วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
โรงเรียนหลอนซ่อนแอบในตู้เสื้อผ้า !!
เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งขอไม่บอกชื่อเป็นเรื่องราวของรุ่นน้องคนหนึ่งชื่อว่าอีฟซึ่งเป็นรุ่นน้องของเราเองโรงเรียนของเรานั้นเป็นโรงเรียนประจำในทุกเช้าจะต้องมาเข้าแถวให้ทันเวลาอย่ามาสายเพราะทะเบียนคนไหนที่ถูกจับได้ว่ามาสายหรือไม่มาเข้าแถวในตอนเช้าก็จะถูกทำโทษหน้าเสาธงต่อหน้าที่ซึ่งสร้างความอับอายให้เป็นอย่างมาก ในวันหนึ่งรุ่นน้องของเราได้แอบหนีการเข้าแถวในตอนเช้าและหลบอยู่หลังห้องไม่ยอมลงไปเพราะว่าตื่นสายแต่งตัวไม่เสร็จทำให้ลงไปไม่ทัน เพื่อนร่วมห้องนอนของอีกก็บอกว่าวันนี้จะมีอาจารย์เวรขึ้นมาตรวจไม่กลัวโดนจับได้เหรอก็บอกไปว่าเราแจกในตู้เสื้อผ้าแล้วให้พวกแกล็อคตัวไว้จะได้ดูเหมือนว่าไม่มีใครอยู่ในตอนนั้นเราก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลยถามน้องไปว่าเข้าแถวกันนานนะจะรอได้หรอตู้มันร้อนนะเว้ยก็ยืนยันแจกในตัวแทนกำชับย้ำว่าให้ล็อคตัวไว้เข้าแถวเสร็จก็อย่าลืมรีบมาเปิดให้ด้วยนะ เพราะคุยกันจบเสียงกริ่งเข้าแถวก็เริ่มดังพวกเราทุกคนรีบจัดแจงหยิบข้าวตูตู้เสื้อผ้าของที่นี่ล่ะมีลักษณะเป็นแบบเดียวกันหมดซึ่งทางโรงเรียนได้จัดเตรียมไว้ให้โดยจะเป็นตู้ไม้ประตูสีขาว 2 ด่านปิดเข้าหากันหลังจากที่เสียงกริ่งดังเราทุกคนก็รีบวิ่งลงไปเข้าแถวรอเข้าแถวจนเวลาล่วงเลยไปนานเกือบชั่วโมงแล้วทุกคนก็เป็นห่วงกลัวว่ามันจะหายใจไม่ออกเพราะตู้เสื้อผ้ามีขนาดเล็กและค่อนข้างอบอ้าวแต่ก็พอจะมีช่องไว้ให้หายใจได้ ตอนนั้นเราเองและเพื่อนกูก็เป็นห่วงมามองหน้ากันกับพวกน้องๆด้วยความกระสับกระส่ายและแล้วเวลานั้นก็มาถึงพอหมดเวลาเข้าแถวพวกเราก็รีบวิ่งขึ้นห้องกันเลยน้องๆรีบเอากุญแจไขตู้เปิดให้หยิบออกมาเพราะเปิดตู้ออกมาภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้นทำให้พวกเราชอบมาก is นั้นทรุดอยู่ตรงพื้นตู้เหงื่อแตกท่วมตัวและหายใจรวยรินเหมือนกำลังจะขาดใจตาย พวกเรารีบดึงตัวเองออกมาจากตู้แล้วหายาดมยาหม่องมาเปิดพัดลมเป่าให้ สักพักก็ร้องไห้มาเสียงดังมากจนเรากับรุ่นน้องที่เป็นเพื่อนร่วมห้องนอนของอีฟต้องรีบปิดปากวัยรวมว่าคนอื่นหรืออาจารย์จะได้ยินและรู้ความจริงเข้าก็ยังคงตัวสั่นและร้องไห้ไม่หยุดทั้งยังมีอาการหวาดระแวงมองซ้ายทีขวาทีเหมือนกลัวอะไรสักอย่างเราได้ถามอีกว่าเป็นอะไรใจเย็นๆตั้งสติก่อนพี่อยู่ที่นี่แล้วแล้วเพื่อนก็กอดเราแน่นและบอกกับเราว่าออกไปจากห้องนี้ก่อนได้ไหมตอนนั้นเราก็มองหน้ากันกับรุ่นน้องอีกคนแล้วก็พากันลงไปชั้นล่างไม่มีสติกลับคืนมาก็เริ่มเล่าให้เรากับเพื่อนร่วมห้องของนางฟังว่า ตอนที่ทุกคนลงไปหมดแล้วและปิดประตูห้องบรรยากาศภายในตู้มันก็เงียบและอบอ้าวแต่ก็ยังพอมีช่องจากประตูของตู้เสื้อผ้าให้พ่อได้มองเห็นและหายใจได้ซึ่งช่วงนั้นจะอยู่บริเวณหน้าผากสามารถขยับตัวมองออกจากช่องของตู้ได้เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาทีก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินผ่านหน้าห้องซึ่งตู้ที่ e8 