วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

อาถรรพ์​เสือเผ่น !!


            เรื่องเล่าจากประสบการณ์ของลุงดวงแก้วที่ได้ประสบพบเจอมาเมื่อสมัยที่ลุงดวงแก้วเป็นหนุ่มๆประมาณปีพ.ศ 2507 ตอนนั้นลุงดวงแก้วอายุประมาณ 25 ปีซึ่งเป็นวัยที่กำลังแข็งแรงลุงดวงแก้วและมีอาชีพทำไร่ทำนาเหมือนกับคนทั่วทั่วไปในหมู่บ้านหากว่างจัดงานเลี้ยงดวงแก้วก็จะไปรับจ้างทำงานโดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นงานอะไร งานที่ลุงดวงแก้วถนัดก็คือการรับจ้างเป็นโรคห่าขนของไปยังหมู่บ้านมูเซอที่อยู่บนภูเขาใกล้ๆหมู่บ้านซึ่งลุงโดมแก้วจะรู้จักเส้นทางดีขึ้นลงภูเขาลูกนี้เป็นประจำจนได้รู้จักและมีเพื่อนเป็นชาวมูเซอ ลุงดวงแก้วยังเคยรับจ้างพวกมูเซอให้ช่วยค้นเกลือเป็นกระสอบกระสอบได้ขึ้นภูเขาเพราะตอนนั้นเรื่องนี้ราคาค่อนข้างแพงและเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้บนภูเขามานอกจากนี้หลวงดวงแก้วก็ยังรับจ้างเป็นคนนำทางให้กับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติพาชมภูเขาน้ำตกหรือทำและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์สวยงาม ถ้ามีใครจะไปภูเขาลูกนี้ล้มดวงแก้วก็จะเป็นรายชื่ออันดับต้นๆที่ถูกเรียกใช้บริการเพราะเป็นนักนำทางและลูกหาบชั้นดีที่มีความแข็งแรงและเชี่ยวชาญเส้นทางเป็นอย่างดี ในช่วงฤดูฝนประมาณต้นเดือนสิงหาคมนี้คนมาจ้างให้ลุงดวงแก้วไปเป็นลูกค้าและคนนำทางไปหมู่บ้านชาวมูเซอที่อยู่บนภูเขา ในกลุ่มนั้นมีชาวต่างชาติ 6 คนเป็นผู้ชาย 4 คนผู้หญิง 2 คนพร้อมกับรำไทยอีก 1 คนเมื่อได้คุยกับเราจึงได้ทราบว่าชาวต่างชาติเหล่านี้เป็นพวกครูและหมอสอนศาสนาซึ่งพวกเขาพอจะพูดภาษาไทยได้บ้างแล้วแต่ก็อยากไปประกาศศาสนาและไปดูแลรักษาช่วยเหลือคนเจ็บป่วยในหมู่บ้านมูเซอนั้นจึงต้องพารามที่พูดภาษามูเซอไปด้วยข้าวของที่จะให้พวกลงดวงแก้วคนขึ้นไปก็จะมีเครื่องใช้ส่วนตัวที่เป็นเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นนอกจากนั้นก็จะเป็นพวกอาหารกระป๋องและอาหารแห้งรวมทั้งยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ รุ่งดวงแก้วแนะนำไปแล้วว่าไม่ควรเดินทางในช่วงฤดูนี้เพราะถ้าฝนตกหนักหรือเจอดินโคลนถล่มการเดินทางจะลำบากมาซึ่งข้าวของที่ออกมาก็มีจำนวนมากและหนักเอาการอยู่และจะรอให้ช่วงมรสุมผ่านพ้นไปก่อน ไปชาวต่างชาติก็ยังยืนยันว่าจะไปให้ได้เพราะเป็นโครงการที่ได้วางแผนเอาไว้แล้วการขึ้นไปบนภูเขาครั้งนี้ตั้งใจจะอยู่ที่หมู่บ้านมูเซอเป็นแรมเดือนถ้าคนของขึ้นไปส่งเสร็จแล้วพวกของลุงดวงแก้วก็สามารถเดินทางกลับได้เลย หลังจากตกลงราคาเรียบร้อยแล้วลงดวงแก้วก็ไปหาคนในหมู่บ้านอีก 3 คนมาเป็นลูกหาบในขณะด้วยซึ่งหาได้ไม่ยากเพราะลุงดวงแก้วมีเพื่อนเป็นลูกหาและเคยทำงานด้วยกันมาแล้ว ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 10:00 นการเดินทางจากหมู่บ้านข้างล่างไปยังหมู่บ้านของมูเซอจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ลุงดวงแก้วเห็นว่าถ้าเดินทางไปถึงแล้วกลับลงมาอีก 5 ชั่วโมงคงกลับลงไปที่หมู่บ้านข้างล่างไม่ทันก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน จึงคุยกับพวกลูกหากว่าจะนอนที่หมู่บ้านมูเซอ 1 คืนแล้วจึงเดินทางกลับในตอนเช้า เมืองทองกับเราทุกคนก็เตรียมตัวออกเดินทางจริงทั้งที่ลุงดวงแก้วคาดการณ์ขอเดินทางออกจากหมู่บ้านเข้าเขตชายป่าฝนก็ตกลงมาอย่างหนักแม้ว่าทุกคนจะมีเสื้อกันฝนก็จริงแต่ทางเดินลื่นและชื่อแขกถึงต้องเดินอย่างระมัดระวังทำให้การเดินทางล่าช้าไปมาจนกระทั่งเหลือระยะทางที่จะถึงหมู่บ้านมูเซออีกประมาณ 5 กม. แต่ตอนนั้นก็เย็นมากแล้วทุกคนหิวและเหน็ดเหนื่อยกันมาถึงตกลงกันว่าจะกางเต็นท์นอนกลางป่า 1 คืน เมื่อฝนหยุดตกเราลูกหาบและนายฝรั่งก็ช่วยกันทำมาด้วยการนำอาหารกระป๋องที่นายฝรั่งเตรียมมาตั้งไฟอุ่นแล้วก็กินกันพอประทังชีวิตไปได้เต็นท์ที่การนอนกันนานเต็มๆขนาดใหญ่นอนได้ประมาณ 7 คน ลูกหาบจึงช่วยกันการเป็น 2 เต็มกรุงของนายฝรั่งและราม 186 ลูกหาบนอน 1 แต่เมื่อรับประทานอาหารเสร็จทุกคนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้านอน จากนั้นรุ่งดวงแก้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลียเพราะตื่นขึ้นมาอีกทีก็ไม่รู้ว่าเป็นเวลากี่โมงแต่คิดว่าคงจะดึกมากแล้ว ตอนกลางคืนในป่าน่ากลัวมากมีเสียงจิ้งหรีดร้องระงมไปทั่วมีเสียงนกร้องน่าขนลุกและมีเสียงลิงชะนีบางข้างร้องโหยหวนมาเป็นระยะระยะในขณะที่ลุงดวงแก้วกำลังเคลิ้มจะหลับต่อก็ต้องตกใจเพราะได้ยินเสียงหวีดร้องดังมาจากเต็มของนายฝรั่งลงดวงแก้วถึงกรุเพื่อนๆลูกค้าแล้ววิ่งไปที่เต็นท์ของนายฝรั่งที่อยู่ไม่ห่างกันมากนักก็ได้ทราบเรื่องว่าแหม่มคนหนึ่งโดนแมงป่องต่อยที่เท้าร้องและดิ้นทุรนทุรายความเจ็บปวดแต่โชคยังดีที่มียามาด้วยก็เลยช่วยกันทายาสวนอาการทุเลาลง