วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
ไปส่งยายหน่อย !!
ไปเมื่อปีพ.ศ 2555 ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นม 4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีหลังจากเลิกเรียนเวลาบ่าย 3 โมงครึ่งผมต้องกลับไปช่วยคุณแม่ขายของที่ตลาดนัดที่อยู่ปากทางเข้าหมู่บ้าน เมื่อผมมาถึงก็เก็บกระเป๋านักเรียนเข้าทีแล้วก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปหาแม่ที่ตลาด สมัยนั้นผมใช้ยามาฮ่าเมทอัลฟ่าสีเขียวถึงแม้มันจะเก่าแต่ตอนนั้นความแรงมันก็ไม่แพ้ไปเลยทีเดียว เพราะผมได้ถึงที่ตลาดหนักเมื่อคุณแม่ก็ใช้ผมในทันที ไอ้วุฒิเอาถุงใส่ของให้แม่หน่อยสิมันว่างอยู่หลังบ้านนั่นน่ะได้ครับแต่แม่เอาตังค์มาเติมน้ำมันด้วยนะน้ำมันจะหมดแล้วแม่ผมก็เลยควักตังค์ออกมา 60 บาทเพื่อให้ไปเติมน้ำมัน ตอนนั้นวันนี้อากาศมืดครึ้มเหมือนฝนกำลังจะตกผมเลยรีบติดรถไปเติมน้ำมันที่ปั๊มแต่ระหว่างทางไปปั๊มน้ำมันจะต้องผ่านร้านร้านหนึ่งซึ่งเป็นร้านของอาโกอยู่ฝั่งซ้ายมือวันนี้ผมเห็นยายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าร้านยายคนนั้นหันมาทางผมแล้วกวักมือเรียกตะโกนมาว่า ไอ้หนูไปส่งยายหน่อยสิลูก ผมเลยตะโกนกลับไปว่าเดี๋ยวไปเติมน้ำมันแป๊บนึงครับ ปิดโหมดเร่งความเร็วขึ้นไปอีกเพราะผมไปถึงปั้มฝนก็เริ่มตกไปปอยแล้วผมคิดในใจว่าจะไปส่งยายเขาดีไหมอีกใจหนึ่งก็ต้องรีบกลับบ้านเอาถุงใส่ของไปให้แม่ที่ตลาดเพื่อความขี้สงสารผมจึงตัดสินใจไปส่งยายก่อน ผมก็แวะไปที่ร้านอาโกที่ผมรู้จักก็เจอยายคนนั้นอีกครั้ง ไปส่งยายที่บ้านหน่อยได้ไหมรู้ย้ายมาคนเดียวตาก็ขี่รถไปไหนไม่รู้ทิ้งยายไว้ที่นี่ตอนนั้นผมรู้สึกสงสารยายเขาจริงๆก็เลยตอบตกลงไปว่าจะไปส่งยาย แล้วยายก็ควักโทรศัพท์ ออกมา มันเป็นโทรศัพท์เก่าๆแบบปุ่มกดแล้วก็มีเศษกระดาษชิ้นเล็กๆ 1 แผ่นติดออกมาด้วยยายโทรศัพท์พร้อมกับกระดาษให้ผมแล้วบอกว่าโทรเบอร์นี้ยายหน่อยสิผมแปลกใจทำไมยายไม่กดเองหรือว่ายายสายตาสั้นผมก็เลยรับโทรศัพท์กับกระดาษแผ่นนั้นมาแล้วเปิดกระดาษชิ้นนั้นหรอก็เห็นว่ามันเป็นตัวเลขแต่ผมแปลกใจว่าทำไมมันมีอยู่ถึง 13 ตัวและขึ้นต้นด้วย 374 หรือเลขอะไรสักอย่างนี่แหละมันไม่เหมือนจะเป็นเบอร์โทรศัพท์เลยผมคิดในใจว่าเบอร์โทรบารายีตั้ง 13 ตัวแต่ผมก็กดเบอร์นั้นแล้วโทรไป ปรากฏว่ามันโทรติดด้วยแล้วก็มีคนรับสายแต่ผมก็ไม่ได้สนใจเราได้ยืนโทรศัพท์เครื่องนั้นไปเรื่อยๆแล้วก็เดินออกมารอที่รอสักพักเพราะผมหันหลังกลับไปมองอีกครั้งก็ยังไม่ยายคุยเสร็จแล้วและกำลังเดินเข้ามา ผมจึงสตาร์ทรถติดเครื่องรอยายก็ขึ้นมานั่งที่เบาะท้ายรถ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า เพราะมันยุบหลอกแบบแปลกๆทั้งทั้งที่ตัวเล็กและค่อนข้างผอมแต่ผมก็ไม่ได้อะไร