วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป!!


      หลังจากที่พวกเราไปร่วมงานศพของเก่งแล้วทางบ้านเก่งก็ได้ตั้งศพไว้ที่บ้าน 7 วันซึ่งผมก็ได้ไปฆ่าวันแรกกับวันที่สองเท่านั้นเพราะผมทำงานเล่นดนตรีที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งครับเลยไม่ค่อยมีเวลาว่างที่จะไปได้ทุกๆวัน จนวันที่ 6 เดือนผมที่ชื่อน่ะก็โทรมาชวนผมไปงานศพได้เก่งด้วยกันแล้ววันถัดไปก็จะเป็นวันเผามันแล้วผมต่อไปทันทีว่าโอเคแต่ขอไปหลังเลิกงานก็แล้วกันนะมึงวันนี้พวกมึงกับกูอยู่กันจนเช้าเลยนะเพื่อนผมก็บอกว่า ก็คิดว่าจะอยู่จนเช้าเหมือนกันนั่นแหละกูว่าจะบวชให้เก่งเหมือนกัน เพื่อนผมพวกผู้ชายตั้งใจจะโกรธกัน 6-7 คนเลยทีเดียว พอวางสายจากไอน้ำผมก็ไปทำงานต่อในตอนเย็น จนถึงเวลาเลิกงานตอนนั้นมันก็ดึกมากแล้วผมขับรถยนต์ไปบ้านใดๆเพื่อที่จะเดินทางไปบ้านให้เก่งด้วยกันปรากฏว่านัทไม่อยู่ผมคิดว่ามันคงไปอยู่ที่บ้านไอ้เก่งแล้วจึงขับรถเดินทางต่อไปยังงานศพเพียงลำพังขอดูนาฬิกาก็เป็นเวลาตี 2 แล้วครับเส้นทางที่ไปนานมันเป็นเส้นทางที่ไอ้เก่งประสบอุบัติเหตุนั่นแหละแต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาแล้วก็ไม่คิดเลยว่าจะเห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะผมไม่ได้เป็นคนกลัวผีอะไรหรอกครับแล้วก็ไม่เคยเจอด้วยเพราะผมขับรถไปได้สักพักก็จอดหยุดไฟแดงซึ่งตอนนั้นรถก็ไม่ค่อยจะมีเรื่องที่นั่งรอไฟเขียวอยู่ผมก็เห็นบางอย่างลักษณะเหมือนจะเป็นเงาของคนกำลังยืนอยู่ที่ริมถนนอีกฟากหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าของผมผมก็บ่นเบาๆคนเดียวว่าป่านนี้แล้วยังมีคนมายืนรอข้างถนนอีกหรอว่าโสดหรือเปล่าวะเนี่ยคิดไปนาน พอไฟเขียวผมก็ขับรถตรงไปโดยไม่คิดอะไรจนมาถึงงานศพก็จอดรถเดินไปนั่งกับเพื่อนที่มาถึงก่อน เพราะไปนั่งได้ไม่น่าเพื่อนคนหนึ่งของผมมันชื่อโจก็ถามผมว่า มึงไม่เรียกคนที่นั่งในรถลงมานั่งด้วยกันเหรอแล้วในรถเป็นใครวะทำไมดูคุ้นๆจังว่ะ ผมก็ถามว่าคนไหนวะกูมาคนเดียวไม่มีใครมาด้วยเพื่อนที่ทำงานก็ว่าจะมากันพรุ่งนี้นะกูมาคนเดียว เพื่อนในกลุ่มก็หันไปมองที่รถแล้วก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เห็นมีใครเลยนี่ แต่ไอ้โจ้มันก็บอกว่าก็กูเห็นนี่แต่กูว่าแม่งต้องใช่แล้วว่ะ เพราะผมก็ถามมันว่าอะไรที่ว่าใช่วะเอาให้เคลียร์ในโจ้ไม่เคลียร์เดี๋ยวมึงโดน ไอ้โจ้เงียบไปพักหนึ่งแล้วมันก็ถามว่า ผมพันๆที่ไอ้เก่งเกิดอุบัติเหตุหรือเปล่าผมก็พยักหน้าแล้วตอบไปว่าไม่ผ่านเส้นนี้จะให้คำตอบหรือไงวะไอ้นี่ โจ้มันก็ทำหน้าตาตื่นแล้วพูดตรงๆว่ากูว่าแล้วมันไปว่ามึงวะเนี่ยไอ้เก่งเนี่ยกูก็โดดคนที่นั่งในดีทุกคนด้วยก่อนที่พวกกูจะมางานกันวันนี้ก็เพราะมันไปตามนั้นแหละมึงผมล่ะเพื่อนพวกเราทำงานค่อนข้างจะหนัก