วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ผีหวงเรือน !!


        เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นจากประสบการณ์ของหญิงคนหนึ่ง เมื่อสมัยยังเป็นเด็กเล็กๆคงประมาณอายุ 8-9 ขวบมันเกิดขึ้นมานานประมาณ 30-40 ปีแล้วแต่ภาพเหตุการณ์ครั้งนั้นยังจำติดตาอยู่ตลอดเวลา เรื่องมีอยู่ว่าสมัยอยู่ปอ 2 โรงเรียนได้ปิดภาคเรียนช่วงฤดูร้อนประมาณ 2 เดือนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากสำหรับเด็กๆ ครอบครัวของเราเป็นชาวสวนหรือเป็นครอบครัวใหญ่มีพี่น้องหลายคน พ่อแม่จึงต้องทำงานอย่างหนักลูกสารพัดผักเพื่อทำขายและนำเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว พวกพี่ๆบางคนก็ไปรับจ้างทำงานในตัวเมืองบางคนก็ช่วยพ่อแม่ทำสวนส่วนฉันก็ยังเล็กอยู่อยู่ช่วยงานสวนไม่ค่อยได้ไปทำสวนกับพ่อแม่ทีไรก็กลายเป็นภาระที่จะต้องคอยระวังไม่ให้ฉันตกน้ำตกท่าหรือโดนสัตว์และแมลงกัดต่อยมันจึงทำให้พ่อแม่เหนื่อยมากกว่าเดิม คืนหนึ่งฉันได้ยินพ่อคุยกับแม่ว่าจะส่งฉันไปอยู่กับญาติในช่วงปิดเทอม ซึ่งย่าอาศัยอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งแม่ก็เห็นดีเห็นงามด้วยพ่อและแม่ไม่ทำความเห็นฉันเลยสักนิดว่าอยากไปอยู่กับย่าใหม่แต่ในใจฉันก็ดีใจอยากไปเห็นบ้านย่าเพราะไม่เคยไปเลยสักครั้ง รุ่งเช้าแม่เก็บเสื้อผ้าของฉันเท่าที่จำเป็นใส่ถุงเอาของฝากอย่างกล้วยน้ำว้าและผักที่เก็บมาจากสวนติดมือไปด้วยพ่อและฉันเดินทางไปบ้านย่าโดยให้ฉันซ้อนท้ายจักรยานไปตามถนนเล็กๆร่วงหมู่บ้าน ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยต่อความเพราะเป็นฤดูหลังการเก็บเกี่ยวข้าวเมื่อมองไปก็แสนจะแห้งแล้งถ้าเดินทางกลางคืนบรรยากาศคงชวนขนลุกน่าดูฉันตื่นเต้นมากที่ได้มาบ้านย่าซึ่งนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะเป็นแบบไหนพ่อกับย่าติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอแต่ตัวฉันเองไม่เคยมาเยี่ยมย่าเลยอาจเพราะยังเด็กเกินไป เมื่อเข้าไปบริเวณบ้านก็มองเห็นบ้านของย่าเป็นบ้านไม้โบราณใต้ถุนสูงมีเสาบ้านมากมายเพราะเป็นบ้านหลังใหญ่ เสาแต่ละต้นจึงมีขนาดใหญ่ตามไปด้วยขนาดที่ฉันไม่สามารถออกรอบได้ในขณะที่ฉันกำลังชมบ้านหลังนี้มีความตื่นตาตื่นใจฉันก็ได้ยินเสียงเรียกของยา หญ้านวลแกดูแก่มากๆเหมือนคนโบราณรูปร่างสูงใหญ่ผมขาวเกล้ามวยแบบคนเหนือ ผิวหนังเหี่ยวย่นมีริ้วรอยของกาลเวลาปรากฏเหตุ ท่านนุ่งผ้าถุงลายขวางสวมเสื้อสีเทาย่านวลพาฉันเดินชมสวนในบริเวณบ้านจำได้ว่ามีต้นทับทิมติดผลอยู่เต็มต้น จากนั้นจึงพากันเดินขึ้นไปบนตา ฉันยังจำดีๆว่าพื้นบ้านทุ่งหญ้าหนวดเป็นไม้กระดานแผ่นใหญ่มา ขณะที่ชมบ้านอยู่นั้นก็มีญาติคนซึ่งเป็นน้องสาวของย่านวลแกเชื่อยากจ้า ท่านก็เข้ามาตอนเราอยากจะอยู่ในวัยชราแล้วเช่นกันผมสีขาวเป็นดอกเลาแต่ไว้ผมสั้นนุ่งผ้าถุงยาวกร่อมข้อเท้าทั้งที่ในใจว่าปิดเทอมนี้ฉันต้องอยู่กับคนแก่ทั้งสองคนไม่มีเด็กรุ่นเดียวกันให้เล่นด้วยเลยพ่อคงเข้าใจความรู้สึกของฉันก็เลยพูดกับฉันว่าอยากเล่นกับเด็กๆก็ให้ลูกไปเล่นกับเด็กข้างบ้านได้ ฉันจึงรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยแล้วพ่อก็พูดฝากฉันกับยา สักพักก็ขอตัวลากลับฉันไม่อยากให้พ่อกลับเลยแต่ก็ต้องยอมเพราะตั้งใจมาแล้ว ย่านวลเป็นคนใจดีมากทำให้ฉันนอนพักอยู่กับท่านในห้องใหญ่ ก็เลยเอาเสื้อผ้าออกจากถุงและพับใส่ในตะกร้าผ้า หญ้านวลแกเป็นคนเรียบง่ายในห้องนั้นถึงไม่มีข้าวของอะไรมากนะมีเพียงตะเกียงน้ำมันก๊าดตั้งอยู่ 1 อันเพื่อใช้แสงสว่างในตอนกลางคืนเพราะสมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ตรงมุมห้องมีฟูกที่นอนวางอยู่บนพื้นและมีมุ้งสีขาวขุ่นการคลอดที่นอนอวัยคืนนี้ฉันจะต้องนอนกับยานวดส่วนย่าจ่าก็นอนอีกห้องหนึ่ง เราจะกินข้าวเย็นเสร็จแล้วฉันก็ช่วยยากจะล้างจานสมัยนั้นยังไม่มีทีวีให้ดูสมัยแต่ยามค่ำคืนทุกอย่างที่เงียบเหงาวังเวงความมืดปกคลุมทำบ้านในเวลาแค่ทุ่มกว่ากว่า หญ้าหนวดถึงชวนฉันเข้านอนฉันเข้าไปนอนในมุ้งกับย่าไม่ทำไรหลังจากย่าเอนตัวลงนอนก็ปล่อยหลับไปฉันเองก็พยายามข่มตานอนแต่ยังไม่ทันได้ฝันหวานก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ขณะที่ฉันกำลังเคลิ้มใครจะหลับสายตาก็มองไปที่ประตูห้องนอนเห็นผู้หญิงแก่ๆคนหนึ่งผมขาวยาวสยายนุ่งห่มชุดขาวคล้ายแม่ชีแกเดินผ่านประตูเข้ามาทั้งๆที่ก่อนเข้านอนย่านหนวดเป็นคนปิดประตูลงกลอนแล้วเรียบร้อยแต่หญิงแก่คนนั้นครับเดินทะลุผ่านประตูเข้ามาได้ฉันคิดในใจว่าต้องเป็นผีแน่ตัวฉันเริ่มแข็งขยับตัวไม่ได้เรียกให้ใครมาช่วยก็ไม่มีเสียง ได้แต่จ้องมองผู้หญิงคนนั้นที่กำลังเดินตรงมาหาฉันแล้วก็มองดูฉันด้วยใบหน้าเหี่ยวย่นน่ากลัว แต่ยิ่งกว่านั้นคือสายตาที่จ้องเขมรมายังฉันมันช่างดุดันน่าขนลุกเป็นที่สุด หญิงชราคนนั้นค่อยๆนั่งลงข้างที่นอนใกล้กับที่ฉันนอนอยู่มีเพียงมุ้งบางๆกั้นระหว่างกลางเท่านั้น ฉันไม่อาจละสายตาจากภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าได้ทันใดนั้นอีหญิงแกก็เอามือมาจับแขนขวาของฉันที่ติดกับมุมและมีเสียงรอดจากไรฟันออกมาว่า ฉันตกใจขนลุกทั่วทั้งตัวพยายามรวบรวมความกล้าใช้มือซ้ายจับมือหญิงแก่ผ่านงู ฉันจับไว้แน่นพร้อมทั้งตะโกนสุดเสียง เพราะว่าได้ยินเสียงจึงลุกขึ้นมาแล้วถามว่าร้องทำไมฉันจึงบอกว่าฉันจับมือผีได้อยู่นี่ไงก็พอหญ้านวลขอดูกลับกลายเป็นว่ามือซ้ายของฉันกำลังจับข้อมือขวาของตนเองอยู่ แต่ที่น่าแปลกก็คือมีผ้ามุ้งติดข้อมืออยู่ด้วย ย่านวลคงจะรู้อะไรบางอย่างจึงลุกขึ้นจุดตะเกียงน้ำมันก๊าดแล้วนำธูป 1 ดอกพาฉันเดินลงไปที่ตรงมุมสวนฉันเพิ่งสังเกตว่ามีหอผีตั้งอยู่ หญ้านวลบอกว่าเป็นขอผีปู่ย่าตายายที่ดูแลบ้านมีอยู่ หญ้านวลจุดธูปไล่ฉันพนมมือไหว้ จากนั้นตนก็กล่าว แล้วก็จริงอย่างที่ย่านวลบอกฉันอยู่กับญาติกันตลอดระยะเวลาช่วงปิดเทอมซึ่งก็เกือบเกือบ 2 เดือนมันก็ไม่มีเหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นอีกเลยแต่ภาพชวนขวัญผวาในคืนนั้นฉันยังจำติดตาได้ไม่เคยลืม

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...