น้องดวงแก้วเตือนฝรั่งพวกนี้ว่าให้ระวังสัตว์มีพิษในป่าพวกงูตะขาบและแมงปอซึ่งจะออกหากินตอนกลางคืนถ้าไม่ระวังอาจจะถูกมันกัดต่อยได้แล้วจึงช่วยกันหาลูกหรือช่องว่างในเต็นท์ติดไม่ให้สัตว์เข้ามาได้ ฟ้าสางหลังจะเก็บข้าวของกันแล้วก็เดินทางกันต่อ ทางขนาดเดินมาเกือบเกือบ 1 ชั่วโมงก็มาถึงจุดหมายปลายทางที่หมู่บ้านมูเซอ หัวหน้าเผ่ามูเซอและชาวบ้านก็มาตอนเราล้มดวงแก้วทักทายคนที่แกรู้จักอยู่หลายคนชาวบ้านมูเซอดีใจมากที่ทราบจากรามว่าคนต่างชาติกลุ่มนี้จะมาช่วยเหลือเพราะบางคนเป็นหมอและมียาสมัยใหม่มาด้วย ตอนนั้นไอ้หมู่บ้านนี้กำลังมีโรคไข้เลือดออกระบาดอยู่พอดีกลุ่มคนต่างชาติกลุ่มนี้จึงได้ปักหลักรักษาคนป่วยที่ตรงศาลากลางหมู่บ้านและกางเต็นท์ที่พักใกล้ๆกับศาลานะเนี่ย ชาวมูเซอทั้งหญิงและชายลูกเล็กเด็กแดงหากันมารักษาเกือบทั้งวันบางคนมีแผลติดเชื้อบางคนเป็นไข้หวัดขี้มูกไหลย่อยบางคนเป็นไข้เลือดออกนอนหมดแรง มีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 20 กว่าๆครับเนื่องจากตกต้นไม้เขานอนระบบปวดแผลที่ติดเชื้ออักเสบและเป็นไข้ตัวร้อนน้องดวงแก้วได้ช่วยแหม่มฝรั่งที่เป็นหมอเช็ดตัวของชาวมูเซอคนนี้ที่ชื่ออะตอมฝรั่งให้ลุงดวงแก้วถอดเสื้อผ้าอากรเพื่อเช็ดตัวลดไข้ถ้าหน้าที่ถอดเสื่อผ้าลุงดวงแก้วก็เห็นรูปรอยสักอยู่ที่แผ่นหลังของอาโกเป็นรูปเสือเผ่นเต็มหลังฝีมือการสักสวยงามมากจนมาทราบทีหลังว่าเป็นฝีมือของหมอผีประจำหมู่บ้าน หลังจากเช็ดตัวเสร็จแล้วฝรั่งก็เข้ามาฉีดยาก่อนล้มตัวลงนอนต่อแล้วร้องครางด้วยความทรมานเพราะพิษไข้พอตกเย็นที่บ้านพักศาลากลางหมู่บ้านก็มีคนไข้นอนพักอยู่เต็มไปหมดจนแทบจะกลายเป็นโรงพยาบาล วันนี้ลุงดวงแก้วและลูกหาได้อยู่ช่วยเหลือและดูแลคนป่วยทั้งวันจึงไม่ได้เดินทางกลับทำไม่ต้องการเตียงนอนที่หมู่บ้านมูเซออีก 1 คือ ตกดึกเมื่อทุกคนเข้านอนกันหมดแล้วเวลาประมาณ 09:00 นอุ้มดวงแก้วก็สะดุ้งสุดตัวเพราะมีเสียงร้องของเสือดำรอบๆหมู่บ้าน พร้อมกับเสียงสิงสาราสัตว์ต่างๆจึงพบพานส่งเสียงดังหัวหน้าหมู่บ้านและหมอผีประจำหมู่บ้านก็อยู่ที่นั่นด้วยทุกคนวิ่งมารวมกันที่ศาลากลางหมู่บ้านแสงไฟจากกล่องเปิดที่ก่อไว้ 3-4 ก็ช่วยให้ศาลาสว่างเพียงพอที่จะมองเห็นหน้ากันได้ลงดวงแก้วสังเกตเห็นหน้าของหมอผีประจำหมู่บ้านเมื่อมีอาการตกใจหน้าตาตื่นอย่างเห็นได้ชัดแล้วหมอผีก็พูดว่าเขาทำอะไรไม่ดีไว้หรือเปล่า