แล้วเหนื่อยบางวันก็ไม่ค่อยมีเวลาเลยจึงไม่ได้มากันนะวันนี้พอเดินทางมากันมันก็ไปรอรับเลยครับ คนที่โดนหนักสุดในกลุ่มเพื่อนก็คงเป็นน้องกันเพราะน้องคนนี้มันมีเซ้นอยู่แล้วไอ้โจ้เล่าให้ผมฟังว่าน้องกัสมันแทบไม่ได้นอนเลยตั้งแต่วันที่ 3 ถึง 5 ซอยเกะมันตามไปทุกที่ที่กัสไปเลยเว้ย ผมก็บอกมันไปว่ากูไม่เจอนะไม่เห็นมันมาหาเลยคิดไปเองหรือเปล่าว่ามึง แล้วคนที่ผมคิดว่าจริงจังที่สุดอย่าไปน่ะมันก็พูดออกมาทำเอาผมขนลุกไปทั้งตัวมันบอกกับผมว่ากูก็โดนว่ะวันก่อนนี่เองเว้ยวันนั้นกูกลับจากที่ทำงานตอนตี 2 แล้วกำลังจะคีย์เข้าหอก็เจอไอ้เก่งยืนรออยู่ที่หน้าตึก ในสภาพเดียวกันกับตอนที่มันประสบอุบัติเหตุนั่นแหละเยอะเกินสุดๆก็ตกใจจนรถมอเตอร์ไซค์ที่กำลังจะเอาไปจอดเกือบล้มแต่กูก็ไม่ได้กลัวมันหรอกมันเป็นเพื่อนกูนี่นา เลยบอกมันไปว่าเดี๋ยวกูจะชวนพวกเพื่อนคนอื่นๆไปหาที่บ้านไม่ต้องมาตามหรอกแต่กูไม่ว่างจริงๆขอโทษที่พวกกูไม่ได้ไปหาเดี๋ยวกูจะโทรไปหาพวกมันทุกคนเลยไม่ต้องห่วงนะมึง เพราะกูพูดจบมันก็หายไปกูก็เดินขึ้นห้องไปอาบน้ำแล้วนอนจากนั้นก็โทรหาพวกมึงนี่แหละ ถึงแม้พวกเราจะไม่กลัวไอ้เก่งมากเรายังไงมันก็คือเพื่อนแต่เอาเข้าจริงๆแล้วพวกเราก็แอบกลัวอยู่เหมือนกัน เราหลังจากวันนั้นพวกเราก็ไปไหนมาไหนกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนตลอดจากที่นานๆจะได้เจอกันสักครั้งก็กลับมาเหมือนแต่ก่อนไปไหนไปด้วยกันเหตุผลก็เพราะว่าหลังจากงานศพของไอ้เก่งในวันนั้นพวกเราทุกคนรู้สึกเหมือนกับว่าไอ้เก่งมันยังคอยตามพวกเราอยู่ตลอดจนอยู่คนเดียวกันไม่ได้เลยครับ ไปทำงานก็ต้องเอาเพื่อนไปด้วยถ้าขี่มอเตอร์ไซค์ไปไหนเด็กๆก็ต้องมีคนซ้อนไปด้วยกลัวไอ้เก่งมันจะมาสอนแทนพวกเรายังมักจะได้กลิ่นแปลกๆอีกเพื่อนบางคนมักจะโดนเพื่อนอีกคนหนึ่งทักว่าเห็นมีคนมาด้วยทั้งทั้งที่เพื่อนคนนั้นก็มาคนเดียวและเหตุการณ์มันมักจะเกิดแบบนี้เป็นประจำ จากทีแรกที่ไม่กลัวก็เริ่มกลัวกันมากขึ้นบางคนขี่รถอยู่ดีๆก็ลงบางคนก็โดนรถเฉี่ยวบ้าง แต่พวกเราก็ไม่ได้โทษว่าจะเป็นไอ้เก่งหรอกครับคิดว่าคงเป็นอุบัติเหตุและความบังเอิญมากกว่า แต่ผมก็เริ่มมาคิดว่ามันเป็นเพราะไอ้เก่งหรือเปล่า วันนั้นผมขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านถนนสายเดียวกันกับพี่เก่งเสียชีวิตและเป็นเวลาเดียวกันกับที่เพื่อนผมคนนี้ประสบอุบัติเหตุเพราะขี่ไปถึงสี่แยกไฟแดงอยู่ๆรถผมก็ล้มลงแบบไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรเลยล้มไปเฉยๆผมล้มกระแทกอื่นวิ่งไปกลางถนนรถบัส 1 วิ่งสวนเลนมาพอดีไอ้โชคดีที่เขาเบรคทันไม่งั้นผมคงโดนทับตายแน่ๆ คนที่อยู่ในบริเวณนั้นที่เห็นเหตุการณ์ก็พากันตกใจแตกตื่นกันเป็นแถวของที่สั่งไปหมดเลยครับไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็เจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้เหมือนกัน และมันมักจะเกิดเวลาเราไปคนเดียวหรือสองคนมันน่ากลัวมาก วันนั้นผมเลยโทรนัดเพื่อนมากินข้าวในขณะที่นั่งกินข้าวกันอยู่ก็ลองคุยกันกับเรื่องที่เจอเจอกันมาซึ่งดูแล้วก็ไม่ใช่แค่ผมเพียงคนเดียวที่คิดแบบนี้คนอื่นๆก็คิดแบบผมเหมือนกันผมก็เลยพูดขึ้นมาว่าวันที่จะเผามาแล้วลืมตัดเพื่อนกับมันหรือเปล่าว่าผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่อื่นเขาทำกันในเวลาที่คนในครอบครัวเสีย เพื่อนเสียอะไรแบบนี้พวกเขามีพิธีตัดพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงหรือเปล่าวันงานศพนั้นเราก็ลืมจริงๆเราพวกเราเคยเอ่ยปากชนแก้วกันว่าจะเป็นเพื่อนกันไปตลอดใครตายไม่ตายก็จะอยู่กันไปนั่นแหละตายแล้วอย่าลืมมาหากันล่ะ เอามาคิดถึงตอนนี้ผมก็พูดกับพวกเพื่อนๆว่าพวกมึงนี่ไม่ควรพูดอะไรแบบนั้นกันเลยจริงๆ จากนั้นเราก็ปรึกษากันว่าจะเอายังไงต่อ เพื่อนที่เป็นคู่แฝดมันก็บอกว่าลองไปถามแม่เก่งดูไหมว่าจะทำยังไงดีแบบนี้ไม่ไหวคบเราต้องตายกันแน่ๆเล่นกันโคตรแรงเลย ตอนที่เราคุยๆกันอยู่นานน้องกัสมันก็สะกิดผมเบาๆแล้วถามผมว่าได้กลิ่นเน่าๆหรือเปล่าผมก็ตอบว่าไม่นะไม่เห็นได้กลิ่นอะไรแต่น้องกัสมันก็ถามย้ำอีกว่าไม่ได้กลิ่นจริงๆหรอผมว่าผมได้กลิ่นนะตอนมาใครเรียกมาหรือเปล่ากลิ่นแรงอ่ะ แล้วไอ้น้ำมันก็ยกมือขึ้นตอบว่าพี่เองตอนมาก็เรียกมันมากินข้าวด้วยนี่แหละเพราะผมก็พากันหัวเราะแบบแห้งๆแล้วด่ามันไปว่าไม่ปรึกษากันเลยจะบ้าตาย สักพักคู่แฝดที่เป็นแฝดน้องมันก็พูดขึ้นมาว่าพี่เก่งครับจะมาก็ขอมาแบบไอ้ที่หล่อๆดูดีๆหน่อยนะพี่ไม่เอาแบบเละๆพวกพี่เขาไม่กลัวแต่ผมกลัว แล้วก็จะมาทำอะไรพวกเราอีกเลยเราอยู่กันคนละที่แล้วต่างคนก็ต่างอยู่นะพี่ ทันทีที่มันพูดจบเชื่อไหมครับว่าจานข้าวที่เข้าเต็มใจของแฝดน้องมันกระเด็นหล่นจากโต๊ะเลยครับพวกเราได้แต่นิ่งเงียบ พอกินข้าวเสร็จพวกเราก็เดินทางไปหาแม่ของเก่งที่บ้านแล้วเล่าเรื่องให้ฟังแต่ไม่ได้เล่าทั้งหมดที่พวกเราเจอกันหรอกเราแค่บอกว่าเราลืมตัดเพื่อนกับเจ้าเก่งวันๆแม่เลยบอกว่าให้ไปวางไว้ให้หลวงลุงทำให้ท่านเป็นลูกของเก่งด้วย พอไปถึงท่านก็ทักว่าอ้าวออเจ้าเก่งมาด้วยเหรอพวกเรามองหน้ากันแล้วตอบธันวาครับชวนมันมาเป็นเพื่อน แล้วเราก็บอกกับหลวงว่ามาทำอะไรท่านก็ทำพิธีตัดเพื่อนให้กับพวกเรา เพราะทำพิธีเสร็จท่านก็บอกว่าระวังกันด้วยนะครับรถน่ะเดินข้ามถนนก็ระวังระวังด้วยช่วงนี้เขาแดกได้เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว หลังจากวันนั้นพวกเราก็สบายใจขึ้นมากคิดว่าอีกไม่นานเรื่องราวร้ายๆคงจะผ่านพ้นไปเสียที

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...