วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

รีสอร์ท​หลอนนครนายก !!


          เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับแนนครั้งไม่ได้แวะพักเที่ยงรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายกใครก็คงรู้ว่า แถวๆนครนายกจะมีรีสอร์ทอยู่เยอะมากอากาศดีวิวสวยเป็นที่ชื่นชอบของคนที่ไปสัมมนาเป็นหมู่คณะแต่เราเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับคณะสัมมนาของแนนคณะที่พักในรีสอร์ทแห่งหนึ่งนานและคณะเดินทางไปสัมมนาปกติเหมือนทุกครั้งที่เคยไปแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนก็ได้เจอกับสิ่งลึกลับกันแทบทุกคน ก่อนจะจัดสัมมนากลุ่มคนจะเลือกสถานที่กันอยู่หลายแห่งแต่สุดท้ายทางขณะก็เลือกรีสอร์ทที่แสนจะธรรมชาติและเงียบสงบแห่งนี้ ภาพบรรยากาศของรีสอร์ทในเว็บไซต์เป็นไปอย่างสวยงามดูดีน่าเข้าพักได้จึงตกลงทำการจองห้องพักห้องสัมมนาระบุวันและจำนวนคนเป็นที่เรียบร้อยเมื่อถึงวันที่จะเดินทางเราบุคลากรที่จะไปด้วยก็มาขึ้นรถมาตามนัดกันอย่างพร้อมเพียงทุกคนหน้าตาสดชื่นแจ่มใสครบเครื่องทั้งเสื้อผ้าหน้าผมพร้อมออกเดินทางในยามเช้าร่วมทางบนรถก็ยังสนุกสนานเฮฮาแต่เมื่อรถมาถึงทางที่จะเข้าไปในรีสอร์ททุกคนบนรถก็เงียบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายทางเข้ามีต้นไม้ใหญ่อยู่สองข้างทางประตูทางเข้าเป็นประตูเหล็กสนิมเกาะกลางเสมือนว่าไม่ได้เปิดใช้งานมานานมากแล้วและมีป้ายชื่อรีสอร์ทติดอยู่ที่ ด้านบน เมื่อรถบัสไปถึงหน้าประตูคนขับก็จอดรถเพื่อรอคนมาเปิดรอไปได้ประมาณ 20 นาทีก็มีลุงแก่แก่คนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์มาเปิดไฮ รถบัสจึงวิ่งต่อไป ด้วงทางที่รถวิ่งมาตามทางเข้าก็มองเห็นต้นไม้ใหญ่ปกคลุมทั้งสองข้างทางพื้นที่บริเวณนั้นรายล้อมไปด้วยภูเขาเพราะขับเข้าไปประมาณ 2 3 กิโลเมตรก็ถึงที่พักทุกอย่างเงียบสงัดไม่ว่าจะเป็นคนบนรถบัสหรือสถานที่พักน้ำตกใจมากรีสอร์ทเงียบเหมือนไม่มีคนมาพักเลย มีคณะกับเธอบนรถบัส 1 คันเท่านั้น แล้วทุกคนก็ทยอยเดินลงจากรถจนกว่าทางทุกคนลงมาจากรถหมดแล้วแต่พนักงานต้อนรับก็ยังไม่มาต้องรออีกสักพักใหญ่กว่าจะมีคนมาแล้วพาเขาไปยังแผนกต้อนรับทุกคนที่ไปพูดเป็นเสียงกันเดียวเลยว่าน่ากลัวแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรกันมาคิดว่าคงไม่ใช่ช่วงเทศกาลคนก็เลยไม่มาพักกันแล้วน่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกันทุกรีสอร์ทก็เป็นได้ พนักงานแจกกุญแจห้องพักซึ่งสามารถอยู่ได้ 4 คนต่อ 1 คอม ห้องพักที่นี่เป็นไม้ทั้งหมดยกเว้นตรงแผนกต้อนรับที่เป็นตะกูล 5 ชั้น ไม่ได้กุญแจห้องแล้วต่างคนก็แยกย้ายกันเอาสัมภาระไปเกี่ยวระหว่างทางที่เดินไปคลองผักมีต้นไม้เก่าแก่ต้นใหญ่มาเป็นต้นจำปีจำปาต้นไม้โบราณต่างๆที่ส่งกลิ่นหอมมีตอนกลางคืนคะแนนและเพื่อนๆเก็บของในห้องพักเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งพูดกันถึงที่พักว่าทำให้บรรยากาศมันถึงน่ากลัวแบบนี้สักพักก็มีพี่คนหนึ่งในเล่นพิเรนเอาเส้นผมมาปิดหน้าปิดตาแล้วให้เพื่อนถ่ายรูปไปให้ดูน่ากลัวตั้งใจว่าจะไว้แกล้งคนอื่นเพราะเพื่อนถ่ายเสร็จก็เอารูปมาดูปรากฏว่ารูปที่ออกมาทั้งหมดมีลักษณะเหมือนผีจริงๆมันเหมือนมาจนพี่คนที่เป็นตากล้องรู้สึกกลัวตัดสินใจ ลบรูปทั้งหมดทิ้งไปแต่ไม่ได้บอกใครบอกทีมกับว่าถ่ายไม่สวยจึงงดออกหมดแล้วเพราะถึงช่วงเย็นทุกคนก็มาพร้อมกันที่ห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน