วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

วิญญาณ​เฮี้ยน​ 413 !!


         เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังหาอพาร์ตเมนต์พื้นที่เช่าอยู่บ้านของเขาอยู่ไกลจากที่เรียงค่อนข้างมาครั้งหนึ่งเขาได้ไปหาเพื่อนที่อพาร์ตเมนต์แห่งนั้นเรารู้สึกชอบมากเพราะมันใกล้กับพี่เลี้ยงของเขาเลย ก็เลยไปติดต่อกับป้าที่ดูแลอพาร์ทเม้นท์แห่งนั้นแต่กลับบอกว่าห้องมันไปหมดแล้วเขาจึงได้ให้สินน้ำใจกับป้าไป 100 บาทหวังว่าไม่มีห้องว่างเมื่อไหร่ก็ให้ป้าช่วยบอกกับเขาด้วยจากนั้นเขาก็ทิ้งเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ให้กับตาตกดึกของคืนนั้นป้าแกก็โทรมาบอกกับเขาว่ามีห้องว่างห้องหนึ่งให้เขาเข้ามาอยู่ได้เลยในตอนเช้าเขาก็ดีใจคนสงสัยว่าทำไมห้องมันถึงบ้านเร็วอย่างนี้ แต่ความดีใจก็เลยไม่ได้คิดอะไรเช้าวันต่อมาเขาก็ไปยังอพาร์ทเม้นท์เพื่อดูห้องป้าแกก็พาไปดูห้องเช่าห้องนั้นอยู่ที่ชั้น 4 ถ้าป้าแกเดินมาส่งถึงแค่ชั้น 3 แล้วแกก็หยุดบอกกับเขาว่าให้ขึ้นไปดูเองป้าแกชั่วรอที่ชั้นล่างเพราะมีธุระที่จะต้องทำเขาก็งงงงๆและเดินขึ้นไปดูเองซึ่งห้องนั้นเป็นห้อง 413 ไม่เห็นเลขห้องเขาก็รู้สึกแปลกๆความรู้สึกในตอนนั้นมันรู้สึกว่าไม่อยากจะเข้าไปอยู่ในห้องนี้แต่เมื่อมาถึงที่แล้วก็ลองไขกุญแจเข้าไปดูสักหน่อยว่าเปิดเข้าไปในห้องก็รู้สึกว่าห้องนี้มันเหมือนกับไม่มีคนอยู่มานานมากแล้วในห้องมีเฟอร์นิเจอร์เตียง โต๊ะอ่านหนังสือพัดลมเพดานตัวใหญ่ซึ่งก็เป็นปกติเหมือนอพาร์ทเม้นท์โดยทั่วๆไปหลังจากที่เขาดูห้องเสร็จก็เดินลงมาหาปลาที่ชั้นล่างด้วยความที่ไม่อยากได้ห้องนี้เขาเลยพูดว่าขอคิดดูก่อนนะป้าเพราะป้าได้ยินคำนี้ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะลดค่าห้องให้จากเดือนละ 2,500 เหลือ 2,000 บาทซึ่งโดยปกติต้องวางมัดจำ 7000 บาทแต่ป้าก็ลดให้เหลือ 4,000 ด้วยความคิดมีสิ่งมาล่อตาล่อใจอย่างดีและเห็นว่ามันราคาถูกเขาเลยตกลงเช่าห้องนั้นในทันที ในวันที่ขนของเข้าเขาเดินผ่านป้อมยามยามก็มาช่วยหิ้วพัดลมแล้วก็ถามเขาว่าจะไปห้องไหนเพราะเขาบอกเลขห้องไปอยู่ๆยามก็รีบวางพัดลมในทันทีแล้วบอกว่าต้องออกไปซื้อข้าวแต่เขาก็ยังไม่ใจอะไรในคืนแรกหลังจากที่เขาขนของเสร็จแล้วก็หลับไปก็ฝันว่ามีผู้หญิงผมบ๊อบสั้นหน้าตาดีมานั่งที่เก้าอี้พลาสติกซึ่งอยู่เยื้องไปจากเตียงเขาสักหน่อยนึงผู้หญิงคนนั้นเห็นเขามองก็เดินเข้ามาหาด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มและมาหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของเขาแล้วพูดว่าขอมาอยู่ด้วยได้ไหมแต่เขาก็ตอบไปว่าไม่ได้หรอกจะมาอยู่ด้วยได้ยังไงเพราะพูดจบสีหน้าของผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนไป จากที่ดูยิ้มแย้มในตอนแรกตอนนี้หน้าตาของเธอกลับดูจริงจังมากมันเปลี่ยนไปจากตอนแรกโดยสิ้นเชิงแล้วเธอก็พูดว่ากูขอให้มึงได้ไหมเธอพูดพร้อมกับจ้องเขาเขมรหน้าตาของเธอนั้นดูน่ากลัวจนทำให้เขาตกใจตื่นมองดูนาฬิกาก็เป็นเวลาตีหนึ่งครึ่งแล้วแม้ในตอนนั้นความรู้สึกกลัวของเขายังคงอยู่แต่ก็คิดว่าผมจะคิดมากปี ด้วยความที่เขาคิดว่าตอนย้ายเข้ามาอยู่เฝ้านำฟ้าหลวงพ่อโสธรมาด้วยซึ่งวางอยู่บนตู้แถมยังมีผ้าอย่างดีคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เลยพยายามนอนต่อแล้วเขาก็ปล่อยหลับไปเพิ่งต่อมาขณะที่เขากำลังนอนตามปกติก็ฝันอีกว่าผู้หญิงคนเดิมนั่งอยู่ที่เก้าอี้พลาสติกตัวเดิมเพราะเข้าห้องไปก็เห็นว่าวันนี้ หน้าซีดกว่าคืนก่อนเพราะเห็นเขามองเธอก็ค่อยๆเดินเข้ามาหา แต่คราวนี้ถ้าเดินขึ้นมาบนเตียงและนั่งยองๆลงบนเน่าเขาแล้วเธอก็เอื้อมมือมาพยายามที่จะบีบคอเขาเขาดิ้นทุรนทุรายพยายามสวดมนต์ทุกอย่างแต่ก็ไม่เป็นผล ในขณะที่ทุกอย่างกำลังจะมืดไปหมดเพราะขาดอากาศหายใจเขาก็คิดถึงแม่ขึ้นมาและพยายามตะโกนเรียกหาแม่เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆเขาก็หลุดแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมามองนาฬิกาก็เห็นว่ามันเป็นเวลา 01:30 เหมือนเขาว่าเลยมันทำให้เขากลัวมากกลัวจนทำอะไรไม่ถูกไม่ติดโทรศัพท์พอไปเรียกเพื่อนที่อยู่อีกตึกหนึ่งให้มานอนด้วย สักพักเพื่อนก็มาถึงเขาจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟังแต่เพื่อนก็ปลอบใจว่าคงไม่มีอะไรเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าให้ไปไหว้เจ้าที่เจ้าทางบอกกล่าวแล้วไปทำบุญ ในคืนที่ 3 หลังจากที่เขาไปทำบุญเสร็จเรียบร้อยในตอนเช้าก็คิดว่าคงไม่มีอะไรอีกต่อไปทำบุญไหว้เจ้าที่เจ้าทางแล้วแต่ก็ยังรู้สึกกลัวอยู่บ้างแล้วคืนนั้นเขาก็นอนหลับไป หลังจากที่นอนหลับไปได้สักพักหนึ่งเขาก็ฝันดีในฝั่งนั้นเขาเห็นผู้หญิงคนเดิมนั่งที่เก้าอี้พลาสติกตัวเดิมเพราะได้เห็นเขาจ้องมองเธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาแต่คราวนี้เธอลากเก้าอี้พลาสติกจะมาด้วยขณะที่เธอกำลังลากเก้าอี้เดินเข้ามานั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าที่คอของเธอมีเชือกเหมือนเชือกไนลอนเส้นใหญ่ผูกติดกับพ่อของเธออยู่หัวลากเก้าอี้เดินตรงเข้ามาเพราะเดินมาถึงกลางห้องเธอก็หยุดซึ่งตรงจุดนั้นมันติดกับเตียงของเขาพอดีว่างั้นมองดูบนเพดานก็เห็นมีพัดลมตัวใหญ่แขวนอยู่ เธอวางเก้าอี้เราขึ้นไปยืนบนเก้าอี้จากนั้นก็นำเชือกไนลอนไปแขวนกับพัดลมแล้วก็ถีบเก้าอี้ออกเขาจะมองดูผู้หญิงคนนั้นด้วยความตกตะลึงเห็นเธอกำลังชักดิ้นชักงออยู่ตรงหน้าลิ้นเริ่มจุกป่าในตาถลนเปิดโปงเหมือนคนที่กำลังจะขาดใจตายไม่นานหนักตาของเธอก็ปิดลงมือพับลงมาอยู่ข้างลำตัวจนเธอแน่นิ่งไป