ข้อความดีๆก็ได้รู้ว่ามันเป็นเสียงของยายที่นั่งซ้อนผมอยู่แกพูดว่าเสียงนั้นเป็นเสียงที่ศรัทธาและเชื่อฟังทำให้ผมขนลุกไปทั้งตัวแล้วแกก็พูดต่อว่ายายหนาวหนาวเลยตอบแกไปว่าแต่ตอนนั้นฝนก็เริ่มตกแรงขึ้นให้น่ะมีลูก 3 คนแต่ละคนก็ดีย้ายไปอยู่กรุงเทพฯกันหมดเลยอยู่กับตาสองคนยายเองก็ไม่ค่อยสบายหายใจไม่ออกตาก็มองไม่ค่อยเห็น รู้ไหมตอนนี้ยายเหลือปอดข้างเดียวหนาวเหลือเกินครับยายผมแก่ไปแบบสั้นๆ จากนั้นผมก็ขี่ไปถึงปากทางเข้าสุสานแล้วยายก็บอกผมว่าให้เลี้ยวเข้าข้างซอยสุสานเพราะผมเลี้ยวเข้าไปก็เห็นว่ามันสิ้นสุดถนนยางมะตอยจากนั้นก็เป็นทางดียายก็บอกให้ผมเลี้ยวซ้ายแล้วก็เลี้ยวขวาผมเข้ามาลึกพอสมควรขณะที่กำลังคิดว่าทำไมแถวนี้ผมถึงไม่คุ้นเลยทั้งทั้งที่ผมก็เป็นคนในพื้นทีเพราะเลี้ยวขวามาได้ไม่ทันไรก็เจอกำแพงกำแพงนั้นอย่ามาแล้วก็มีช่องทางเล็กๆที่พอจะให้รถมอเตอร์ไซค์เข้าออกได้เพราะมาถึงตรงจุดนี้ยายก็บอกให้เข้าไปตามทางต่อบรรยากาศในตอนนี้ทั้งมืดครึ้มทั้งหนาวจากที่ฝนตกผมรู้สึกกลัวอยู่ดีๆเพราะมันเป็นทางที่ค่อนข้าง เหยี่ยวแต่เพราะผมขี้เข้ามาอีกสักระยะก็เจอหมู่บ้านเล็กๆซึ่งมีเพียงไม่กี่ล่ะผมขี่รถผ่านบ้านไม้หลังหนึ่งมันเป็นบ้านไม้เก่าๆมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอมโลและยืนมองผมแบบตาไม่กระพริบ ผ่านไปหลังที่ 2 และหลังที่ 3 ก็เงียบมากเหมือนกับไม่มีคนอยู่ผมขี่เข้ามาจนถึงต้นมะม่วงแต่มองไม่เห็นบางคนแล้วยายก็บอกกับผมว่าที่หนูส่งยายตรงนี้ลูกผมจึงจอดรถให้ยายหรอกเพราะยายลงไปแล้วผมก็หันหัวรถเตรียมที่จะกลับแล้วผมก็ต้องตกใจสะดุ้งไม่ยกมือข้างหนึ่งมาจับมือของผมไว้แล้วแบจากนั้นก็มีอีกทางที่กำบังสิ่งอยู่มาวางบนมือของผม นิยายแบมือออกผมก็เห็นว่ามันเป็นเงิน 40 บาทแบงค์ 20 เก่าๆ 2 ใบผมรีบเงยหน้าขึ้นมามองยายแล้วบอกว่าไม่เป็นไรครับยายไม่เอาครับถ้ายายก็บอกว่าไม่เป็นอะไรเอาไปเถอะผมจึงรับเงินนั้นมาและขอบคุณยายจากนั้นก็ขี่รถกลับไปทางเดิม ผมขี่รถออกมาจากจุดที่ส่งยายนั้นไม่ถึงนาทีก็หันหลังกลับไปมอง ปรากฏว่ายายหายไปแล้วผมสะดุ้งตกใจมากเพราะยายไม่น่าจะเดินไปไหนได้เร็วขนาดนั้นและแถวนั้นก็ไม่มีบ้านคนด้วย กระดูกสันหลังของผมเย็นว่าไปหมดคน can look tung ผมรีบบิดรถเร่งเครื่องให้เร็วเพื่อที่จะออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุดเพราะผมออกมาพ้นจากกำแพงตรงนั้นได้ผมตัดสินใจหันหลังกลับไปดูอีกครั้งก็ปรากฏว่า กำแพงที่ผมเข้าไปนานมันปิดสนิทและไม่มีช่องทางให้ปลอดหรือคนผ่านเข้าไปได้เลยตอนนั้นผมตกใจแทบช็อกคิดว่าคงโดนดีเข้าให้แล้วผมรีบตีรถกลับไปหาแม่พ่อไปถึงแม่ก็บ่นผมใหญ่เลยที่มาช้าผมจึงตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง หลังจากนั้น 2 วันนั้นแม่ก็ไปรู้เรื่องยายคนนั้นว่ายายได้ตายไป 5 ปีกว่าๆแล้วและบ้านที่ไปส่งก็ไม่มีบ้านสักหลังเลย
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น