อยู่นั้นจะติดกับประตูทางเข้าห้องซึ่งตอนนั้นประตูห้องปิดอยู่แล้วเสียงเดินที่ได้ยินนั้นมันก็ดันชัดมาก ในใจก็คิดว่าต้องเป็นอาจารย์เวทที่มาจับเด็กนักเรียนที่โดดเข้าแถวแน่ๆขณะที่แอบมองอยู่ว่าอาจารย์จะเปิดประตูเข้ามาใหม่สักพักกูก็ค่อยๆเปิดออก ตอนนั้นนางบอกว่านางนุชมากจนไม่กล้าแอบมองผ่านช่องนั้นเลยก็เลยนั่งยองแอบฟังเสียงอยู่ในตู้เขากลัวว่าจะถูกจับได้เลยยอมมันเงียบๆและหลานๆอยู่อย่างนั้นแล้วเสียงเดินนั้นก็ยังคงเดินวนเวียนอยู่ภายในห้องมันเป็นเสียงเหมือนกับการเดินลงส้นเท้าที่หนักมาและเสียงดังมากตอนนั้นก็สงสัยว่าถ้าไม่เจอใครแล้วทำไมอาจารย์ยังไม่ออกไปทำเสียงเดินนั้นก็ยังวนเวียนอยู่บริเวณตู้ซิปล็อคอยู่อีฟค่อยๆลุกอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้มีเสียงแล้วแอบมองลอดช่องของประตูตู้เสื้อผ้าเพื่อจะมองว่าอาจารย์เขาทำอะไรอยู่กันแน่แต่เมื่อมองไปก็พบว่า คนที่อยู่หน้าตู้นั้นเป็นผู้หญิงผมยาวประบ่าผมผิดจนมองไม่เห็นหน้าตาเคยใส่ชุดคอกลมสีขาวเก่าๆสวมกระโปรงสีดำแล้วเธอคนนั้นก็กำลังเดินหันข้างก้มหน้าและเดินกลับไปกลับมาผ่านหน้าตู้ของอี๊ดอยู่อย่างนั้น ตอนนั้นคิดว่าถ้าเป็นอาจารย์มาตรวจทำไม่เจออะไรก็ควรจะลงไปได้แล้วไม่ใช่หรอในขณะที่นางคิดอยู่นานสายตาก็มองไปสักพักเหมือนกับว่าผู้หญิงคนนั้นจะรู้แล้วเธอคนนั้นก็หยุดเดินตกใจสะดุ้งเฮือกพร้อมกับเอามือปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้รู้ทานหรือมีเสียงอะไรหลุดรอดออกไปหยิบเริ่มรู้แล้วว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้นคืออะไรทันใดนั้นเองเธอคนนั้นที่ยืนหันข้างอยู่ก็เอียงคอหันมามองลงตู้ที่แอบดูอยู่ที่ชอบมากเพราะรู้นะว่าสิ่งที่เห็นอยู่นั้นไม่ใช่คนแน่ๆใบหน้าของเธอคนนั้นเล็กไปครึ่งซีกเอลซ่าขาวโพลนและดุมากมันดูเหมือนกับว่าเธอคนนั้นจะรู้ว่าอีฟกำลังแอบมองอยู่ เมื่อตั้งสติได้ก็รีบลงไปนั่งยองๆและภาวนาขอให้เธอคนนั้นไปจากตรงนั้นเสียที ไม่นานก็ได้ยินเสียงประตูค่อยๆปิดลงพร้อมกับเสียงเดินที่หายไปตอนนั้นน้ำตาไหลร้องไห้แต่ไม่ให้มีเสียงแล้วภาวนาอยากให้พวกเรากลับมาไวๆได้ขนาดนั้นนางก็สงสัยอยู่ว่าผู้หญิงคนนั้นออกไปจากห้องหรือยังนางจึงค่อยๆพยุงตัวในตู้แค่ลุกขึ้นมามองผ่านช่องของประตูอีกครั้งแต่พ่อนั่งมองลอดออกไปก็แทบจะทำให้หัวใจวายเพราะมีดวงตาคู่หนึ่งที่มองลอดกลับเข้ามาจากด้านนอกเหมือนกัน กรี๊ดสุดเสียงระหว่างจะให้ใครก็ตามที่อยู่แถวนี้ได้ยินเสียงแต่มันช่างโชคร้ายเหลือเกินเพราะไม่มีใครเลยที่ได้ยินเสียงของอีกทุกคนลงไปเข้าแถวข้างล่างกันหมดแม้กระทั่งอาจารย์เวรอีกก็ไม่อยู่แถวนั้นเลยแล้วก็เริ่มหายใจไม่ออกเหมือนกำลังจะเป็นลมในขณะเดียวกันนั้นอีกผู้หญิงคนนั้นก็รู้แล้วว่ามีคนอยู่ในตู้แล้วเริ่มเขย่าตู้เหมือนกับว่าจะพยายามเปิดตู้ให้ได้ หมดแรงที่จะส่งเสียงร้องได้แต่นั่งพนมมือร้องไห้อยู่ในตัวและก็อ่อนแรงลงเรื่อยๆเหมือนกำลังจะตาย จนกระทั่งพวกเราเสร็จจากการเข้าแถวก็ขึ้นมาไขประตูตู้ให้หยิบออกมาอีกบอกว่าช่วงเวลาที่อยู่ในตู้นั้นมันรู้สึกนานมากและจะจดจำไปจนวันตายจะไม่โดดเข้าแถวอยู่ในห้องคนเดียวอีกแล้ว
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น