วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

วิญญาณ​ที่รอคอย !!


         ย้อนกลับไปเมื่อปีพ.ศ 2558 ตอนนั้นเราอายุได้ 18 ปีแล้วเพิ่งจะสอบติดมหาวิทยาลัยขอนแก่นทั้งบ้านของเราก็พอมีฐานะอยู่บางก็เลยคิดว่าจะไปเช่าบ้านอยู่ไม่พักหอในเหมือนกับคนอื่นๆ ถ้าเราไม่ได้พักคนเดียวเพราะเรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งมาพักอยู่ด้วย เพื่อนคนนี้เธอฉันแต่มฉันเป็นคนร่าเริงชอบร้องเพลงขนาดเข้าห้องน้ำนั่งปลดทุกข์อยู่มันยังร้องเพลงได้เลย วันนั้นเป็นวันแรกที่เราจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านพักซึ่งบ้านหลังนี้เราหามาจากเว็บไซต์เว็บหนึ่งแล้วก็ได้ติดต่อเจ้าของเพื่อที่จะเช่าอยู่กัน 2 คนกับเพื่อนบ้านหลังนี้มันเป็นบ้าน 2 ชั้นชั้นบนเป็นไม้ส่วนชั้นล่างเป็นปูนมี 2 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำซึ่งเป็นห้องน้ำที่อยู่ในตัวบาง ถึงแม้ว่าจะมีอยู่ 2 ห้องแต่เราทั้งสองก็นอนห้องเดียวกัน ในช่วงเช้าที่เรา 2 คนกับเพื่อนขนของเข้ามาก็เดินเล่นสำรวจภายในบ้านว่าจะนอนห้องไหนทุกอย่างมันก็ปกติดีเพราะเลือกห้องได้แล้วก็เริ่มจัดของภายในห้องทำความสะอาดห้องและบริเวณโดยรอบก็จะเสร็จเรียบร้อยตอนนั้นก็ดึกแล้วเมื่อทำทุกอย่างเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำคนละห้อง แต่มอาบน้ำใกล้กับห้องนอนของพวกเราส่วนเราก็ไปอาบน้ำอีกชั้นหนึ่ง ในระหว่างที่อาบน้ำอยู่เราก็ได้ยินเสียงแต่มร้องเพลงอย่างมีความสุขเหมือนกับทุกๆครั้ง แต่มร้องเพลงหนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือซึ่งเป็นเพลงคู่ชายหญิงแต่มันก็ร้องคนเดียวนั่นแหละ เราไม่เอากับมันด้วยหรอ เติมก็ร้องเพลงไปเรื่อยๆทุกอย่างก็ดูเป็นปกติดี เชื่อไหมว่าตอนนี้เป็นเสียงผู้ชายรองมันมีเสียงผู้ชายเพิ่มขึ้นมาปนกับเสียงของแต่มันด้วยตอนแรกเราคิดว่ามันคงเปิดเองไปด้วยร้องไปด้วยจึงไม่ได้สนใจอะไร เราอาบน้ำได้อีกสักพักก็จะห้องน้ำมาก่อนแต่ง แล้วเราก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นเพราะห้องของเราที่เพิ่งจัดของเสร็จของในห้องมันกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมดเหมือนกับถูกหรือคนเราตกใจมากคิดว่ามีโจรบุกเข้ามาภายในห้องจึงรีบๆให้แต่บอกมา แล้วเราก็รีบสำรวจประตูหน้าต่างมันก็ล็อคแล้วปิดสนิทดีไม่มีอะไรผิดปกติ เมื่อตรวจดูสิ่งของภายในห้องก็เห็นว่าทุกอย่างอยู่ครบไม่มีอะไรหายไปเลยเราแปลกใจมาว่ามันเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นเองแต่มันก็ออกมาจากห้องน้ำแต่มันมีท่าทางแปลกๆเพราะแบบมันยืนนิ่งหน้าตาซีดเผือดเราจึงเดินเข้าไปหามันแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่มันก็ยังทำนานี่ไม่มีการตอบรับใดๆ เราจะแขนมันเขย่าเรียกซ้ำอีกครั้ง  แต่ม​ แต่มม จะได้สติน้อยสักพักแต่มันก็รู้สึกตัวแล้วมันก็บอกให้เรารีบแต่งตัวออกไปตลาดกัน เราไม่ได้ถามอะไรมันต่อรีบแต่งตัวแล้วก็ไปตลาดด้วยกัน ในระหว่างที่เดินตลาดกันอยู่นานแต่มันก็เริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องให้เราฟัง มันบอกว่าตอนนี้น้ำฝนเรียกเต็มออกมาจากห้องน้ำเอามันออกมาก็เห็นวิญญาณตนหนึ่งกำลังยืนอยู่ด้านหน้าของน้ำฝนแล้ววิญญาณตนนั้นก็หันมาทางแต่พูดบอกกับแป๋มว่าเธอคนดีเราขอนะ แสตมป์ได้ยินก็ตกใจมากขนลุกไปทั้งตัว ในขณะที่ตนกำลังจะตอบว่าไม่ได้วิญญาณที่อยู่ตรงนั้นก็เคลื่อนเข้ามาเหมือนกับขวัญแล้วยืนอยู่ตรงหน้าของแต่แอบเอามือมาปิดปากเต็มวัย ตอนนั้นแต่งตัวมาจนชอบไปเลย เพราะน้ำฝนเดินเข้ามาวิญญาณตนนั้นก็หายไปแล้วเต็มก็มีอาการอย่างที่น้องฝนเห็นนั่นแหละ เราจึงเป็นคนที่ได้อยู่แล้วจึงไม่กลัวสักเท่าไหร่ก็เลยบอกกับแป๋มไปว่าไม่มีอะไรหรอกไว้ค่อยไปทำบุญให้เขาแต่ในใจตอนนั้นเราก็คิดว่าแน่จริงทำไมไม่มาหาน้องฝนอีกทำไมต้องมาทำให้เพื่อนเรากลัวด้วยเราก็คิดไปเรื่อยๆจนเดินกลับมาถึงบ้านพักแล้วก็นำน้ำแดกกับส้มที่ซื้อมาจากตลาดเอาไปไหว้เจ้าที่ที่ศาลหน้าบานพร้อมกับนึกอยู่ในใจบอกกับเจ้าที่ว่า ผีตัวที่ทำให้เพื่อนน้ำฝนกลัวน่ะเจ้าที่ต้องจัดการเอาตัวมาคุยกับคนให้รู้เรื่องนะคะ หลังจาก ey แล้วบอกกล่าวเจ้าที่เสร็จก็กลับเข้ามากินอาหารเก่าแล้วก็นั่งเล่นคุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนถึงเวลาเข้านอนคนอีสานอย่างเราก็ไม่ลืมสิ่งที่พ่อแม่เคยสอนเรามาให้ไหว้พระก่อนนอน แต่ในขณะที่กำลังไหว้พระอยู่นั้นก็มีเสียงผู้ชายคนละ 10 เอามาที่ข้างหูบอกว่าเรารอเธอมานานมากแล้วไม่ต้องไหว้พระหรอกเสียเวลา เสียงนั้นฟังดูเสื้อเกลียดจนน่าขนลุกแต่เราก็พยายามไม่สนใจไหว้พระต่อจนเสร็จจากนั้นพวกเราก็เข้านอนเพราะนอนไปได้สักพักเราก็รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังฝันอยู่ เราเห็นสภาพบ้านที่เราอยู่ในตอนนั้นเปลี่ยนเป็นบ้านที่กำลังจะจัดงานอะไรสักอย่างแล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาหาเราถามว่าจะลงไปได้หรือยังพิธีกำลังจะเริ่มแล้วนะ จากนั้นชายคนนั้นก็มานั่งข้างๆเราเราพูดว่า ชาติก่อนเราเคยเป็นคนรักกันแต่พ่อกับแม่ของเธอไม่ยอมรับเราเธอเองก็เช่นกันเราเชื่อฟังสิ่งที่พ่อแม่บอกเราจึงตัดสินใจเอามีดที่พกมาแทงไปที่ท้องของเธอ 3-4 ครั้งจนเธอหมดสติไปเราคิดว่าเธอตายแล้วก็เลยฆ่าตัวตายตาม แต่ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าแพ้ที่เธอโดนแทงมันกลับไม่โดนจุดสำคัญเธอก็เลยรอดตายมาได้ส่วนเรานั้นตายไปแล้วได้แต่เฝ้ามองดูเธอมาโดยตลอดรอมานานมากจนมาถึงชาตินี้ที่เธอกลับมาบ้านหลังนี้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เราจะเอาเธอไปอยู่ด้วยให้ได้ หน้าฝนรีบตอบกลับไปว่าน้ำฝนเป็นคนที่เป็นผียังไงก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ไว้น้องฝนจะทำบุญไปให้เราอย่ามาจองเวรกันเลยนะคะ แล้วใบหน้าของเขาและน้ำเสียงก็เปลี่ยนไปพร้อมกับบ้านที่ดูเหมือนกำลังจะมีงานรื่นเริงก็เปลี่ยนเป็นบ้านที่มีสภาพเก่าชายคนนั้นหน้าตาจากที่เป็นปกติก็เริ่มซีดลงและปรากฏรอยแผลขนาดใหญ่ที่ลำคอแล้วเขาก็พูดได้เสียงที่ใหญ่แหบแห้งและเย็นเพื่อบอกกับเราว่ากูไม่เอากูจะเอามึงไปอยู่ด้วย เราตกใจตะโกนเรียกเพือนในขณะที่เรากำลังอยู่ในท่านอน แอมที่นอนอยู่ข้างๆก็สะดุ้งลุกขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนั้นก็หายไป วันรุ่งขึ้นน้ำฝนก็โทรหาแม่แล้วเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง พ่อแม่ได้ป่ะก็บอกแค่น้ำฝนต้องไปหาคนช่วยแล้วแม่ก็ให้เบอร์โทรติดต่อกับคุณยายท่านหนึ่งที่เป็นร่างทรงเราจึงเดินทางไปในวันนั้นเลยซึ่งเราขอไม่เอ่ยถึงสถานที่นี่ว่าที่ที่เราไปนานเป้นที่ไหน เพราะเราเดินทางไปเถอะคุณยายร่างทรงก็ตะโกนด่าคืนพูดว่ามึงตามเขามาทำไมฝนจะเต็มตกใจกับสิ่งที่ได้อีกเท่าในบ้านร่างทรงหลังเล็กๆเก่าๆหลานๆมีคุณยายคนนั้นอยู่เพียงคนเดียวแล้วก็มีเรากับแป๋มที่เพิ่งจะมาถึงเราจึงถามกลับไปว่ายายว่าใครหรอคะ ยายจริงต่อก็ว่าพี่น่ะสิมันตามพวกหนูมา เราตกใจกับสิ่งที่ยายบอกแล้วยายคนนั้นก็พูดต่อว่าผีผู้ชายน่ะมันก็รั้งรู้มาตลอดเลยรู้ไหมไอ้โชคยังดีที่หนูยังมีบุญคุ้มครองอยู่มามันก็เลยทำอะไรหนูไม่ได้ จากนั้นเราก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ยายท่านฝากแต่ยายกลับบอกว่าช่วยอะไรไม่ได้มากนักหรอกทำได้เพียงแค่ให้วิญญาณตนนั้นเข้าใกล้หนูทั้งสองคนไม่ได้เพียงเท่านั้น เพราะเขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรและรอคอยมานานแล้วนอกเสียจากว่าเขาจะยอมตัดใจแล้วจากไปอีกยายช่วยอะไรไม่ได้แล้วยายก็บอกว่าให้เราไปทำบทขออโหสิกรรมต่อเขาไปตลอดเผื่อว่าวันหนึ่งเขาอาจจะตัดใจได้จากนั้นใยร่างสูงก็ทำพิธีอะไรสักอย่างแล้วนำอะไรก็ไม่รู้มาให้กับเราและบอกให้พกติดตัวไว้โดยตลอด เราทั้งสองคนออกมาจากบ้านของใหญ่ตอนนั้นก็เป็นเวลา 1 ทุ่มกว่าแล้วเรารีบขับรถกลับมายังบ้านพักกับเพื่อนแต่ระหว่างทางกลับก็เห็นผู้ชายคนนั้นยืนมองฝนกับแป๋มอยู่ข้างทางเพราะขับผ่านไปก็เห็นชายคนนั้นยืนอยู่ที่ข้างทางอีกแล้วก็เห็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆตลอดทางจนถึงบ้านพัก หลังจากนั้นเราทั้งสองก็ไม่เคยเห็นชายคนนั้นอีกเลย

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...