วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

รักยม !!


         ผมชื่อเต้ยอายุ 28 ปีครับเป็นคนจังหวัดนครสวรรค์เหตุการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ก็เกิดขึ้นที่นี่แหละครับเพียงแต่ว่าเป็นคนละดาวผมเช่าห้องอยู่กับเพื่อน 2 คนซึ่งผมชื่อหนุ่ยครับตอนนั้นผมได้ไปเช่าของขลังมาอย่างหนึ่งที่เขาเรียกกันว่ารักอยู่มันมีลักษณะเป็นขวดเล็กๆมีไม้รักกับไม้หย่อมและน้ำมันจันทร์อยู่ข้างในซึ่งผมทำเป็นจี้ห้อยคอเพื่อที่จะนำมาช่วยให้ขายของดีวันหนึ่งผมได้เอารักยมแขวนไว้ที่หน้ากากแล้วก็ทำความสะอาดห้องพักไปปัดมาต้นไม้ขนไก่เจ้าเก่ามันฟากโดนขวดรักอย่างที่ผมแขวนเอาไว้ไปกระแทกกับขอบหน้าต่าง อ้วนที่มันเปราะบางอยู่แล้วก็เลยแต่น้ำมันจากที่อยู่ข้างในก็กระเด็นมาเข้าตาผมผมรีบเก็บเศษของมันที่พอจะเก็บได้แล้วหาขวดมาใส่ใหม่ผมไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นจะทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปและได้ยินอะไรมากกว่าคนอื่นตอนนั้นผมกังวลเพียงแต่ว่ารักยมจะไม่อยู่ด้วยก็เลยรีบโทรหาจากที่ผมเช่ารักยมมาแต่พออาจารย์รับสายพันธุ์ก็พูดมาว่าเด็กๆกลับมาหมดแล้วโดยที่ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นครับเหตุการณ์มันเกิดหลังจากนั้นอีก 2 วันเพื่อนผมที่ชื่อเบลล์มันโทรมาขอให้พวกผมไปช่วยมันขนของย้ายห้องเรามันกำลังจะย้ายไปบ้านเช่าใหม่ที่ราคาถูกกว่าเดิมมาแค่เดือนละ  1,500 บาทเท่านั้นเองบ้านที่มันไปเช่าอยู่นานอยู่ในหมู่บ้าน 1  ผมกับปุ๋ยก็ตกลงว่าจะไปช่วยหมา พวกผม 4 คนมีผมให้ปุ๋ยให้เบลแล้วก็นนท์เมียของไอ้เบลมันก็ช่วยกันขนของจนทำมือเพราะขนของเสร็จพวกเราก็นั่งพักกันตรงโถงของปากตรงนั้นจะมีประตูกระจกใสซึ่งอยู่บริเวณหน้าบ้านมันสามารถมองเห็นฝั่งตรงข้ามได้แบบชัดมาก ขอนั่งกันไปได้สักพักเดี๋ยวกับนนท์ก็ขอตัวออกไปข้างนอกเพื่อจะไปหาซื้ออะไรมาเลี้ยงพวกผมที่มาช่วยขนของในวันนี้ส่วนผมกับปุ๋ยก็ยังคงนั่งหมดแรงกันอยู่ที่เดิม บ้านแถวนี้อยู่ติดกันหลายอย่างคล้ายกับทาวน์เฮ้าส์แต่ว่ามีชั้นเดียวบรรยากาศก็วังเวงมากด้วยเช่นกันเพียบมาเงียบจนพวกผมคนเลยผมก็มองดูนาฬิกาในโทรศัพท์ก็เห็นว่าตอนนี้มันก็สามทุ่มแล้วคงมองไปเรื่อยเปื่อยมองข้าวของที่คนมากันสายตาก็มองออกไปทางหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามก็เห็นเงาดำๆยืนอยู่จุดจุดนั้นมันก็ย่อตัวหลอกแล้วก็กระโดดลงไปกราบครั้งไปคว้านมาอยู่ที่หน้าบ้านน่ะ แต่สิ่งที่ทำให้ผมยิ่งขนลุกก็คือเรานั้นครางไวมากไว้เกินกว่าที่คนปกติจะคลานได้ในขณะที่ผมกำลังตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นและตัวสัตว์ไอ้ปุ๋ยมันก็ตกใจร้องทักผมว่าเป็นไร มันเห็นผมตาคางมองไปที่หน้าบ้านฝั่งตรงข้ามมันก็หันไปมองตามแต่มันคงจะไม่เห็นอะไรจึงหันกลับมาแล้วก็เขย่าตัวผมพร้อมกับถามว่าเป็นอะไรแต่เมื่อไม่ได้รับการตอบกลับใดๆมันจึงลุกเดินไปรูดม่านที่ประตูหน้าบ้านเพื่อปิดและหยุดอาการตกตะลึงของผมตอนนั้นผมพูดอะไรไม่ออกเลยครับผมกลัวมากบอกตรงๆเลยว่าไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ไอ้ปุ๋ยมันก็พยายามดึงสติผมให้หายสระผมก็พยายามทำใจให้นิ่งจนกระทั่งเบลและนุ่นกลับมาตอนนั้นสติผมเริ่มกลับคืนมาแล้วจึงพยายามทำตัวให้ปกติที่สุดไม่กล้าพูดว่าเห็นอะไร