วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

บ้านสวนกลางป่า !!


         นี่เป็นเรื่องราวของผมเมื่อประมาณ 15 ปีก่อนตอนนั้นผมอายุประมาณ 9-10 ขวบผมและครอบครัวได้ย้ายไปอยู่กับคุณตาคุณยายที่จังหวัดลำพูนที่นั่นถ้านับจากถนนใหญ่แล้วติดถนนจะเป็นโรงเรียนที่ผมย้ายไปเรียนออกจากหลังโรงเรียนไปจะเป็นทางเข้าหมู่บ้านยาวไปท้ายหมู่บ้านทักไปราวๆ 1 กิโลเมตรกว่าๆจะเป็นป่าช้าและเมรุเผาศพซึ่งข้างๆป่าช้าจะมีถนนดินแดงเล็กๆ ตั้งแต่ตรงนั้นไปจะไม่มีไฟถนนไม่มีบ้านคนหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆเลยเพียงแต่ทุ่งนาคนๆสลับกับสวนกล้วยบ่อปลายาวไปตลอดทาง ระหว่างทางที่จะถึงบ้านของคุณตาจะมีต้นโพธิ์ต้นใหญ่ผูกผ้าสามสีอยู่ข้างทางเพราะขับไปสักพักก็ถึงบ้านคุณตาร่วมระยะทางไปบ้านของคุณตาถ้านับตั้งแต่ป่าช้าก็ราวๆ 3 กิโลเมตรได้ตัวบ้านจะเป็นบ้านเดี่ยวอยู่กลางสวนผลไม้และคอกสัตว์ต่างๆ ผ่านสวนไปก็จะเป็นป่าด้วยความที่ผมย้ายไปกันทั้งครอบครัวมีพ่อแม่พี่สาวและตัวผมเองถึงมีห้องนอนไม่เพียงพอคุณตาและคุณยายเลยแยกออกไปอยู่บ้านหลังเล็กที่ไม่ห่างจากบ้านใหญ่มากนะและอยู่ติดกับป่าหลังบ้าน เนื่องจากว่าวันนั้นครอบครัวผมว่าจะเดินทางไปถึงก็ดึกแล้วเลยตกลงกันว่าให้คนของเข้าบ้านกันก่อนค่อยจัดของกันในวันพรุ่งนี้แล้วผมก็เดินเข้าห้องไปห้องที่ผมได้อยู่จะมีเพียงแค่เตียงอยู่ตัวเดียว ในห้องโล่งๆหน้าไปทางหน้าต่างไม้บานพับเก่าๆติดกระจกขุ่นๆอยู่ด้านบนและหันหน้าไปทางป่าพอดีกลางดึกของคืนนั้นขณะที่ผมนอนอยู่ก็รู้สึกหนาวขึ้นมา มันหนาวมาก ทั้งทั้งที่ผมอยู่จนผมแทบจะนอนต่อไปไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ผมกำลังสะลึมสะลืออยู่นานก็มีแสงแปลกๆส่งเข้ามาในห้องให้กระจกขุ่นบนหน้าตามันแปลกมาเอาแสงนั้นมันเป็นแสงสีแดงส่งมาจากมุมสูงพอๆกับหลังคาบ้านเลยในตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่ามันคืออะไรและคิดไม่ออกด้วยจนแสงนั้นมันค่อยๆหายไปแล้วก็มีเสียงมาแทนมันเป็นเสียงคนเดินอยู่ข้างนอกบ้านเสียงมันค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆจนเหมือนมีคนหลายสิบคนเดินอยู่รอบบ้านและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันก็เริ่มมีเสียงทุบหน้าต่างกับประตูหน้าบ้านตอนแรกเป็นเสียงทุกชาชาเบาเบาๆโจ๊ะๆ จนมันแรงขึ้นเรื่อยๆเหมือนอยากจะพังมันเข้ามา ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูกกลัวมาแปลกใจไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรได้แต่นอนร้องไห้อยู่บนเตียง ไม่นานมากพ่อก็มาอุ้มของออกไปจากห้องพอไปถึงห้องพ่อก็เห็นพี่สาวผมเธอกำลังร้องไห้และกอดแม่อยู่ ผมจึงได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่ผมเพียงคนเดียวที่ได้ยินเสียงดังทุกคนได้ยินกันหมดสักพักคุณตาก็เข้ามาแล้วบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวพวกเขาก็ไปนอนพักเถอะ แล้วคุณตาก็เดินหายออกไปนอกบ้านคืนนั้นครอบครัวของผมจึงนอนกันที่ห้องพ่อกันหมดไม่มีใครกล้าแยกไปไหนคนเดียวเลย วันต่อมาคุณตาก็ตั้งศาลเล็กๆไว้ข้างบ้านแล้วกำชับพ่อให้ดูแลสามีดีๆอย่าให้เด็กๆออกนอกบ้านตอนกลางคืนเด็ดขาดซึ่งผมได้มารู้ทีหลังว่าคุณตาแล้วไม้มาจากต้นโพธิ์มาทำเป็นสารเหล่านี้แม้ว่าตอนนั้นผมจะยังเด็กก็ตามแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าที่นี่ไม่ปกติหลังจากนั้นถึงจะไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรงเกิดขึ้นเหมือนกับในคืนได้แต่ก็ยังคงมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นอยู่เสมอครับผมมักจะเห็นคุณลุงคนหนึ่งอยู่บริเวณบ้านบ่อยๆแกใส่เสื้อสีขาวกางเกงขาสั้นกับมอเตอร์ไซค์เก่าและทุกคืนที่ผมกลับจากข้างนอกกับครอบครัวก็เจอลุงคนนี้นั่งอยู่ในศาล หน้าป่าช้าทุกครั้งผมพยายามจะไม่คิดอะไรมากแต่ความรู้สึกมันบอกว่ามันน่าจะมีอะไรไม่ปกติ ได้แต่สงสัยว่าคุณลุงเป็นใครมาทำอะไรมืดๆคนเดียวแล้วทำไมถึงชอบมาอยู่แถวบ้านทั้งๆที่แถวนั้นไม่มีใครอยู่เลย นอกจากบ้านคุณตาผม ผมเลยถามคุณตาว่ารู้จักลุงทำไมคุณตาก็เอาแต่หัวเราะแล้วบอกเองแต่ว่าลุงเขาอยู่แถวนี้มานานแล้วก็พาเขามาเองแหละไม่มีอะไรต้องห่วงหรอกแล้วก็หัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลกตั้งแต่นั้นมาผมก็ให้ชื่อเรียกลุงคนนั้นว่าลุงขาว เมื่อเห็นแก่ผมก็จะยกมือไหว้อยู่ห่างๆแล้วมันจะบอกกับคนอื่นอยู่เสมอว่าเจอลุงขาวที่ไหนบ้าง

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...