คณะที่ยังไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมาหากอที่หาและนอนทรงด้วยผิดก็ได้ลุกขึ้นทำท่าคร่อมแบบสัตว์ 4 เท้าแล้วส่งเสียงร้องออกมาซึ่งมันดูคล้ายกับเสียงเสือแต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะทำอะไรหากอก็กระโจนเข้าใส่ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นสักพักก็มีเสียงร้องอีกอ่ะโวยวายแล้วก็อย่างว่ามีคนที่ถูกกัดแขนเป็นแผลเหวอะว่าบางคนทุกข์เล็บมือขวดที่ใบหน้าศีรษะเลือดไหลอ่ะไปทั่วตัวมีคนหนึ่งถูกกัดที่ลำคอ เลือดพุ่งกระฉูดออกมาเหมือนก๊อกน้ำรั่วผู้คนแตกตื่นชุลมุนวุ่นวายคนไข้ที่นอนป่วยต่างลุกขึ้นวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเมื่อนายฝันเห็นเหตุการณ์วุ่นวายที่แทบจะควบคุมไม่อยู่จึงรีบไปเอาปืนลูกซองยาวมาแล้วเร่งลำกล้องไปเนี่ยก็เพราะท่าทางของเราในตอนนั้นน่ากลัวมากดวงตาของเขาแห่งพราวดุดันมองตาขวางทั้งยังขู่คำรามเราก็ทำท่าเหมือนกับว่าตัวเองนั้นเป็นเสือ เมื่อหันมาเห็นนายฝรั่งถึงรีบร้องห้ามเอาไว้พร้อมกับสั่งให้คนในหมู่บ้านให้ช่วยกันจับตัวก็พวกเขาใช้เวลาอยู่พักหนึ่งถึงจะตัวก็ได้จากนั้นหมอผีก็เอาใส่สร้อยที่มีตะกรุดขนเสือไฟห้อยอยู่ มาสวมคอของอาก็ร้องลันแล้วจึงสนุกและทรุดตัวลงนั่งอย่างเจ็บปวด เมื่อเหตุการณ์สงบลงทุกคนก็ช่วยกันเอวยารักษาคนเจ็บ แม้จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายแต่ก็ยังโชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีใครเสียชีวิตเช้าวันต่อมารุ้งดวงแก้วจึงได้รู้ว่าสาเหตุที่ก่อมีอาการอย่างนั้นเพราะของขึ้นจากรูปสักเสือเผ่นที่ได้ลงคาถาอาคมเอาไว้ หมอผีเด้อยากกอดแขวนตะกรุดขนเสือไฟอาถรรพ์ไว้ที่เอวเมื่อวานนี้ก็ไข้ขึ้นสูงต้องถอดเสื้อผ้าเช็ดตัวจากนั้นมันฝรั่งก็ได้เข้าไปฉีดยาแล้วถอดเอาตะกรุดขนเสือไฟออกจากเอวเพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไรและเห็นว่าเกะกะ หอไม่มีตะกรุดสะกดอาคมเอาไว้จึงทำให้มีอาการของคุณกลายเป็นเสือแล้วอาละวาดอย่างที่เห็นในฝรั่งจึงตัดสินใจบอกลุงดวงแก้วว่าพบคุณหมอสอนศาสนาจะกลับลงไปพร้อมกับพวกของลุงดวงแก้วด้วยแล้วค่อยหาโอกาสกลับขึ้นมาใหม่เพราะเห็นว่าตอนนี้จะเปลี่ยนความเชื่อของคนในหมู่บ้านมูเซอคงทำได้ยากเพราะของเขามันแรงจริงๆ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...