วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เจอดีผีภูลังกา​ ณ​ เจดีย์​ศรีบุญเนาว์ !!


            สวัสดีครับผมชื่อกี่วันนี้ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟังกันอีกแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมานี่เอง วันนั้นเป็นวันคล้ายวันเกิดของน้องสาวเพื่อนผมเธอชื่อน้องน้ำฝนเพื่อนผมก็เลยมาชวนผมกับแฟนไปเที่ยวด้วยกันไปแต่ครอบครัวแต่ด้วยเหตุที่ลูกผมเพิ่งจะลืมตาดูโลกได้แค่ 4 เดือนแฟนผมจึงไม่ได้ไปด้วย บ้านผมจึงไปแค่ผมกับพี่ชายอีก 2 คนและแฟนของพี่ชายทั้งสองรวมแล้วบ้านผมก็มีกัน 5 คนคือผมที่โทรพี่จอยแฟนของพี่โทและไกลแฟนของพี่อ้วนทางบ้านเพื่อนผมก็จะมีให้แม็กซิมแฟนของไอแม็กและน้ำฝนน้องสาวของมันซึ่งเป็นเจ้าของวันเกิดต้องบอกก่อนเลยว่าพวกเราสายเที่ยวตัวจริง ในภาคอีสานไม่มีจังหวัดไหนเลยที่เราไม่เคยไปแต่ก็ไม่ได้เที่ยวทุกที่ขนาดนั้นด้วยที่พวกเราเกิดอยู่จังหวัดนครพนมอยู่แล้วน้ำฝนผู้เป็นเจ้าของวันเกิดจึงเสนอให้เราไปปีนเขาในจังหวัดกาญ มีเทือกเขาอยู่ในตัวอำเภอบ้านแพงที่ได้ยินมาว่าบนยอดเขามีเจดีย์สีอุ่นเอาตั้งอยู่เป็นเจดีย์สีทองสวยงามมากเราจึงตกลงกันและเก็บข้าวของที่จำเป็นเตรียมตัวเดินทางในวันรุ่งขึ้นมีลงเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอุทยานแห่งชาติภูลังกาฉันทำให้เรื่องการเข้าไปปีนเขาไม่ใช่ปัญหาเลยครับผมได้โทรประสานงานกับลุงไปที่เรียบร้อยเพราะถึงวันรุ่งขึ้นพวกเราก็ได้ไปถึงจุดที่ปีนเขาบอกเลยนะครับใครว่าปีนเขาที่ภูกระดึงเหนื่อยและปริญญาร้องมาปีนที่ภูลังกาดูมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงที่ภูกระดึงมีลูกค้าที่เราสามารถจ้างลูกหาบสัมภาระของเราขึ้นไปได้โดยพระ เอาก็เดินตัวเปล่าๆขึ้นไปแต่ที่ภูลังกาไม่มีที่ภูกระดึงมีจุดพักเหนื่อยอยู่ 5 จุดซึ่งแต่ละจุดจะห่างกันประมาณ 1,000 เมตรหรือ 1 กิโลเมตรแต่ละจุดจะมีร้านค้าเยอะแยะมากมายทั้งขายเครื่องดื่มขายของที่ระลึกและมีเสื้อผ้าเยอะแยะส่วนที่ภูลังกาไม่มีสักอย่างทั้งจุดพักหรือร้านค้าที่อยู่ข้างบน แน่นอนว่าที่ภูกระดึงมีระยะทางไกลกว่าเราจะมีระยะทาง 5 กิโลเมตรจากตีนเขาซึ่งที่ภูลังกาที่เราจะปีนี้ระยะทางแค่ 3 กิโลเมตรแต่ที่โหดกว่าคือมันไม่มีบันไดเหมือนที่อื่นมีแค่ทางเดินทางเท่านั้นพวกเราเริ่มเดินทางตั้งแต่ 7 โมงเช้าโดยมีเจ้าหน้าที่นำทางและบรรยายเรื่องป่าไปด้วยสิคนก่อนหน้านั้นพวกเราได้แจ้งเวลาว่าจะค้างคืนบนยอดเขาคืนหนึ่งผมสังเกตเห็นว่าเจ้าหน้าที่แต่ละคนไม่มีสัมภาระติดตัวมาด้วยเลยแต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาด้วยความที่เราเป็นผู้ชายแล้วก็มีกันถึง 4 