วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
วิญญาณจากห้องชันสูตรศพ !!
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของน้องผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งได้เราว่านี่เป็นเรื่องแรกของดาวที่จะมาเล่าเรื่องราวอาจจะไม่น่ากลัวสักเท่าไหร่แต่เราภูมิใจที่อยากจะนำเสนอในมุมแปลกที่เราเคยเจอถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ณที่นี้ด้วย ก่อนที่จะเล่าเราขออภัยหรือยังสถานที่บุคคลที่เราได้กล่าวถึงไว้ณที่นี้ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ของเราที่อยากทำงานด้านจิตอาสา เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมาณต้นปี 2557 เราได้มีโอกาสเข้าไปบริจาคโลงศพที่สถานที่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เราอยากให้พี่เจ้าหน้าที่พาเราเข้าไปดูศพเพื่อเป็นการตรงแม้ว่าปกติเราจะเป็นคนกลัวผีมากก็ตามแต่วันนั้นนึกยังไงไม่รู้เลยป้าขอพี่เจ้าหน้าที่ว่าอยากไปช่วยแต่งหน้าศพพี่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเพราะเข้าใจเจตนาของเราดี แล้วเราก็เริ่มแต่งหน้าศพตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาโดยไม่เคยมีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นปกติเราเราจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงช่วงเที่ยงถึงบ่ายจากนั้นเราก็เข้าออฟฟิศไปทำงานช่วงแรกพี่เจ้าหน้าที่ให้เราช่วยแค่แต่งหน้าหลังจากที่เขาผ่าเย็บใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ถ้าพ่อไปบ่อยๆเข้าพี่เขาก็ให้เราเลื่อนตำแหน่งไปเป็นคนช่วยสระผมอาบน้ำแต่งตัวและแต่งหน้าซึ่งแน่นอนว่าเราจะต้องเห็นผู้เสียชีวิตทุกคนในสภาพที่ไม่ชวนมอง แรกๆก็ทำไปไม่เคยเจออะไรแปลกๆจะมีก็เพียงแค่กลิ่นที่ติดมาเท่านั้น ขึ้นปีที่ 2 ประมาณต้นปี 2558 จำได้เลยว่าเป็นศพเด็กอายุประมาณ 1 ขวบเสียชีวิตจากปอดบวมแล้วก็แต่งตัวทาแป้งให้กับน้องแต่วันนั้นเรารู้สึกสงสารน้องมากและคิดในใจว่าน้องมีบุญน้อยขอให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีถ้ามีบุญกับพี่ก็มาเกิดเป็นลูกพี่ก็ได้ หลังจากเสร็จงานในวันนั้นเรากลับคอนโดระหว่างทางก็เจอเด็กๆเล่นกันอยู่แล้วเดินตามปกติแต่มีเด็กคนหนึ่งมองหน้าเราแล้วอีกคนก็มองตามแล้วก็ยิ้มให้ ซึ่งโดยปกติเราเด็กจะไม่ค่อยกล้าสบตาเราสักเท่าไหร่เพราะเราสีหน้าค่อนข้างโหดแต่เด็กพวกนั้นเดินตามมาจนถึงหน้าลิฟต์ตอนนั้นเรายังไม่คิดอะไรจนกระทั่งเขารีบไปก็มีคุณแม่คนหนึ่งอุ้มลูกเข้ามาใน Live เด็กน้อยคนนั้นมองเราตาไม่กระพริบตอนนี้เราเริ่มเอะใจนึกถึงเด็กที่เราแต่งตัวให้เมื่อตอนกลางวันแล้วในคืนเดียวกันนั้นเพื่อนก็มาไซส์นอนที่ห้องเราหลังจากที่หลับไปกลางดึกเขาลุกไปเข้าห้องน้ำโดยไม่เปิดไฟในห้องหรือไฟในห้องน้ำเพราะห้องของเรานั้นถ้าไม่ปิดมันจะยังพอมีแสงสว่างอยู่ป่าวทำให้เห็นได้หมด