ผมหันกลับไปมองที่ประตูบานนั้นที่มีผ้าม่านปิดอยู่ซึ่งทำมามันปิดไม่หมดมันลอยเหนือพื้นเขาไม่มีช่องว่างอยู่ประมาณครึ่งไม้บรรทัด แล้วสิ่งที่ผมเห็นก็คือพร้าวคอร์ดมันเป็นทั้งคนหลายคู่ด้านนอกของประตูทุกคู่ดูสกปรกมาอยู่ได้ทันทีเลยว่ามันไม่ใช่ความกลัวจึงรีบลุกขึ้นเข้าห้องนอนที่นุ่มจัดไว้ให้ แล้วนอนคงต่อคนที่เห็นการกระทำของผมก็แปลกใจสงสัยว่าผมเป็นอะไรพวกมันจึงเดินตามเข้ามาถามผมในห้องผมก็เลยตอบแต่ว่ากูเหนื่อยขอนอนก่อนแล้วกันแต่ถึงอย่างนั้นผมก็หลับไม่ลงเลยทั้งคืนว่าจะมารับอีกทีก็เช้าแล้วผมหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้มารู้ตัวตื่นอีกทีก็เป็นเวลา 18:00 น เมื่อผมตื่นขึ้นมาก็พบว่าผมอยู่คนเดียวในป่าแถมให้เพื่อนเจ้ากรรมมันดันล็อคประตูหน้าบ้านจากภายนอกมือถือผมก็แบตหมดสายชาร์จอยู่ตรงไหนก็หาไม่เจอ ตอนนั้นผมกลัวมาเอามันกำลังจะเข้าอีกแล้วผมเลยเสียงปีนออกหลังบ้านไปบ้านข้างๆที่ว่างอยู่คือจะออกมาจากตรงนั้นให้ได้แล้วก็ไปนั่งรอพบกันตรงร้านข้าวหน้าปากซอยเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆก็เดินทางกลับมา พวกมันแปลกใจว่าผมออกมาจากบ้านได้ยังไงออกมาตอนไหนแต่ผมก็ไม่พูดอะไรบอกกับปุ๋ยว่าอยากกลับแล้วจากนั้นผมกับปุ๋ยก็แยกย้ายกันกับเบลและนนท์วิธีรถมอเตอร์ไซค์ออกมาโดยมีผมเป็นคนซ้อนท้าย ระหว่างที่กำลังจะออกจากหมู่บ้านจู่ๆผมก็เห็นบางสิ่งทบหลังปุ๋ยรัวๆแล้วปากก็พูดไม่หยุดว่าไปๆมึงไปเร็วๆเลยไปเร็วตอนนั้นผมกลัวมากยังจำภาพหลอนของคืนก่อนได้ติดต่อ รีเลย์บิดคันเร่งขี่รถเร็วมากส่วนผมก็ร้องโวยวายตลอดทางเพราะเราขี่มาจนถึงวัดวันหนึ่งผมก็เริ่มมีอาการสงบหรอก ให้ปุ๋ยเห็นผมกำลังจะหอบอยู่จึงถามว่าเมื่อกี้มึงร้องโวยวายอะไรเป็นอะไรของมึงวะ แต่ผมก็บอกกับมันว่ากลับไปที่หอก่อนแล้วจะเล่าให้ฟังเพราะเรากลับมาถึงหอผมก็เล่าให้มันฟังว่าตอนที่ผมโวยวายนั้นผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างผอมดาบเนื้อแห้งติดกระดูกใส่เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยใช้คนนั้นวิ่งตามรถของพวกเราล้มลุกคลุกคลานแต่ก็ตามมาไวมากจนเกือบจะถึงรถของพวกเราพอมาถึงหน้าว่าชายคนนั้นก็หายไป เพราะผมเราให้ปุ๋ยฟังก็ยิ่งกลัวหนักมากขึ้นไป หลังจากกินข้าวอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็นั่งหายใจหายคอกันอีกสักพักเริ่มสงบลงผมกับเพื่อนก็เข้านอนตอนเช้าก็ไปตักบาตรทำบุญที่วัดเมื่อผมได้กลับไปที่หมู่บ้านนั้นอีกครั้งก็สอบถามชาวบ้านแถวนั้นว่าบริเวณที่เพื่อนผมไปเช่าอยู่มันเคยมีอะไรหรือเปล่าทำไมคนถึงไม่ค่อยมาอยู่กัน ผมจึงได้รู้จักปากคนแก่แถวทั้งที่ตรงนั้นเคยเป็นสุสานแขกมาก่อนแล้วได้มีการล้างป่าช้าจากนั้นก็ก่อสร้างบ้านที่มาให้เช่าอย่างที่เห็นนั่นแหละผมคิดว่าผมเป็นเพราะน้ำมันจากที่อยู่ในขวดรักยมกระเด็นเข้ามาในตาของผม จึงทำให้ผมเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นก็เป็นได้

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...