คนคือเอกโทตรีแม็กส่วนผู้หญิงก็มี 4 คนเช่นกันคือจอยไก่ ไอ้เชนน้ำฝนแล้วปล่อยให้พวกผู้หญิงค่อยๆเดินไปกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้หญิงเราที่เป็นผู้ชายมีความคิดว่าเราต้องแข่งกันใครไปถึงยอดก่อนเป็นผู้ชนะส่วน 3 คนที่แพ้ต้องออกเงินกันซื้อเบียร์เลี้ยงคนที่ชนะเพราะตกลงกันแล้วต่างคนก็ต่างวิ่งเพราะวิ่งไปได้นี่นาก็เริ่มมีอาการเหนื่อยล้ากันทุกคนเอาพวกมันเอาแฟนมาด้วยข้าวของที่พวกมันแดกจนมีเยอะกว่าของที่มาคนเดียวเพราะผมไม่ได้เตรียมอะไรมามีเพียงแค่เต็นท์ถุงนอนผ้าห่มเตาแก๊สปิคนิคแล้วก็เนื้อแช่แข็งในกล่องโฟมเล็กๆที่ผมเตรียมไว้ส่วนของพวกมัน ใครที่เคยได้ฟังเรื่องราวประสบการณ์ของผมมาก่อนหน้านั้นจะรู้ว่าผมเป็นคนที่เห็นสิ่งลี้ลับที่คนอื่นมองไม่เห็นและก็เห็นจนชินแล้วด้วยในตอนนั้นผมก็เห็นแม่ชีกำลังเดินจงกรมอยู่ท่านอยู่บนภูเขาแบบนี้คงมาปฏิบัติธรรมอย่างตั้งใจเพื่อนๆกับผมก็แวะไปกราบนมัสการจากนั้นก็เดินทางต่อเพราะเดินไปอีกสักพักผมก็เห็นภาพเดินจงกรมอยู่เช่นกันจึงเข้าไปถึงจะกราบนมัสการแต่ที่เพื่อนผมไม่ตามมานมัสการด้วยเมื่อพระท่านนั้นเห็นผมเข้ามาก็ได้ถามผม พวกเราเดินกันมาเรื่อยๆจนมาถึงยอดเขาส่วนคนที่มาถึงก่อนก็คือผมเพราะผมได้เปรียบตั้งแต่ของที่ถือขึ้นมาแล้วพวกเรานั่งพักรออยู่พัก ผู้หญิงก็ขึ้นมาถึงการหลังเจ้าพักเหนื่อยกันได้พอประมาณเราก็มองหาทีที่เราจะกางเต็นท์ เจ้าหน้าที่จึงชี้ไปยังลานหินกว้างซึ่งเป็นลานหินกว้างมากจริงๆ ๆเราพากันไปกางเต็นท์ที่นั่นเพราะการเสร็จก็ออกไปถ่ายรูปกันไปกราบไหว้เจดีย์และถ่ายร่วมกันในที่ต่างๆจนเวลาไกลคำเชิญแฟนไอแมคอยู่ๆมันก็กรีดร้องลั่นแล้ววิ่งเข้ามาหาคนในกลุ่มพูดปากสั่นโดนผีหลอกผีหลอก เพราะผมหันมองไปยังทิศทางที่เธอวิ่งมานานก็เห็นจริงๆครับวิญญาณตอนนั้นเขาน่าจะเป็นชาวบ้านที่มาเก็บของป่าแล้วอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดที่ทำให้เขาตายก็ได้เพราะเขาไม่มีหัวแต่คนอื่นกลับมองไม่เห็นวิญญาณตนนั้น ในตอนนั้นเองน้ำฝนน้องใหม่มาก็บอกกับผมว่าเห็นมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินอยู่ตรงที่เขาสร้างศาลาให้พักซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเจดีย์เท่าไหร่น่ะ แล้วน้ำฝนก็เดินไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่คนนั้นเมื่อผมมองตามไปก็ดูปกติดีแต่ว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นไม่ได้ขึ้นมาพร้อมกับเราเพราะใกล้เข้ามาอีกนิดเพราะพี่ๆเจ้าหน้าที่จึงบอกกับพวกเราว่าจะขอกลับก่อนแล้วบอกว่าพักแรมกันให้สนุกนะตอนนี้อาทิตย์กำลังจะตกเป็นแสงสีทองสวยมากๆ ณเวลานั้นต่างคนก็ต่างเก็บภาพกันใหญ่ผมก็ถ่ายของผมไปแล้วหันไปมองที่น้ำฝนก็พบว่าน้ำฝนกำลังนั่งคุยกับเจ้าหน้าที่คนนั้นที่ทำให้ผมเกือบจะตั้งสติไม่ได้คือพี่ชายผมไอ้โถ่มันร้องทักน้ำฝนว่าเอาฝนมานั่งทำอะไรอยู่คนเดียว เจ้าหน้าที่คนนั้นก็หันมามองตาเขมรเหมือนจะโกรธพี่ชายผมมาแล้วเธอคนนั้นก็หายไปเพราะน้องฝนหันกลับไปก็ไม่เจอเจ้าหน้าที่คนนั้น เธอรู้แล้วว่าที่นั่งคุยด้วยอยู่ตั้งนานสองนานนั้นไม่ใช่คน หลังจากนั้นเราก็เริ่มก่อไฟปิ้งย่างอะไรกินพร้อมกับลืมไปตามปกติฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จึงทำให้บางคนหลับไปก่อนแต่คนที่ยังไม่หลับก็จะมีผมที่เจมส์จิโทน้องน้ำฝนและแม้ตอนนั้นเองก็มีพระธุดงค์รูปหนึ่งเดินผ่านจุดที่เรากางเต็นท์พักแรมอยู่ด้วยความที่ผมเห็นผีจนชินจึงไม่คิดอะไรมาเลยว่าจะนอนพักสักหน่อยให้แม่กับพี่โทรกลับมองเห็นกันเต็มๆ แล้วพระธุดงค์รูปนั้นก็เริ่มสูงขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆจนเท่ากับยอดเจดีย์ ด้วยความที่มันเป็นผู้ชายและอยู่กับผมจึงไม่แสดงอาการอะไรมาแต่คนที่น่าเป็นห่วงคือพี่เจนนี่เจนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกได้แต่พูดเบาๆและสั่นบอกว่าผีผีผีพูดซ้ำๆอยู่อย่างนั้นจนผมได้พาไปใส่ให้พี่เจษจึงได้สติกลับมานิดหน่อยแต่เธอก็ยังคงชอบกับสิ่งที่เห็นอยู่ อย่างน้อยพวกเราก็โล่งใจเพราะคิดว่าน้องน้ำฝนไม่เห็นจึงบอกให้น้ำฝนพาพี่เจนไปนอนแล้วนอนเป็นเพื่อนพี่เจนด้วยแต่ปรากฏว่าสู้ๆนะฝนก็ตัวสั่นทำตาขวางใส่พวกเราแล้วบอกกับผมว่า แล้วพวกมึงจะมาทับที่กูทำไม หันไปมองดูเต้นท์​ของพวกผู้หญิงก็เห็นว่ามีวิญญาณอยู่รอบรอบเดินและนั่งอยู่บนเต็นท์​ด้วย รวมรวมแล้วประมาณ 4-5 ตนได้ผมจึงรีบทำพิธีขอขมาลาโทษแล้วย้ายเต็นท์นานมากการตรงหน้าเต็นท์ของพวกเราส่วนพี่โทรก็มาช่วยผมยายแทนเพราะพี่ผมก็รู้ว่าผมพอจะมีวิชาอาคมติดตัวอยู่บ้างที่ท่อซิ่งผมไอ้แม่ก็ดูน้องอยู่ผมเลยไม่อยากกวนคนที่หลับไปก่อนก็ตื่นขึ้นมาไม่รู้เรื่องราวอะไรออกมามองซ้ายมองขวาแบบงงๆแต่ก็พูดกันมาพร้อมๆกันเลยว่ะ ผีหลอก ผมเองที่เห็นผีเป็นประจำยังตกใจพี่ด้วยเลยเพราะมองดูเราก็เห็นมีแต่ผีทั้งนั้นรวมทั้งผีเจ้าหน้าที่คนที่น้ำฝนไปคุยด้วยในตอนนั้นก็มีวิญญาณตนหนึ่งเดินเข้ามาด้านข้างเขามาหาผมแล้วกระซิบที่ข้างหูผมว่าจะกินอะไรก็ไม่แบ่งระวังจะอยู่ไม่เป็นสุข พร้อมรับรู้และเข้าใจได้ทันทีจึงทำการขอขมาอีกครั้งแล้วบอกว่าจะทำบุญไปให้กับวิญญาณทุกๆตอน จากนั้นก็นำขนมที่เราเก็บไว้ซึ่งยังไม่ได้แกะออกจากแพ็คนำมาแกะออกอย่างละ 2 แล้วนำไปเซ็นวายไม่นานอาการของพี่เจษและน้ำฝนก็กลับมาเป็นปกติ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...