วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ค่ายลูกเสือร้าง !!


             เรามีชื่อว่าน้ำปัจจุบันอายุ 19 ปีอำเภอเมืองจังหวัดลพบุรีเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันเกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วนี่ตอนนั้นที่โรงเรียนมีการเข้าค่ายลูกเสือพักแรม 2 คืน 3 วันซึ่งค่ายที่เราไปพักกันอยู่นานก็ไม่ไกลจากบ้านสักเท่าไหร่ ก่อนที่เราจะมายังค่ายนี้ก็เคยได้ยินอยู่บ้างว่าที่นี่เคยถูกปิดปล่อยทิ้งร้างมาหลายสิบปีแล้วมันก็ถูกปรับปรุงทำความสะอาดดูแลขึ้นมาใหม่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังสงสัยว่ามันถูกปิดเพราะอะไร เวลา 8 โมงเช้าของวันเสาร์เมื่อพวกเราและครูผู้ดูแลเดินทางมาถึงค่ายแล้วที่เราเดินเข้าไปก็รู้สึกไม่ดีเท่าตัวเราเองก็เป็นคนมีเซ้นอยู่แล้วแต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะที่นี่เป็นป่าเธอเลยดูครึ้มๆ จึงไม่ได้คิดอะไรก็ทำภารกิจของลูกเสือเนตรนารีต่อไปซึ่งมีการผจญภัยฐานต่างๆพอตกเย็นก็อาบน้ำกินข้าวตามที่ครูสั่งแล้วคุณครูก็ให้นักศึกษาไปจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ในขณะที่เรากำลังจุดธูปอยู่ก็เห็นคนแก่ 2 คนยืนอยู่ด้านหลังศาลซึ่งก่อนหน้านั้นเราสังเกตเห็นว่าที่ตรงนั้นมันไม่มีใครยืนอยู่เลยตรงนั้นมันก็มืดมากด้วยแต่ที่ทำให้เราพอจะมองเห็นได้ก็เพราะไฟฉายจากมือถือที่เปิดซองในตอนนั้นเรารู้สึกขนลุกไปทั้งตัวพร้อมกับตัวสั่นแต่ปากก็ยังท่องตามที่กูบอกพยายามจะไม่คิดอะไรมาก จู่ๆเราก็เอาขึ้นมาแล้ว 5 ปากกว้างมาหาวน้ำตาไหลจนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหันมามองเพื่อนคนหนึ่งทักเราขึ้นมาว่าน้ำแกเป็นอะไรเราก็ไม่ได้ตอบมันทำแบบนี้อยู่ 3 4 ครั้งแล้วก็เงียบไปสักพักมันก็หันมาพูดอีกว่าให้น้ำยาเล่นอะไรแบบนี้นะน่ากลัวตอนนั้นครูต้องจบพอดีแล้วก็ให้นักศึกษาทุกคนดำทั่วไปปักในกระถางตรงหน้าศาล เมื่อเราปรับถูกอาการแปลกๆนั้นก็หายไป หลังจากจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางเศษเพราะเราก็ไปเข้ากิจกรรมตอนกลางคืนต่อ แม้บรรยากาศตรงนั้นมันจะมีความสนุกและมีเสียงดังแต่เราก็มีความรู้สึกว่ามันซ่อนความวังเวงเอาไว แล้วเหมือนกับว่ากำลังมีคนจ้องมองอยู่ภายนอกอาคาร แต่เราก็พยายามไม่คิดอะไรมาจนเสร็จกิจกรรมตอนกลางคืนทุกคนจึงแยกย้ายกันเข้าที่พัก ซึ่งที่พักจะแบ่งออกเป็นห้องห้องแยกชายหญิงและนอนกันได้ห้องละ 10 คน ห้องพักนี้จะมีลักษณะคล้ายบ้านหลังเล็กๆ ถ้าอยู่ข้างนอกมองเข้าไปก็จะเห็นคนข้างในได้เท่าตัวบ้านก็พูดขึ้นมาถึงระดับอกเท่านั้นแล้วก็จะเป็นมุ้งลวดสลับกับไม้การเป็นแผ่นๆตลอดทั้งหลัง และมีห้องน้ำอยู่ด้านหลังห้อง ที่ด้านหลังห้องน้ำก็จะเป็นป่าเถอะซึ่งมันดูน่ากลัวมากในตอนกลางคืน เพราะพวกเรามาถึงที่พักก็มีเพื่อนคนหนึ่งจะเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเพื่อนคนนี้ชื่อว่า B  พี่มันขอให้เราไปเฝ้าหน้าห้องน้ำให้มันหน่อยเพราะมันกลัว เราก็ไปเฝ้าให้ ในระหว่างที่รอมันอาบน้ำอยู่นั้นเราก็ร้องเพลงไปด้วยร้องยังไม่ทันจบไปเองก็มีเพื่อนอีกคนที่อยู่ในห้องเรียกให้ไปหาเราจึงเดินออกไปจากหน้าห้องน้ำนั้นผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีในขณะที่เรากำลังจะกลับไปที่หน้าห้องน้ำ เพื่อนคนที่ชื่อพี่ก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดีและด่าเราว่านั้นกูมึงไง ตอนนั้นเรากลัวว่ามันจะสติแตกก็เลยเงียบไม่เถียงกลับไป หลังจากนั้นเราก็หยิบลำโพงบลูทูธของเพื่อนผู้ชายที่ลืมไว้ในกล่องสิทธิ์ว่าของกลุ่มเอามาเปิดเพลงฟังซึ่งเพลงที่ฟังก็เป็นเพลงจังหวะแดนซ์ จนเวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆใกล้จะเที่ยงคืน อยู่ๆเสียงเพลงก็เงียบไป เราคิดว่าแบตคงจะหมดก็เลยไม่สนใจสักพักก็มีเสียงดังออกมาจากลำโพงเป็นเสียงคล้ายๆคลื่นวิทยุแล้วก็มีเสียงผู้ชายพูดขึ้นมาว่า คุณกูเป็นเพื่อนเล่นเหรอพวกเราทั้ง 6 คนที่อยู่ในห้องได้ยินกันหมดทุกคน ส่วนอีกสี่คนที่เหลือก็ไปหาเพื่อนอีกห้องนึง ตอนนั้นพวกเราทั้ง 6 คนต่างตกใจและเงียบกันหมดเราก็เลยร่วมมือไปปิดลำโพง ไม่นานก็มีผู้ชายประมาณ 7-8 คนซึ่งเป็นเพื่อนอยู่อีกห้องหนึ่งเดินมาหาที่หน้าห้องเราบอกว่ามาว่าลำโพงคือแล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อเหวยพูดขึ้นมาว่า เมื่อกี้เพื่อนผู้ชายในกลุ่มเห็นผีเป็นผู้ชายใส่ชุดขาว 2 คน เดินอยู่แถวๆที่พวกเราไปทำกิจกรรมกันในตอนกลางวัน ไอ้นี่มันเป็นปอเต็กตึ้งมันเห็นอะไรง่ายซึ่งเราก็สังเกตเห็นสีหน้าของเพื่อนผู้ชายคนนี้หน้าตาไม่สู้ดีนะหลังจากนั้นทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปนอน เพราะเช้ามาก็มีเพื่อนผู้ชายที่ชื่อแมนมาถามเราว่าเมื่อคืนไปทำอะไรหลังห้องของพวกเขา เรายืนงงอยู่พักหนึ่งแล้วตอบไปว่ากล่าวไม่ได้ไปไหนเลยอยู่ที่ห้องนี้ตลอด แต่มันก็เถียงกลับมาว่าเห็นเราจริงๆยังตะโกนถามเลยว่าเดินเข้าไปทำอะไรในป่า ตอนนั้นเรางงกับสิ่งที่แม่พูดมาแต่ก็ไม่อยากเถียงให้มากกว่าเพราะคิดว่าพวกผู้ชายน่าจะฟันหัวเราเลยให้เรากลัวจริงไม่สนใจแล้วไปเตรียมตัวเข้าเช้าวันนี้พวกเราจะต้องเดินทางไกลผ่านค่ายทหารและฝายน้ำล้น