บ้านเก็บศพ !!

         เกิดขึ้นที่ 24 ตุลาคม 2555 ซึ่งเป็นประสบการณ์ตรงที่จะเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นผมเข้ามาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯใหม่ๆเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่แถวบริเวณพุทธมณฑล ปกติผมจะรับป้าแม่บ้านคนหนึ่งไปสู่อีกซอยหนึ่งเป็นประจำเมื่อรับส่งมาได้ระยะหนึ่งแล้วสนใจที่จะเป็นลูกค้าประจำจะได้คอยมารับมาส่งตลอด คุณตาก็ตอบตกลงในทันทีที่คุณจะไปเป็นประจำนั้นมีลักษณะเป็นบ้านที่หลังใหญ่มีต้นไม้เยอะมากจะมาให้ผมไปรับไปส่งทุกวันค่ะ ซึ่งผมก็ไม่เคยสงสัยและไม่เคยถามถึงเหตุผลของแกเลยสักเพียงแต่ว่าบ้านหลังนี้หญิงคู่หนึ่งอาศัยอยู่เท่านั้นเพราะทุกครั้ง เวลาผ่านไปทุกอย่างปกติผมก็นึกว่าลูกค้าประจำผมจะไปส่งที่ไหนบ้าง จะไปส่งที่ไหนบ้าง เพื่อนก็ทำหน้าตกใจแล้วบอกกับผมว่ารู้ไหมว่าบ้านหลังนั้นเขาเก็บศพไปในบ้านส่วนตัวผมนั้นก็ไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่เอาไปแต่ละครั้งก็เห็นมีคนอยู่เป็นปกติดี เห็นป้าแม่บ้านเขาก็ไปทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งวันหนึ่งตาแกก็วานถอยช่วยยกของตัวบริเวณชั้นล่างบานออกมาให้หน่อย ซึ่งแกก็บอกว่าขอรบกวนเวลากินแค่แป๊บเดียวเท่านั้น ผมก็เลยเดินเข้าบ้านไปเพื่อที่จะไปช่วยแกเมื่อเข้าไปยังตัวบ้านหลังนั้นก็เห็นเฟอร์นิเจอร์สวยงามหรูหรามากมายตั้งอยู่ และวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดูสะอาดตา ซึ่งมันก็ดูเหมือนบ้านที่มีคนอาศัยอยู่โดยทั่วไป แล้วป้าแกกลัวผมช่วยยกของชิ้นนั้นขึ้นเตียงชั้นสองส่วนตัวป้าก็กำลังจะลงไปหยิบของชั้นล่างแล้วก็บอกกับผมว่าให้รออยู่ข้างบนแป๊บนึงและกำชับอีกว่าอย่าเปิดห้องนี้นะเอาเป็นห้องของเจ้านาย ขอแม่บ้านลงไปแล้วขณะที่ผมยืนรออยู่นั่นความคิดของเพื่อนวินมอเตอร์ไซค์ก็ผุดขึ้นมาในระยะหลังนี้มันไม่มีอะไรหรอกบ้านคนธรรมดาหลังหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ผมกำลังเดินไปยังประตูหน้าห้องนั้นก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงและผู้ชายเดินอยู่บนห้องข้างๆแล้วก็หายเข้าไปอีกห้องหนึ่งซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรก็เดินตรงไปยังห้องที่แม่บ้านห้ามเข้าต่อลูกบิดประตูแล้วก็ค่อยๆผ่านไป สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเตียงนอนขนาดใหญ่และตู้เสื้อผ้าเหมือนห้องนอนปกติแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรแต่ผมกำลังจะปิดประตูสายตาก็เหลือบไปเห็นโลงแก้วขนาดใหญ่ซึ่งสามารถมองเห็นภายในโรงได้อย่างชัดเจนสิ่งที่ผมได้เห็นวิญญาณสวมชุดเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนอนอยู่ข้างๆกันซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็น 2 หญิงชายเห็นเป็นประจำตรงหน้าต่างบานเดียวกัน ผมตกใจและกลัวมากอดกลั้นเสียงออกมาตอนนั้นขาสั้นจนควบคุมไม่ได้แทบจะล้มทั้งยืนเมื่อตั้งสติได้ผมจึงค่อยๆเดินลงบันไดไปช้าๆทีละขั้นเรื่องจะขาแทบจะไม่มีแรงยืนแล้ว ว่าจะตกบันไดขณะที่กำลังค่อยๆเดินลงไปนั้นผมก็หันไปมองที่ประตูห้องนั้นก็ได้เห็นหญิงชายคู่นั้นหน้าห้องในสภาพตัวขาวซีดน่ากลัวมากๆผมฉันกลับมาแล้วพยายามรีบก้าวขาลงไปอีกคันหญิงชายคู่นั้นยืนอยู่ตรงทางลงบันไดแล้วผมสติหลุดวิ่งกระเจิดกระเจิงลงบันไดสวนกับป้าแม่บ้านแต่ป้าแกก็คว้ามือมาจับกุมไว้ได้ทันแล้วก็ดูผมว่าบอกแล้วว่าอย่าเปิดห้องนั้นเป็นอย่างไรล่ะแล้วป้าแกก็กำชับบอกกับผมว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาดซึ่งตอนนั้นผมก็พยักหน้าตอบตกลงและขอออกไปคุยกันข้างนอกบ้านดีกว่าเพราะคุณอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไปไม่ไหวแล้วผมออกมานอกบ้านสักพักนึงก็กลับคืนมาได้ เหล้าบอกป้าว่าผมไม่ได้เจอแค่ส่งอย่างเดียวนะแต่ว่าเจอผีด้วยเป็นหญิงชายปีมะเส็งตอนมาส่งป้าอยู่เป็นประจำถ้าฉันได้เล่าให้ฟังว่าสาเหตุที่เขายังเก็บศพไว้ในบ้านแล้วไม่นำไปประกอบพิธีทางศาสนาก็เพราะว่าเมื่อครั้งที่หญิงชายคู่นี้ได้แต่งงานกันใหม่ๆโดยใช้บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของพวกเขาแล้วไปฮันนีมูนกันจะได้ประสบอุบัติเหตุขณะเดินทางกลับทำให้ทั้งสองเสียชีวิตพร้อมกันทั้งคู่ทำให้ญาติของทั้งคู่ไม่สามารถจะทำใจได้อีกทั้งเจ้าบ่าวที่เสียชีวิตในไปขวัญกับครอบครัวของเขาว่าไม่อยากไปไหนยังอยากอยู่บ้านเองได้นำศพของทั้งคู่มาใส่โลแล้วจ้างคนมาฉีดยาศพเมื่อถึงเวลาทำอย่างนี้แม่บ้านคอยสับเปลี่ยนกันมาทำความสะอาดอยู่เสมอคุณป้าแก่นั้น มีหน้าที่เอากับข้าวมาส่งให้ทุกวันค่ะซึ่งป้าแกเคยเป็นคนที่อาศัยอยู่บ้านหลังนี้ด้วยและที่มาช่วยดันเท่าเจ้านายที่นอนอยู่ในโลงเคยมีบุญคุณกับป้าเท่านั้นเอง

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด