจ้งรถโรงพยาบาลและแจ้งตำรวจจนเวลาผ่านไป 15 นาทีตำรวจก็โทรกลับมาก็เข้าใจว่าเราแจ้งความเท็จหรือโทรไปป่วน ไม่นานนักก็มีเสียงป้าคนหนึ่งดังขึ้นมาระหว่างรอรถโรงพยาบาลกว่าทำไมไม่เอาเด็กขึ้นรถไปโรงพยาบาลเลยจะมารอทำไม ที่พลเมืองดีจึงบอกว่าป้าถ้าผมหยุดปั้มหัวใจตอนนี้เด็กไม่รอดแน่ๆผมต้องตามไปเรื่อยๆจนกว่ารถโรงพยาบาลจะมา เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงรถพยาบาลก็มาถึงแล้วพี่พลเมืองดีก็น้องส่งโรงพยาบาลไม่ใช้เครื่องช่วยหายใจต่อหลังจากที่เด็กขึ้นรถพยาบาลไปพร้อมกับพ่อแม่เด็กเรากับแฟนและเพื่อนอีก 1 คนก็ขับรถตามไปที่โรงพยาบาลเพราะไปถึงน้องก็เข้าห้องฉุกเฉินไปแล้วแม่น้องก็รออยู่หน้าห้องตอนนั้นสถานการณ์ทุกอย่างแย่ไปหมดไม่นานหนักแม่น้องก็เป็นลมเข้าห้องฉุกเฉินไปก่อน เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆหมอก็เดินออกมาบอกว่าให้ทำใจโอกาสที่เด็กจะรอ 50-55 เซลล์สมองบางส่วนได้ตายไปแล้วเนื่องจากขาดอากาศหายใจไปนานหรือฟื้นกลับมาได้อาจจะไม่เหมือนเด็กปกติทั่วไปตอนนั้นพ่อกับแม่น้องร้องไห้เหมือนใจจะขาดเฝ้าดูอาการในห้องฉุกเฉิน สักพักแฟนเราก็เข้ามาเรียกบอกว่าเพื่อนที่อยู่บ้านพักโทรมาให้กลับไปเก็บของเพราะคนที่ดูแลบ้านเขาให้เราออกก่อนเพียงพอมีคนจะเช่าต่อจากเราเราก็กลับไปอาบน้ำเก็บของจนเวลาประมาณ 11 โมงถ้าน้องก็โทรมาบอกว่าน้องถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมุทรสาครเนื่องจากเครื่องมือรักษาของทีวีมีไม่เพียงพอ เราก็เพื่อนคนนี้เหลือก็รีบอาบน้ำเก็บของซึ่งตอนที่กำลังเก็บของอยู่นานคนที่ดูแลบ้านก็มาช่วยเก็บด้วยและดูเหมือนกับว่าเขาจะรีบมารีบให้เราออกไปไวๆหลังจะเกิดเรือ ถ้าหน้าที่เก็บของอยู่นานคนดูแลบ้านก็บอกว่าก็น่ามีไม่ถึงสัปดาห์ก็มีเด็กจมน้ำที่ดีแต่เขาไม่ได้บอกเราว่ารอดหรือไม่รอดเพียงวันนั้นพวกเราตีรถจากชะอำไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาครหรือไปเยี่ยมและดูอาการน้องหวังไว้ว่าขอให้มีปาฏิหาริย์ช่วยให้น้องปลอดภัยและปรากฏว่าหมอที่นี่ก็บอกให้ทำใจเหมือนกันเนื่องจากน้องอยู่ห้อง ICU เยี่ยมได้ถึง 20:00 เราและเพื่อนๆเกือบ 20 คนก็เลยเดินทางกลับกรุงเทพกลับมาถึงกรุงเทพคนก็ใช้ชีวิตตามปกติต่างคนต่างทำงานแต่พ่อแม่น้องก็ยังคงเฝ้าดูอาการตลอด น้องหลับไปถึง 6 วันเต็มที่โรงพยาบาลไม่มีทีท่าที่จะฟื้นขึ้นมาได้ ย้อนกลับมาก่อนหน้านั้นในวันเกิดเหตุพ่อน้องหรือไปบนไว้ที่ 3 หน้าโรงพยาบาลสมุทรสาครว่าให้น้องปืนและกลับมาเป็นปกติพ่อน้องจะบวชรวมถึงพวกเราที่บนไว้ที่นั่นเช่นกันว่าถ้าน้องรอปลอดภัยพวกเราจะวิ่งรอบโรงพยาบาลจำนวน 10 ล้อ หลังจากที่น้องหลับไป 6 วันเต็มโดยที่อาการไม่ดีขึ้นเลยแม่น้องก็เริ่มทำใจเพราะดูเหมือนว่าจะหมดหนทางแล้วก็เหมือนกับว่ายังจะพอมีหวังอยู่บ้างอ่ะมีพี่คนหนึ่งที่สนิทกันได้แนะนำให้แม่ของน้องไปหาร่างทรง ซึ่งเขาบอกว่าร่างทรงคนนี้ดูดวงแม่นมาก เมื่อแม่น้องหมดทางออกแล้วก็ลองไปดูเผื่อว่ามันพอจะมีหนทางอยู่บ้างและคิดว่าถึงไปก็คงไม่มีอะไรเสียหาย พ่อแม่น้องไปถึงก็เจอร่างทรงพอได้คุยกันสักพักร่างทรงก็บอกว่าให้ไปเรียกน้องกลับมาโดยการนิมนต์พระไปทำพิธีในที่เกิดเหตุพร้อมกับนำผ้ายันต์สี่เหลี่ยมจากนั้นส่งไปด้วยเพื่อทำพิธีและให้นำผ้ายันต์ไปหาน้องที่โรงพยาบาลก่อนตะวันตกดินแม่น้องก็ไปนิมนต์พระแถวเช้าไปทำพิธีพร้อมกันน้ำผ้ายันต์ผืนนั้นไปหลังจากที่ทำพิธีเสร็จก็มีป้าคนหนึ่งที่อยู่แถวนั้นป้าแกบอกว่าป้าสวดชินบัญชรมาตั้งแต่สมัยป้าสาวๆและไม่มีกุมารทองผมพามาบอกว่าพาน้องไปคืนให้กับพ่อแม่เขาแล้วไม่ต้องเป็นห่วง แล้วจะดีก็ได้บอกกับกุมารหรือว่าหมอหน้าเยี่ยวมันกินมันไม่ซึ่งไหว้กูเลยไม่คิดจะแบ่งกูเลยจากนั้นป้าก็เล่าว่าก่อนที่น้องคนนี้จะจมน้ำในสระและบ้านพักหลังนี้มีเด็กจมน้ำตายมาแล้ว 2 คนซึ่งคนที่ 2 เหตุการณ์ที่จะเกิดก่อนน้องคนนี้แค่ 3 วันเท่านั้น หลังจากทำพิธีเสร็จในวันนั้นก็เหมือนกับว่ามีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเพราะเช้าวันต่อมาน้องสามารถลืมตาได้แล้วอาการของน้องก็ดีขึ้นเรื่อยๆเพิ่มตอบสนองเวลาที่มีคนเลียน้องก็จะมองไปหายังต้นตอของเสียงนั้นได้แต่ก็ยังต้องอยู่ในห้องไอซียูต่อไปเพราะอากาศก็ยังคงน่าเป็นห่วง
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น