วันนี้เรามีประสบการณ์ขนหัวลุกมาเล่าสู่กันฟังเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาดี โรงเรียนของเราจัดกิจกรรมศึกษาดูงานไปต่างจังหวัดกันทุกปีแต่ปีนี้มันพิเศษตรงที่เราได้ไปพักกันที่อ่าวมะนาวเห็นทะเลที่เราชอบมาตั้งแต่เด็กเพราะเคยเห็นในรูปเราดูสบายใจอ่าวมะนาวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตรบริเวณอ่าวมะนาวมีทิวทัศน์สวยงามเป็นหาดทรายที่สะอาดบรรยากาศสงบเหมาะแก่การเล่นน้ำมา ด้านตรงข้ามกับ 5 ก็จะเป็นเขาล้อมหมวกและเป็นที่ตั้งของเขตอนุรักษ์พันธุ์ค่างแว่น ที่หาดนี้ยามน้ำลดจะเห็นสันทรายทอดยาวให้เดินไปเที่ยวชมได้ บริเวณชายหาดมีเตียงผ้าใบให้เช่าหรือจะปูเสื่อนั่งเล่นริมชายหาดก็ได้และมีบริการบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยอ่าวมะนาวเคยเป็นยุทธภูมิในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างกองทัพไทยและกองทัพญี่ปุ่น โดยจะเห็นแท่งหินขนาดใหญ่แกะสลักจำลองฉากการต่อสู้ระหว่างกองทัพไทยกับญี่ปุ่น บริเวณอ่าวมะนาวทุกปีจะมีการจัดงานวันรำลึกวีรกรรม 8 ธันวาคม 2884 ด้วยสิ่งที่เราคิดว่าจะต้องไม่พลาดเลยเมื่อมาอย่างที่นี่หรือการได้ชิมอาหารทะเลสดๆที่มีอยู่หลายร้านมาทั้งยังเคยได้ยินมาว่ามันรสชาติอร่อยถูกปากในบรรยากาศดีๆราคาไม่แพงอีกด้วยระหว่างเดินทางเรานั่งรถมากับเพื่อนสนิทที่กำลังตั้งท้องได้ประมาณ 3 เดือนตลอดทางหลายคนบนรถทำเพื่อนเราว่าติดเข็มกลับมาหรือเปล่า เพื่อนเราก็ตอบไปว่าไม่ต้องติดหรอกเพื่อนไม่เชื่อคิดว่าเป็นเรื่องโบราณ เพราะคนโบราณมีความเชื่อว่าคนท้องต้องติดเข็มกลัดเพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายมาทำร้ายแม่และเด็กในครรภ์ซึ่งมันอาจจะเป็นเพียงแค่กุศโลบายเท่านั้นโดยปกติแล้วถ้าเรามีอบรมที่ไหนก็จะนอนด้วยกันในหลายๆทีก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรที่ทำให้นอนไม่หลับทั้งคืนนี้มันเริ่มไม่ปกติตั้งแต่ก่อนที่จะได้ห้องพักแล้วพวกเรามาเป็นหมู่คณะรถบัส 2 คันที่ที่เราไปพักเป็นที่พักของค่ายทหารแห่งหนึ่งมีรูปปั้นปลาวาฬอยู่หน้าทางเข้าเพราะไปถึงก็มีกุญแจห้องเตรียมไว้อยู่หลายห้อง เพื่อนเราก็บอกกับคุณครูที่มาคุมกุญแจว่าขอใช้สิทธิ์คนท้องนอนชั้นล่างห้องนั้นมันเป็นห้องหมายเลข 210 3 ส่วนคนอื่นๆในขณะที่มาด้วยกันทั้งหมดได้นอนที่ชั้น 3 ชั้น 4 และอาคารอื่นๆเพราะแยกย้ายจะเข้าที่พักกันแล้วเรากับเพื่อนก็อาบน้ำเตรียมชุดเตรียมถ่ายรูปสวยๆตรงระเบียงรักริมทะเล เราและเพื่อนเราเดินไปถ่ายรูปเล่นจนถึงเวลาทานข้าวก็ไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรมมีร้องเพลงคาราโอเกะกันจนถึง 4 ทุ่ม เรากับเพื่อนก็กลับเข้าห้องนอนตามปกติห้องที่เรานอนนั้นเป็นห้องเตียงคู่เรานอนติดเตียงเพื่อนเรานอนติดห้องน้ำปลายเท้าเป็นกระจกแต่งหน้าแล้วก็ดูทีวีดูข่าวเล่นโทรศัพท์จนหลับไปเมื่อสะดุ้งตื่นอีกครั้งเมื่อตอนที่เพื่อนเราร้องเรียกเสียงดัง เพราะเราตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าน้องกำลังนอนคลุมโปงอยู่แล้วบอกกับเราว่ากลัวตลอดเวลา เราถามเพื่อนว่ากลัวอะไรนั่งบอกแค่ว่าน่ากลัวมากเราเลยเปิดไฟสว่างทางของทุกจุดเปิดทีวีด้วยซึ่งตอนนั้น เป็นเวลาประมาณ 3:40 