เสร็จแล้วก็พักผ่อนตามอัธยาศัยแต่ส่วนใหญ่จะกลับห้องกันหมดเพราะยิ่งมืดยิ่งวังเวงมากๆคนหนึ่งระหว่างกลับห้องเขาเดินผ่านต้นจำปีก็เห็นดอกอยู่เต็มทนและกลิ่นของมันก็หอมมาจึงคิดว่าเจ้ากลับห้องด้วยสัก 1 ดอกเขามองเห็นดอกที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้นจึงก้มหยิบดอกนั้นขึ้นมาทันใดนั้นสร้อยพระที่แขวนอยู่ก็ขาดหลุดออกจากคอร่วมนนท์ไปกองอยู่ที่พื้นห้ามทำให้เขาขนลุกไปทั้งตัวที่เขาก็เลยวางดอกจำปีไว้ที่เดิมหยิบผ้าแล้วรีบกลับห้องไปโดยไม่ได้บอกเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับใครทั้งสิ้น เวลาพี่แนนและเพื่อนๆไปสัมมนากันที่ไหนยามค่ำคืนก็จะไม่ค่อยได้หลับได้นอนกันสักเท่าไหร่เราจะมีกิจกรรมลับสมองตั้งวงเล่นไพ่กันเป็นประจำครั้งนี้ก็เช่นกันพวกเรารวมตัวในห้องกันเกือบ 10 คนได้แรกๆก็เล่นกันอย่างสนุกสนานเล่นไปเล่นมาก็ยิ่งดึกก็ยิ่งเงียบ ระหว่างที่เล่นกันอยู่พวกนั้นก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังในจากที่ด้านห้องมันคล้ายกับเสียงคนล่ากวีเสียงคนพูดคุยกันแต่เป็นภาษาที่นาและเพื่อนๆไม่เข้าใจ เสียงนั้นมันดังขึ้นเรื่อยๆแล้วสักพักมันก็หายไป ในความเงียบนั้นทุกคนก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้อง แผนที่แอบดูตรงช่องตาแมวแต่ก็ไม่เห็นใครทุกคนระแวงไม่มีใครกล้าเปิดประตูออกไปดู สักพักก็ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ผ่านหน้าห้องไปคนที่มาจากห้องอื่นกลัวจนไม่กล้ากลับไปนอนที่ห้องของตัวเองคืนมาถึงนอนห้องเดียวกันหมด 10 กว่าคน เช้ามาทุกคนต้องมาพร้อมกันที่ห้องสัมมนาอบรมแต่ละคนเข้าห้องได้สภาพเดียวกันขอบตาดำใบหน้าอิดโรยเหมือนไม่ได้นอนกันทั้งคืนแต่ก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเลยการสัมมนาเสร็จไปอย่างรวดเร็วทางรีสอร์ทได้มีการแนะนำกิจกรรมในรีสอร์ทเช่นลองแกะเล่นน้ำตกและอีกหลายๆอย่างแต่ก็ไม่มีใครร่วมกิจกรรมใดๆทั้งสิ้น อยู่ๆก็มีคนเสนอถึงว่าในเมื่อสัมมนาเสร็จเรียบร้อยแล้วกลับเลยก็แล้วกันจะได้ถึงบ้านไม่ดึกมากทุกคนต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นด้วย ระหว่างที่เดินทางกลับไม่มีใครพูดหรือทำอะไรเกี่ยวกับรีสอร์ทเลยแม้แต่คนเดียวบรรยากาศบนรถเหยียบเสน่ห์ผ้าทุกคนนอนหลับกันหมดและได้ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพกันทุกคนวันรุ่งขึ้นทุกคนก็มาทำงานกันปกติแต่ก็แทบไม่ได้ทำงานเขาจับกลุ่มคุยถึงเรื่องที่แต่ละคนเจอในรีสอร์ท ถามไปถามมาก็เจอเหตุการณ์ประหลาดกันแทบทุกห้องบางคนเราว่าเห็นวิญญาณมาเป็นเงาดำๆแล้วดึงขาเป็นอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งคืนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนบางคนก็ได้ยินเป็นเสียงร้องโหยหวนหรือไม่ก็เป็นเสียงตามมุมต่างๆของครองทั้งๆที่ในบริเวณนั้นไม่น่าจะมีเสียงเกิดขึ้นได้บางคนรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ได้ยินเสียงเหมือนอยู่ท่ามกลางสนามรบยุคโบราณบางคนโดนชวนไปอยู่ด้วยก็มีบางคนก็เห็นเงาดำมานั่งอยู่ปลายเตียงแต่ละครพวกเราไปต่างๆนานาแล้วก็ร้อนไปตามๆกันทำไมฝันผวากันไปหมด หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ผ่านมา 5​ ปีแล้ว แนนและเพื่อนยังจำรีสอร์ทนั้นได้ไม่เคยลืมจำเรื่องราวเหตุการณ์และความรู้สึกในตอนนั้นได้อย่างชัดเจน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...