วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
อากง ห้อง 420 !!
โดยเรื่องราวที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นกับชายคนหนึ่งเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมาตอนนั้นผมทำงานที่โรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งแถวๆถนนจันทน์เขตสาทรเป็นงานทำความสะอาดห้องหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ารูมบอย ซึ่งงานส่วนใหญ่คือการทำความสะอาดห้องให้ลูกค้าเช็คเอาท์ออกไปแล้ว จะได้แจ้งไว้ที่แผนกต้อนรับให้รูมบอยขึ้นไปทำความสะอาดได้ลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนและแขกอาหรับ คืนที่เกิดเรื่องนั้นผมได้ทำงานกะดึกคนเดียวต้องดูแลห้องพักทั้งหมดเลยก็ว่าได้เพราะตอนกลางคืนไม่วุ่นวายจึงไม่ต้องใช้พนักงานหลายคน พร้อมเดินตรวจดูความเรียบร้อยของห้องต่างๆ ตามปกติจนถึงเวลาประมาณ 22:00 ขณะที่ผมเดินลงบันไดมาถึงที่ชั้น 4 ผมได้ทำเงินเหรียญ 10 ตกลงไปที่พื้นจึงก้มลงเก็บขณะที่กำลังก้มเก็บอยู่นานผมบังเอิญเหลือบมองลอดใต้หว่างขาก็เห็นชายแก่คนหนึ่งใส่กางเกงขาก๊วยยืนอยู่ด้านหลังผม ด้วยความตกใจผมจึงรีบลุกขึ้นแล้วหันกลับไปดูแต่ก็ไม่พบใครเลยแม้แต่คนเดียวมีเพียงแค่ผมคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงนั้น ตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อย่างใดคิดว่าเราอาจจะตาฝาดไปเองผมจึงเดินลงบันไดต่อไปที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องพักของพนักงานทำความสะอาดเวลาประมาณ 10:30 นเสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น ผมรับสายก็ได้รู้ว่าเป็นพนักงานต้อนรับโทรมาบอกให้ผมขึ้นไปที่ชั้น 4 ห้อง 420 คือตรวจดูความเรียบร้อยภายในห้องเท่าที่ผมดูห้อง 420 เป็นห้องสูทไม่ได้มีใครเช็คอินมานานแล้วตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่ยังไม่เคยที่จะได้เข้าไปทำความสะอาดในห้องนี้เลยเดี๋ยวก็รู้สึกแปลกใจก็ตอบตกลงไปว่าจะไปตรวจดูให้ผมมีกุญแจมาสเตอร์อยู่ 1 ดอกซึ่งกุญแจดอกนี้มันวิเศษมากๆสามารถเปิดได้ทุกห้อง เพราะเดินมาถึงหน้าห้องผมจึงหยิบกุญแจมาไขประตูแต่น่าแปลกใจมากผมเปิดกุญแจเข้าห้องนี้ไม่ได้ทั้งที่ใช้กุญแจ Master ใครแล้วแท้ๆผมลองพยายามอีกครั้งปรากฏว่าเป็นเหมือนครั้งแรกใครเท่าไหร่ประตูก็ไม่ยอมเปิด จึงรักความพยายามเดินกลับไปห้องแม่บ้านที่ชั้น 3 โทรศัพท์กับไปหาแผนกต้อนรับบอกกับเขาว่าผมเปิดห้องนี้มีได้เขาตอบกลับมาว่าห้องสูทห้องนี้เป็นห้องของเจ้าของโรงแรมเปิดไว้สำหรับให้ครอบครัวเข้ามาพักขอให้ผมลองขึ้นไปเปิดดูอีกทีผมจึงได้แต่ตอบรับและเดินขึ้นไปที่ห้องนั้นอีกครั้งแล้วหยิบกุญแจดอกเดิมมาขายแต่ก็เปิดไม่ออกเหมือนเดิมผมคิดว่าอาจจะมีลูกค้าอยู่ในห้องก็เลยพูดที่หน้าห้องไปว่านี่รูมบอยนะครับขออนุญาตเข้าไปตรวจความเรียบร้อยครับ พอผมพูดจบทุกอย่างนั้นก็ยังคงเงียบอยู่เหมือนเดิมไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมาทั้งสิ้นว่าผมลองเสียบกุญแจเข้าไปคลังคราวนี้มันกับเปิดออกได้อย่างง่ายได้ จึงค่อยๆแง้มประตูมองเข้าไปดูภายในห้องตอนนั้นตัวผมเองไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ตอนที่เปิดประตูเข้าไปผมกวาดสายตามองแต่มองเห็นไม่ถนัดเท่าไหร่นะเพราะค่อนข้างมีแสงสลัวสลัวเล็ดลอดผ่านกระจกจากระเบียงห้องเข้ามาเล็กน้อยตรงข้ามกับประตูที่ผมเปิดเป็นประตูกระจกเปิดไปที่ระเบียงและมีผ้าม่านปิดไว้บางส่วน สายตาของผมเลือกเป็นเก้าอี้โยกกำลังโยกอย่างช้าๆมองดูแล้วเคยเห็นรูปร่างลักษณะเหมือนคนนั่งอยู่บนเก้าอี้แม้จะมองเห็นไม่ชัดแต่ก็พอจะเห็นได้ว่าเป็นผู้ชายนั่งอยู่ผมจึงพูดออกไปว่าขออนุญาตตรวจห้องนะครับ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากชายคนนั้นที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มันจึงทำให้ผมไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปภายในห้องเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับผมจึงค่อยๆปิดประตู ตอนนั้นคิดว่าอาจจะเป็นญาติของเจ้าของโรงแรมที่ไม่อยากให้ใครรบกวนก็ได้ผมจึงเดินกลับไปที่ห้องพักพนักงานด้วยความสงสัยว่าคนในห้องนั้นคือใคร เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงคืนก็ได้เวลาพักเบรคทานข้าวซึ่งจะมีช่างซ่อมบำรุงและพนักงานจากส่วนต่างๆหลายคนมาพักเบรคด้วย พนักงานส่วนใหญ่เป็นคนเก่าคนแก่ทำงานที่โรงแรมแห่งนี้มานานแล้วขนาดกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่นานอยู่ๆฉันก็พูดขึ้นมาว่าคิดถึงแกนะพนักงานอีกคนได้ยินก็ตอบว่าคิดถึงเหมือนกันว่ะด้วยความสงสัยเพราะอยากรู้ว่าคุณคือใครผมเลยถามว่าอากงคือใครกับพี่ ฉันก็ตอบว่าอากงล่ะก็คือพ่อของเจ้าของโรงแรมนี่แหละเจ้าของห้อง 420 เขาคงได้ยินดังนั้นก็เลยตอบไปว่า คิดถึงก็ไปหาสิครับแกอยู่บนห้องนั่นแหละมือช่างและพนักงานได้ยินสิ่งที่ผมกูพวกเขาต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่แล้วถามผมเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นหรอเจอหรอที่แกนั่งเก้าอี้โยกอยู่บนห้องนั่นแหละผมตอบไปแบบไม่กินอะไรจะบ้าเหรออากงตายไปตั้งนานแล้วยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่ผมเล่าสิ่งที่นั่งโยกอยู่บนห้องทุกคนเงียบกริบมองหน้ากันและคิดว่าผมคงจะเจอจริงๆเพราะไม่เคยมีใครเล่าเรื่องอากงให้ผมฟัง แล้วช่างก็สูดลมหายใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเล่าว่าอากงอ่ะแกอายุมากแล้วแกป่วยหรือเสียที่ห้อง 402 นั่นแหละตอนเสียก็ใส่กางเกงขาก๊วยและเสื้อสีขาว เพราะแกพูดจบผมถึงกับขนลุกรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผมเจอในห้อง 420 กับที่บันไดชั้น 4 นั่นน่าจะเป็นอากงที่พี่เขาเหล้าแน่ๆหลังจากคืนนั้นช่วงที่ผมทำงานอยู่เวลาเดินตรวจที่ชั้น 4 กลางคืนจะรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆยิ่งตอนที่ต้องเดินผ่านห้อง 420 อยู่แล้วแทบอยากจะวิ่งผ่านไปให้เร็วที่สุดผมทนทำงานอยู่ที่นั่นได้ไม่ถึงเดือนก็ตัดสินใจลาออกไปทำงานที่อื่นแล้วผมก็ไม่ได้เจอเหตุการณ์อะไรร้อนๆแบบไม่คืนนั้นอีกเลย
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น