เขาชอบมากได้แต่จ้องมองสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นตกใจขณะที่เขากำลังตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกอยู่ๆผู้หญิงคนนั้นก็ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วเขามองเห็นนัยน์ตาของเธอคนนั้นมันมีแต่สีขาวไม่มีตาดำ เธอกำลังจ้องมองมาที่เขาแล้วก็หัวเราะอย่างสะใจเขากลัวมาก  พอเริ่มได้สติเขาก็รู้ว่าตัวเองฉี่ราดที่นอนเสียแล้วเขาวิ่งหนีไปหยุดอยู่ที่ระเบียงในขณะที่ตอนนั้นใส่แค่กางเกงบ๊อกเซอร์แค่ตัวเดียว เขาหันกลับไปมองในห้องอีกครั้งก็เห็นเก้าอี้พลาสติกตัวนั้นตั้งอยู่กลางห้องเหมือนกับในฝันแล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาซึ่งมันเป็นเวลา 01:30 แล้วก็มองไปยังพระที่ตั้งอยู่ใกล้ๆปรากฏว่ารากที่เขาจัดวางไว้ในตอนแรกเหมือนกับว่าถูกจับหันหลังเข้าหาฝาผนังเขามั่นใจว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำแบบนี้แล้วไม่มีใครที่จะจับฆ่าหันหลังแบบนั้นแน่นอนเพราะคิดได้ดังนั้นเขาจึงวิ่งหนีลงไปข้างล่างก็เจอยามยามตกใจที่เห็นสภาพของเขาในตอนนั้นก็เลยถามว่าเป็นอะไร แต่ในตอนนั้นเขากลัวมากจนพูดไม่เป็นภาษาแล้วยามก็ฟังไม่รู้เรื่องรู้เพียงแต่ว่าต้องการโทรศัพท์ขอยืมโทรศัพท์หน่อย ไม่นานรักเพื่อนของเขาก็มารับไปที่ตึก 1 เขาไปห้องเพื่อนทั้งทั้งที่กางเกงเปื้อนฉี่แบบนั้นแล้วก็เล่าทุกอย่างให้เพื่อนฟัง ซึ่งเพื่อนก็ให้ความเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นคงไม่อยากให้เขาอยู่ที่ห้องนั้นแล้ว พอถึงตอนเช้าเขาก็โทรไปหาป้าคนดูแลตึกแล้วก็ไปต่อว่าป้าคนนั้นบังคับให้บอกว่าห้องนั้นมีอะไรไม่อย่างนั้นจะฟ้องเจ้าของตึก จนในที่สุดก็คาดคั้นเอาความจริงจากป้าคนนั้นมาได้ถ้าแกได้บอกว่าเมื่อก่อนมีผู้หญิงกับผู้ชายซึ่งเป็นแฟนกันมาอยู่ด้วยกันที่ห้องนานแล้วก็มีปากเสียงทะเลาะกันอยู่บ่อยๆเนื่องจากผู้ชายได้มีหญิงอื่นมาติดพันจนในที่สุดผู้ชายคนนั้นก็หนีไปทำให้ผู้หญิงเสียใจมากเมื่อหาทางออกไม่ได้และไม่มีใครให้ปรึกษาด้วยอารมณ์ชั่ววูบเธอและคิดสั้นฆ่าตัวตายโดยผูกคอตายแขวนกับพัดลมในห้องนั้น เมื่อตำรวจมายังที่เกิดเหตุและมีเจ้าหน้าที่มาชันสูตรศพก็คาดเดาว่าเธอคงตายเราราวๆตีหนึ่งสามสิบนาทีแล้วห้องนั้นก็ถูกปิดไประยะหนึ่งไม่ให้คนมาเช่าจนเรื่องนี้เริ่มเงียบไปก็นำห้องนี้กลับมาให้คนเช่าอยู่อีกครั้งแต่พอมีใครมาเช่าอยู่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะทุกคนเจอผีหนีกระเจิงกันหมด เจ้าของก็เลยสั่งปิดตายห้องนี้ไวแล้วห้องนี้ก็ถูกปิดตายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...