วันที่เขานั่งทำธุระอยู่ก็สะลึมสะลือเหมือนคนตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกทั่วๆไปเพราะเขาใกล้เสร็จธุระก็ลืมตาขึ้นแล้วเขาก็ได้เห็นเงาดำๆของเด็กผู้ชายนั่งในท่าคุกเข่าอยู่ที่มุมสุดของพื้นห้องน้ำเด็กคนนั้นกำลังจ้องมองเขาอยู่เพราะเขาเห็นก็ตัวสั่นด้วยความกลัวรีบเดินมานอนข้างๆเราและเล่าให้เราฟังว่าเขาเจออะไรในห้องน้ำ เราก็บอกเขาว่าแค่ตาฝาดไปหรือเปล่าแต่ในใจเรานั้นรู้แล้วว่าต้องเป็นน้องคนนั้นแน่ๆ จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นเรากับเพื่อนก็ลงรีบไปทำงานด้วยกันตามปกติเพราะเข้าไปใน Live ก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งทุ่มลูกเข้ามาด้วยเด็กคนนั้นเป็นเด็กเล็กอายุประมาณ 6 เดือนได้แล้วไม่ใช่เด็กคนที่เจอเมื่อวานด้วยเด็กได้หันหน้ามาจ้องมองเราอีกแล้วแต่คราวนี้เราเล่นด้วยยิ้มและพูดหยอกล้อไปด้วยแล้วก็เห็นน้องจ้องมองเราตาไม่กระพริบเรามั่นใจทันทีเลยว่าต้องเป็นน้องคนนั้นแน่ๆสงสัยว่าน้องคงจะตามเรามาเราเลยอธิษฐานในใจบอกให้เขากลับไปหาแม่ ป่านนี้แม่เขาคงจะเดินทางมาติดต่อรับศพน้องแล้วหลังจากนั้นเพราะผ่านไปได้ระยะหนึ่งเหตุการณ์แบบนี้ก็ค่อยๆหายไป วันหนึ่งซึ่งเป็นอีกวันที่เราแวะเข้ามาทำหน้าที่ตามปกติในยามว่างเราจะช่วยงานไปโดยไม่คิดอะไรกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าอยู่แล้วแต่วันนั้นเราแต่งหน้าทำศพให้กับพี่ผู้หญิงท่านหนึ่งซึ่งแก่ดูอ้วนมากอ้วนจนแก่นอนเลยรถเข็นออกมา เราก็แอบคิดในใจว่าพี่เขาเป็นอะไรจึงเสียชีวิตหรือแกอาจจะมีโรคประจำตัวแล้วก็แอบมองท่อนแขนท่อนขาของพี่เขาก็ใหญ่มากแล้วคิดในใจว่าหนูจะแต่งให้พี่สวยที่สุดนะคะ หลังจากที่จิตอาสาเสร็จแล้ววันต่อมาเราก็ไปทำงานที่ออฟฟิศซึ่งเราต้องจอดรถชิดกำแพงตึกด้านหน้าก็จะมีกำแพงส่วนด้านหลังจะมีเสาปูนเวลาเข้าจอดรถจะต้องหักพวงมาลัยอยู่หลายครั้งเราก็หักพวงมาลัยรถวันนั้นรู้สึกตั้งลำยากมากถึงแม้ว่าเราจะขับรถมา 10 ปีแล้วก็ตามขณะที่กำลังตั้งลำจะจอดรถอยู่นั้นก็มีจังหวะหนึ่งที่เราเผลอเหยียบคันเร่งมากเกินไปจึงรีบเหยียบเบรคเบรคนั้นรู้สึกว่ารถหยุดแต่มันหยุดแปลกๆ เหมือนชนกับอะไรบางอย่างที่นิ่มนิ่มๆเด้งๆทำให้รถเด้งกลับมันมีความรู้สึกเหมือนฟูกหรือที่นอนแล้วก็บรรยายไม่ถูก มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆใจพี่ไม่ไปชนอะไรเข้า ในขณะที่เรายังจอดรถไม่เสร็จก็ถอยหลังอีกรอบคราวนี้รู้สึกว่าเหมือนกับถอยทับอะไรบางอย่างลักษณะเป็นท่อนๆๆนิ่มๆซึ่งมันทำให้รถยกขึ้นและลงตอนนั้นเราเริ่มใจเสียเราก็จอดรถเสร็จเราก็รีบลงจากรถก็มองดูที่ใต้ท้องรถว่าทำอะไรหรือเปล่าเราค่อยๆก้มมองลงไปก็ปรากฏว่าข้างใต้นั้นไม่มีอะไรเลยสักชิ้นเดียวเพราะเดินไปดูที่หน้ารถบริเวณนั้นก็ไม่มีอะไรที่เราชนแล้วนุ่มๆเลยจู่ๆเราก็นึกถึงสภาพร่างกายของพี่สาวคนนั้นขึ้นมา