เมื่อออกเดินทางมาได้ซักผ้าพอถึงฝ่ายน้ำร้อนก็ต้องถอดรองเท้าเดินข้ามกันเพราะกลัวรองเท้าเฉลี่ย ทุกคนเดินผ่านไปได้ด้วยดีแต่มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อมาขณะที่เดินข้ามฝ่ายอยู่นานเขาก็ลื่นล้มตกลงไปในน้ำได้โชคยังดีที่กระแสน้ำไม่แหวกเขาขึ้นมาได้โดยมีสภาพเปียกไปเกือบทั้งตัวเขาบอกว่าขณะที่เดินข้ามฝายอยู่นานเหมือนกับมีใครไม่รู้จริงเขาลงไปเมื่อคุณครูด้วยความก็บอกว่ามาคิดไปเอง จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อเป็นระยะทางที่ไกลมากพอสมควร หลังจากเสร็จภารกิจการเดินทางไกลแล้วจู่ๆคุณครูผู้ชายท่านหนึ่งก็บอกกับพวกเราว่าเข้าค่ายที่นี่อย่าดื้ออย่าซนเพราะเจ้าที่แรง เมื่อคืนกูเจอมาแล้ว เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็ฮือฮาทำท่าสนใจกันใหญ่แล้วครูก็เล่าต่อว่าแกเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเล่นอยู่หน้าห้องพักของครูตอนนั้นครูตกใจมากทำอะไรไม่ถูก เพราะพูดถึงเรื่องนั้นก็ยังรู้สึกกลัวอยู่เลย แล้วครูก็เล่าต่อไปว่าก่อนที่พวกเราจะมาเข้าค่ายดีครูก็เพิ่งมาอบรมการเมื่อเดือนที่แล้วและได้นอนอยู่ที่นี่ถึง 5 คืนแต่โดนกันแทบไม่ได้เพราะมีเสียงคนเดินหน้าห้องกลางดึกทุกคืนในระหว่างที่คุณครูเหล้าอยู่เราก็เลยหันไปคุยกับเพื่อนว่าเชื่อในสิ่งเร้าหรือเปล่าหรือว่ารู้จะแต่งมาหลอกกัน เพื่อนก็ตอบกลับเรามาว่าครูหลอกชัวร์มันยิ้มแล้วหันกลับไปฟังครูเล่าต่อ สักพักเราก็ถามคุณครูแทรกเข้าไปว่า คืนนี้เป็นคืนที่ 2 และเป็นคืนสุดท้ายที่เราต้องนอนกันที่ให้ดีก่อนนอนในคืนนี้ก็มีกิจกรรมเล่นรอบกองไฟซึ่งมันสนุกมาหลังจากเสร็จกิจกรรมแล้วคุณครูก็ปล่อยทุกคนแยกย้ายกันไปนอนคืนนี้ก็แทบจะไม่มีใครได้นอนกันเพราะพวกผู้ชายแอบไปซื้อเหล้าขาวจากด้านในค่ายนี้มาดื่มกินกันจนถึงเช้าเพราะเช้ามาก็ปิดทองค่ายลูกเสือจากนั้นต่างคนก็ต่างกล่าว ถึงแม้ว่าถึงที่ 2 นี้เราจะไม่ได้เจอกับเหตุการณ์แปลกๆเท่าไหร่แต่พอกลับมาถึงบ้านและเล่าเรื่องที่เจอในค่ายให้ใหญ่กว่าย่อยของเราก็พูดขึ้นมาว่าที่ค่ายดีไม่มีใครเข้าไปกันหรอกพอดีนั้นเมื่อนานมาแล้วเคยมีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นเมื่อได้ฟังเราก็ตื่นเต้นสนใจในสิ่งที่ยายพูดมาจริงขอให้ยายเล่าต่อ ยายเราเล่าต่อว่าในสมัยก่อนมีพวกทหารกลุ่มหนึ่งได้พาผู้หญิงมาข่มขืนและฆ่าตายที่นี่หลังจากนั้นไม่นานก็มีเหตุการณ์ที่พวกทหารทะเลาะกันเองแล้วยิงกันตายที่นั่นทำให้ที่นั่นถูกปล่อยทิ้งร้างไวและก่อนหน้าที่เราจะไปเข้าค่ายนั้นก็มีกลุ่มค่ายลูกเสือเด็กไปเข้าค่ายที่นั่นเหมือนกันแล้วก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีแต่คนหนึ่งถูกไฟฟ้าช็อตตายทำให้ไม่มีใครเขาไปใช้ที่นั่นอีกมันจึงถูกทิ้งร้างมาอีกหลายปีจนถูกปรับปรุงใหม่นี่แหละ เมื่อเราได้ฟังสิ่งที่ยายกูก็ตกใจรู้สึกขนลุกแสดงว่าที่คุณครูเล่ามาไม่ได้โกหก หลังจากที่ยายเล่าจบได้สักพักก็มีวินมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาจอดส่งผู้โดยสารบริเวณหน้าบ้านของเราเมื่อเขาเห็นยายอยู่ตรงหน้าประตูบ้านด้วยความที่วินมอเตอร์ไซค์คุ้นเคยกับยายเขาก็พูดให้ฟังว่าเมื่อกี้ตอนเขาขี่รถมาก็เห็นมีรถปอเต็กตึ้งเข้ามาเก็บศพในบริเวณค่ายที่เราเพิ่งไปผ่านมาสอบถามคนแถวนั้นก็รู้ว่าเขามาเก็บศพคนตายซึ่งน่าจะโดนยิงตายมาจากที่ เราถูกนำศพมาทิ้งไว้บริเวณฝ่ายน้ำล้น สภาพศพนั้นขึ้นอืดและน่าจะตายมาได้ 2-3 วันแล้วเราได้ฟังก็ขนลุกไปทั้งตัวเท่าควายน้ำร้อนๆนั้นเป็นเส้นทางที่เราไปทำภารกิจเดินทางไกลเมื่อนึกถึงสิ่งที่มาร์คบอกว่าเขาตกลงไปในน้ำและรู้สึกเหมือนมีใครดึงขาลงไปยิ่งทำให้เรากลัวมากขึ้นไปอีก แต่โชคยังดีที่เราไม่ได้เห็นสดๆนั้นไม่อย่างนั้นคงจะร้อนนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้ติดต่อเพื่อนๆตามปกติแล้วก็ได้พูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในค่ายกับเพื่อนคนหนึ่งจึงได้รู้ว่าไม่ได้ดีเพียงแต่เราที่เห็นคนแก่ยืนอยู่ด้านหลังศาลเพียงคนเดียวเพื่อนเราคนนี้ได้คุยกับเพื่อนคนอื่นๆที่รู้จักกับกลุ่มคนที่เป็นปอเต็กตึ้งอยู่บ้างจึงเล่าให้เราฟังว่าปอเต็กตึงตอนที่เขาเข้าไปเก็บศพนั้นเขาก็เห็นคนแก่ยืนอยู่ด้านหลังศาลนั้นเหมือนกันซึ่งลักษณะที่เพื่อนเราเล่ามานานมันตรงกับที่เราเห็นอย่างไม่ผิดเพี้ยนและเราก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนคนไหนฟังเลย เพื่อนเรายังเล่าต่ออีกว่าพี่แบงค์รุ่นพี่คนหนึ่งก็ได้ไปเข้าค่ายดีด้วยคืนแรกที่ไปนอนที่ค่ายนานเขาก็เจอดีเลยในขณะที่ทุกคนนอนหลับกันหมดแล้วกลางดึกจริงๆพี่แบงค์ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมารู้สึกเหมือนมีใครนอนเบียดอยู่ข้างๆเขาจึงหันหน้าไปมองก็เจอผีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่ข้างๆเขาและหันหน้ามาจ้องมองด้วยสายตาที่น่ากลัวมากเขาตกใจสะดุ้งจนพูดไม่เป็นภาษาเพื่อนในห้องก็ตื่นกันหมดเมื่อคืนถามเขาว่าเป็นอะไรพี่แป้งก็ไม่ยอมตอบ​แล้วก็ย้ายที่นอนแต่การที่เขาเจอเช่นนั้นทำให้เขานอนไม่หลับไม่ทั้งคืน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...