นเพิ่มเราได้เล่าให้ฟังว่านางนอนไม่หลับเพราะท้องแล้วฉี่ทั้งคืนพวกก็เป็นอะไรไม่รู้ขยับตัวทุกท่าแล้วก็ไม่หลับสักทีก็เลยเปิดเพลงฟังใส่หูฟังทั้งสองข้างแล้วนางก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากเตียงของเราในขณะที่เพื่อนเรานั่งฟังเพลงจนเริ่มเคลิ้มและได้ยินเสียงดังแปลกๆจึงมองตามเสียงดังและหูฟังออกข้างหนึ่งแล้วนางก็เห็นเงาคนดำๆเดินมาจากเตียงของเรา ตอนแรกก็เห็นไม่ชัดแต่พอเหงานั้นเดินเข้ามาไกลก็เห็นชัดเลยว่าเป็นผู้หญิงแก้มโหนกหน่อยๆทรงผมหน้าม้ายาวประบ่าดูแล้วเป็นคนยุคปัจจุบันนี้แหละไม่ใช่คนโบราณเธอใส่กางเกงยีนสีดำใส่เสื้อปกติรูปร่างดีเลยทีเดียวเธอคนนั้นเดินมากดเท้าของเผือกไล่ขึ้นไปจนถึงเอวพอถึงตรงท้องก็มือลูบท้องกับเพื่อนเราซึ่งเพื่อนเรานั่งท้องใหญ่มากถึงแม้ว่าจะท้องได้เพียงแค่ 3 เดือนแต่หลายๆคนก็ทักว่าเหมือนกับท้อง 6 เดือนเลย เมื่อนางโดนผู้หญิงคนนั้นเอามือมาลูบท้องตอนนั้นนางบอกตกใจมากคิดว่ามันเป็นความฝันหรือว่าความจริงนางพยายามจะขัดขืนไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นมายุ่งกับลูกของนางแต่เรานั้นก็ไม่หยุดพยายามเอามือล้วงเข้าไปด้านในของเพื่อนเรานั่งพยายามดิ้นรนขัดขืนแล้วถีบมือของผีตอนนั้นออกไปทั้งทั้งที่หลับตาอยู่เพราะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นเงานั้นยังอยู่จึงมั่นใจว่าไม่ได้ฝันไปแน่ๆให้เองก็ยังดังในหูอีกข้างของนางอยู่ไหนพยายามท่องบทสวดและท่องไม่ได้ต้องผิดๆถูกๆมั่วไปหมดก็ตกใจมากสุดท้ายจึงใช้วิธีนึกถึงภาพที่คล้องคออยู่ด้านหลังสักพัก เหงาดำนั้นก็หายไปหลังจากที่เงาดำน้ำหายไปนานก็ปลุกเรียกเราเรียกหลายทีมากกว่าเราจะตื่นเพราะเราตื่นนั้นก็เล่าเรื่องให้เราฟัง เราจึงบอกไปว่าเพื่อนคิดมากไปหรือเปล่ากินเยอะไปหรือเปล่าไปนอนโรงแรมกันมาเป็นสิบปีไม่เคยเจออะไรแบบนี้เราก็เลยบอกให้นอนต่อมันไม่มีอะไรหรอกท้องแล้วหอโม่น่าจะพุ่งพ่านแล้วนางก็บอกว่าผู้หญิงคนนั้น เดินลงมาจากเตียงที่เรานอนอยู่ซึ่งติดกับระเบียงเราได้ยินนานๆก็ตกใจสะดุ้งรีบจนออกไปที่เตียงเพื่อนในทันทีจะนอนต่อก็นอนไม่หลับแล้วตอนนี้จินตนาการต่างๆนานาเต็มไปหมดแล้วเราก็สังเกตเห็นว่าในห้องที่เราพักมีรูปภาพของน้ำตกแห่งหนึ่งซึ่งนำมาตกแต่งห้องวัยมีความที่ตอนแรกเราปิดไฟนอนจึงเห็นแค่เพียงลายน้ำตกขาวๆ รูปนั้นมันเป็นรูปของคนสองคนนั่งทำท่ากางแขนดำแต่ว่าไม่มีหัวดูน่ากลัวมากเลยหันไปคุยกับเพื่อนว่าเห็นอย่างที่เราเห็นมั้ยนางก็บอกว่ามองอยู่เหมือนกันแต่อย่าเพิ่งพูดอะไรรอให้สว่างก่อนค่อยคุยกัน แล้วเราก็เบื่อก็นอนเตียงด้วยกันไม่กล้าที่จะกลับไปนอนเตียงริมระเบียงแล้วพยายามนอนก็นอนไม่หลับเพราะเปิดไฟสว่างจ้าทั้งห้องทั้งยังเปิดทีวีอีกด้วยอีกใจก็นึกกังวลว่าแฟนเราจะไปกระแทกกับของของเพื่อนอีก ระหว่างนั้นก็นอนคิดไปว่าถ้าไปถามผู้ที่ดูแลสถานที่นี้คงไม่มีใครบอกแน่ๆก็เลยลองค้นหาใน Google ดูก็พบเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับที่ ID พอเช้ามาเราก็เล่าให้ครูที่มาด้วยกันฝากเขาบอกว่าตอนเบลกุญแจก็เห็นห้องนี้เหมือนกำลังทำความสะอาดอยู่มีการย้ายเตียงเข้าออกด้วยซึ่งพนักงานได้บอกกับครูว่านกตายแต่กูก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนพวกเราทั้งสองได้เจอกับเหตุการณ์ประหลาดในคืนนั้นและเคยได้ยินมาว่าคนท้องมักจะเจออะไรแบบนี้ง่ายกว่าคนโดยปกติทั่วไปซึ่งมันอาจจะเป็นจริงก็ได้
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น