ก็เลยเอ่ยปากขอโทษและขอบคุณที่มาส่งแถมยังช่วยไม่ให้รถชนเสาอีกวันต่อมาก็ได้จิตอาสากับชายท่านหนึ่งสภาพร่างกายของเขาดูปกติดีแต่ปากของพี่เขาฉีกเลยต้องใส่หน้ากากอนามัยปิดไว้เพื่อไม่ให้ยากรู้สึกสะเทือนใจมากเกินไปเมื่อมารับศพเราก็แต่งหน้าแต่งตัวให้พี่เขาในชุดสีน้ำตาลที่เขาใส่ ในใจก็อธิษฐานด้วยความสงสารที่เขาต้องมาเสียชีวิตแบบนี้หลังจากที่เสร็จงานเราก็ขับรถเข้าออฟฟิศตลอดเวลาที่เราขับรถเราได้กลิ่นเหม็นอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ยังมีใจอะไรเพราะปกติครีมจะติดเสื้อผ้ามาบ้านอยู่แล้วสักพักก็คงหายแต่วันนี้หนักกว่าทุกทีมันเหม็นจนเรารู้สึกอยากอ้วกอยู่ตลอดเวลา จนมาถึงออฟฟิศพยายามนั่งทำงานตามปกติก็ยังได้กลิ่นนั้นอยู่เลยเดินไปปริ้นงานที่เครื่องปริ้นอีกฝั่งนึงห่างจากตกเพราะเปิดตู้เอกสารออกก็แทบจะอ้วกกลิ่นนั้นมันก็ทักเข้ามาเต็มจมูกจนแทบทนไม่ไหวซึ่งโดยปกติเราเล่นที่ตู้เก็บกระดาษพวกนี้จะมีกลิ่นแบบกระดาษปกติแต่วันนี้กลิ่นมันเหม็นเน่ามามันเป็นกลิ่นคาวเลือดจากศพ เราเริ่มใจคอไม่ดีแล้วนึกย้อนกลับไปว่าวันนี้เราคิดลบหลู่หรือคิดอะไรไม่ดีกับร่างไร้ชีวิตเรานั้นหรือเปล่าพยายามนึกอยู่นานแต่ก็นึกไม่ออกเลยเดินเข้าลิฟต์ลงไปสูบบุหรี่สูบเสร็จก็กลับเข้ามาที่ลิฟท์ อีกครั้งปกติเราเราจะได้กลิ่นบุหรี่ที่ตัวเราแรงมากแต่วันนี้อินทร์บุรีแทบไม่มีติดตัวเลยทั้งในจมูกในลิฟมีแต่กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปหมดจนเราใจเสีย เพราะเข้ามาในออฟฟิศก็เจอแม่บ้าน ซึ่งเป็นคนมีเซ้นเรื่องพวกนี้แกมักจะเห็นอะไรที่เราไม่เห็นอยู่เสมอแล้วแกก็รีบเดินปรี่เข้ามาหาเราที่หน้าตาตื่น แม่บ้านถามเราว่าวันนี้ไปทำจิตอาสามาหรือเปล่าเราก็พยักหน้าตอบรับไปว่าไปมาแม่บ้านก็ถามอีกว่าวันนี้เราแต่งตัวให้ผู้ชายผอมๆใส่เครื่องแบบชุดสีน้ำตาลใช่หรือเปล่าเราตกใจหน้าตาตื่นทันทีเราทุกวันเราจะไม่เคยบอกใครเลยว่าไปทำอะไรมาแม่บ้านพูดต่อว่าเขาคนนั้นเดินตามมาตั้งแต่เราออกจากลิฟต์แล้วใบหน้าของเขาดูยิ้มแย้มเหมือนจะเป็นคนใจดีตอนนี้เขายืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตูห้องเราได้ยินนานๆก็ขนลุกยืนนี่ทำอะไรไม่ถูกคิดว่าพี่เขาคงจะมาส่งเราเราก็เลยพนมมือแล้วคิดในใจว่าขอบคุณพี่ที่มาส่งขอให้พี่ไปสู่ภพภูมิที่ดี อีและขอให้พี่กลับไปรับส่วนกุศลที่ญาติร่วมทำไปให้ด้วย สักพักกลิ่นนั้นก็หายไป อาการพะอืดพะอมก็หายไปด้วยนอกเหนือจากการที่เราเข้าไปทำจิตอาสาเราบางครั้งก็จะจัดกิจกรรมเป็นตัวแทนบอกบุญกับเพื่อนๆคนรู้จักรับบริจาคเงินไปซื้อผ้าดิบและโรงศพให้แก่สถานที่อื่นเป็นประจำเพราะเราเชื่ออยู่เสมอว่าการทำบุญกับผู้เสียชีวิตไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดหรือรูปแบบใดก็ตามมักจะมีสิ่งเร้นลับมาคอยปกป้องคุ้มครองเราให้แคล้วคลาดปลอดภัยอยู่เสมอเป็นบุญกุศลอันใหญ่หลวงของเราซึ่งมันเป็นความเชื่อของเราเองก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคลด้วย
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น