วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

วิญญาณ​ตามติด !!


           คืนนั้นที่เจอผีหลอกทุกเราแทบทุกคนก็จับไข่กันไปหลายวัน ไม่กี่วันหลังจากนั้นเพราะหายจะไข้แล้วเราก็ได้สืบหาประวัติของคนนั้นว่าเขาเป็นใครเราได้ไปหาเบลซึ่งพ่อของเบลเป็นผู้ใหญ่บ้านอยู่ที่หมู่บ้านนี้มานานแล้ว เมื่อเราได้เล่าเรื่องที่เจอผีให้ไปเอาฟังแล้วก็มีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดแล้วมันก็เงียบไปพักหนึ่ง เราเลยบอกเบลให้ไปถามพ่อให้หน่อยว่าเส้นทางที่เราจูงรถผ่านในคืนนั้นเคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าเดี๋ยวตอบตกลงว่าถ้าเจอพ่อแล้วจะทำให้ จากนั้นเราก็กลับเพื่อที่จะไปวัดอาบน้ำมนต์เราไปวัดกับพ่อแม่และพวกพี่ๆที่เจอเหมือนกัน พอไปถึงวันพ่อก็ขอให้หลวงตาทำพิธีให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีเมื่อเสร็จพิธีแล้วเราก็เห็นพ่อคุยกับหลวงตาเพราะคุยไปได้สักพักพ่อก็หันมามองเราเราไม่รู้ว่าพ่อพูดคุยอะไรกันกับหลวงตาก็ได้แต่ยิ้มตอบให้พ่อแต่พ่อไม่ได้ยินตอบกลับมา สีหน้าของพอเหมือนจะเป็นกังวลหรือสงสัยอะไรบางอย่าง สักพักพ่อก็ยิ้มให้เราเล็กหน่อยแล้วแกก็หันกลับไป หลังจากที่พ่อคุยกับหลวงตาเสดทุกคนก็กลับบ้านตอนเย็นเดี๋ยวมันก็โทรมาหาเราบอกว่าเรื่องที่เราขอให้เบลล์ช่วยถามพ่อให้หน่อยมันได้คำตอบมาแล้วเดี๋ยวก็เริ่มเล่าให้เราฟังว่า เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมานานแล้วก่อนที่พ่อของน้ำจะย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้เสียอีกบริเวณนี้เคยเป็นป่ามาก่อนมีถนนดินแดงครั้งหนึ่งมีคนชื่อถาพซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง ได้ขี่รถมาหาแฟนของเขาที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับที่น้ำอยู่ในปัจจุบันเพื่อที่จะมารับไปเที่ยวงานว่ะที่หมู่บ้านของเขา เมื่อไปถึงที่ว่าทั้งสองก็เดินเที่ยวเล่นงานวัดกันอย่างมีความสุข หลังจะไปเที่ยวกันเสร็จแล้วพักก็กลับมาส่งแฟนที่บ้านจากนั้นเขาก็ขี่รถกลับซึ่งไม่มีใครคาดคิดเลยว่ามันกำลังจะมีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นระหว่างที่เขาเดินทางกลับ รุ่งเช้ามีคนพบศพของท่านอนตายอยู่ริมถนนพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์ของเขาที่หลบอยู่ใกล้ๆ สภาพศพนั้นถูกทำลายซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะมีชายฉกรรจ์ไม่ทราบจำนวนดักทำร้ายจนรักของทัพล้มลงแล้วยังมีร่องรอยที่อยู่ต้นคอของเขาเหมือนกับถูกๆลูกไม้ตีจนตายคาที่น้ำได้ฟังเดียวเราก็รู้สึกสงสารพี่เขามาในขณะเดียวกันนั้นสู่อากาศโดยรอบก็เย็นขึ้นทั้งทั้งที่ไม่มีลมพัดเลยแม้แต่น้อยแต่เราก็พยายามไม่สนใจแล้ววางสายจะเร็วไปก็เปลี่ยนแสงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้วเราและครอบครัวก็ทานอาหารกัน พอทานเสร็จก็ค่ำพอดี แม่ก็ใช้ให้เราเอาข้าวไปให้หมาที่หน้าบ้านในระหว่างที่เรากำลังเรียกหมาอยู่ในสายตาเราก็มองไปเห็นเงาดำๆที่อยู่ด้านหลังต้นมะม่วงหน้าบ้านซึ่งห่างออกไปหลายเมตรแต่ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจอะไร ขณะที่เรากำลังทำให้หมาของเราอยู่นาน เราก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาน้ำตามันไหลออกมาเองโดยไม่รู้ตัวอากาศโดยรอบก็เย็นขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อเราทำเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมาและกำลังจะเดินกลับเข้าไปในบ้านเราก็เห็นชายคนหนึ่งใส่เสื้อสีแดงยืนมองเราจากด้านหลังของต้นมะม่วงต้นเดิมคราวนี้เราเห็นชัดมาเขาช่องมองสายตาเขมรดวงตาสีแดงเก่า ปากได้ยากจะวิ่งหนีแต่ก้าวขาไม่ออก เรายืนนิ่งตัวแข็งอยู่ จนเขาชี้นิ้วมาทำเหมือนจะบอกอะไรสักอย่าง สักพักพ่อก็ตะโกนเรียกเราจากในบ้านแล้วชายคนนั้นก็ค่อยๆเลือนหายไป เรากลับเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางที่สั่นจนพ่อถามเราว่าเป็นอะไรพอเริ่มตั้งสติได้เราก็เล่าให้พ่อฟังว่าชื่ออะไรมาพอได้ฟังก็นิ่งไปสักพักแล้วบอกให้เราไม่ต้องคิดอะไรมาให้อาบน้ำแล้วก็รีบเข้านอน พ่อนำเรื่องนี้ไปเล่าให้กับแม่และพี่ของเราฟัง แม่กับพี่จึงตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะพาเราไปหาหลวงตาอีกครั้งให้แกดูให้หน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นกับน้ำแค่คนเดียวยังมีพี่อีกพี่เอและพี่ต่ายที่โดนเหมือนกันกับน้ำด้วยซึ่งผู้หญิงโดนหนักกว่าใครเพื่อน วันถัดมาขณะที่แม่กำลังจะพาน้องไปหาหลวงตาพ่อก็เข้ามาบอกว่าไม่ต้องไปหรอกแล้วบอกกับทุกคนว่าฉันตอนที่น้ำไปอาบน้ำมนต์ใดๆที่พ่อของเราหันมามองเราซึ่งหลวงตาบอกกับพ่อว่ามันเป็นชะตาของน้ำที่จะต้องเจอกับสิ่งดีล่ะพวกนี้และผีที่เจอก็แค่อยากให้น้ำไปบวชชีพราหมณ์ 7 วันเผื่อแผ่บุญกุศลให้เขาเพียงเท่านั้นก็ไม่มีอะไรแล้วทุกคนที่ได้ยินพ่อเราก็เงียบแม่จึงพูดต่อว่างั้นวันพรุ่งนี้ก็ให้น้ำไปบวชชีพราหมณ์ก็แล้วกันจัดหนักจะได้กลายเป็นเบา เช้าของวันถัดมาขณะที่น้ำเตรียมตัวก็จะไปว่าพี่หนึ่งพี่ชายของน้ำก็มาบอกว่าคืนก่อนพี่เอกับพี่ต่ายก็โดนผีหลอกเหมือนกันพวกเขาเจอตอนที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่หน้าบ้านของพี่ต่ายซึ่งวันนั้นพี่เอไปเที่ยวหาพี่ตายพอดี ทั้งสองคนได้ยินเสียงผู้ชายพูดอย่างชัดเจนว่ากูจะเอามึงไปอยู่ด้วย หันไปมองตามเสียงนั้นแต่ก็ไม่เห็นมีใครอยู่ตรงนั้นเลยสภาพอากาศบริเวณโดยรอบก็เย็นขึ้นมายังผิดปกติวิสัยจริงเดินออกมาหน้าบ้านเพื่อหาสาเหตุว่าทำไมอากาศมันเปลี่ยนแปลงเร็วอย่างนี้แต่พอก้าวขาออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าวอากาศที่เย็นเยือกนั้นก็หายไปเหมือนกับว่ามันเย็นเฉพาะในบ้านของเธอเพียงเท่านั้น เพราะพี่เต้ยหันหน้ากลับมาตรงที่พี่เอนั่งอยู่ก็ต้องตกใจยืนนิ่งแล้วบอกกับพี่ว่า พี่รีบหันไปมองข้างหลังในทันทีแล้วสิ่งที่แกเห็นอยู่ตรงหน้าก็ทำให้แกถึงกับชอบก็คือตอนนั้นยืนอยู่ข้างหลังพี่จ้องมองมาทางเขาตาเขมรแล้วพูดว่ากูจะเอาพวกมึงไปอยู่ด้วยมึงก็มาอยู่กับกู พอสิ้นเสียงทั้งสองคนก็พากันวิ่งหนีเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งเสียงหัวเราะของพี่ตอนนั้นที่มันดังอย่างสยดสยองอยู่ด้านหลัง เพราะพี่หนึ่งเราเจาะน้ำก็ยืนนิ่งตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าจะมีคนอื่นที่เจอหลอกเหมือนกันสักพักแม่ก็เดินเข้ามาบอกกับเราว่าวันนี้ยังไม่ต้องไปว่ะเราแปลกใจมา ในขณะที่เรากำลังจะถามแม่แม่ก็พูดขึ้นมาว่าไปเยี่ยมผู้หญิงที่โรงพยาบาลก่อนพี่หญิงประสบอุบัติเหตุตอนนี้อยู่โรงพยาบาล น้ำกับพี่หนึ่งตกใจทำอะไรไม่ถูกในใจของเราได้แต่หวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอให้ไม่เกี่ยวกับผีตอนนั้น จากนั้นแม่เราและพี่หนึ่งก็พากันไปโรงพยาบาล เมื่อมาถึงโรงพยาบาลพวกเราก็เจอกับแม่ของผู้หญิงยืนอยู่ แม่เราทิ้งถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วแม่ของพี่หญิงก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนขณะที่ผู้หญิงกำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านก็ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูพี่คิดว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรมีรถต่อไปจู่ๆก็มีเงาดำวิ่งตัดหน้ารถแกตกใจกับเบรคมือแน่นพร้อมทั้งเหยียบเบรคเท้าอย่างกะทันหันส่งผลให้รถเสียหลักพลิกคว่ำตัวแกก็เดินไปอยู่กลางถนนพร้อมกับหลอดที่ตรงนั้นเป็นเส้นทางที่มือรักเปลี่ยวพอสมควรแสงไฟจากเสาไฟฟ้าก็ไม่มี หลังจากที่พี่อีกนอนเจ็บอยู่กลางถนนได้สักพักแกก็ฟื้นคืนสติคืนจึงพยายามคลานออกไปอยู่ริมถนน เพราะๆออกมาได้มีนาก็มีรถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็วชนรถของผู้หญิงเสียงดังสนั่นหวั่นไหวแล้วลากรถไปไกลหลายสิบเมตรชนรถคันนั้นต้องหยุดลง นี่ถ้าแกไม่ตัดสินใจความออกมาคงจะถูกรถทับตายไปแล้วแน่ๆ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...