วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ลูกเสือเนตร​นารี​ เจอดีที่ค่ายทหาร !!


             เรื่องราวต่อไปนี้เกิดขึ้นที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในภาคเหนือสิ่งที่ค่ายนี้จะมีการจัดค่ายลูกเสือและเนตรนารีให้กับโรงเรียนต่างๆด้วยโดยวิทยากรที่มาฝึกให้กับเด็กๆส่วนใหญ่ก็จะเป็นทหารและตัวแทนครูจากหลายๆโรงเรียนซึ่งนิยมมาจากค่ายลูกเสือที่นี่มาเอาที่ค่ายทหารนี่ขึ้นชื่อเรื่องการฝึกระเบียบวินัยและมีกิจกรรมที่ให้ความรู้กับเด็กๆเป็นอย่างดี ปีนี้ก็เช่นกันโรงเรียนในกลุ่มเขตพื้นที่ทางการศึกษาประมาณ 6 โรงเรียนแนะนำนักเรียนหญิงที่เป็นเนตรนารีระดับชั้นม 1 ถึงม 3 จำนวนประมาณ 200 ขวดมาเข้าค่ายเนตรนารีที่ค่ายทหารที่นี่โดยแต่ละโรงเรียนจะมีคุณครูมาควบคุมดูแลร้องเรียนละ 2 3 ท่านซึ่งจะมีทั้งครูผู้หญิงและครูผู้ชายเมื่อนักเรียนและคุณครูมาถึงที่ค่ายทหารวิทยากรที่เป็นกลุ่มทหารก็ให้นักเรียนเข้าแถวและแบ่งกลุ่มแบบคละโรงเรียนออกเป็นกลุ่มละ 10 คนจากนั้นก็มีการสาธิตวิธีการตั้งเต็นท์พักแรมและนักเรียนช่วยกันตั้งเต็นท์ในบริเวณลานกว้างโดยแต่ละเต็นท์นักเรียนหญิงก็จะนอนด้วยกันแต่ละ 10 คน ส่วนคุณครูก็ไปพักที่บ้านของนายทหารซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่พักได้เกือบ 10 คนคุณครูผู้หญิงนอนรวมกันอยู่ในห้องชั้นบนส่วนคุณครูผู้ชายก็จะนอนรวมกันที่ห้องโถงชั้นล่างนักเรียนตั้งแต่เดือนและจะเก็บสัมภาระเข้าเต็มเรียบร้อยก็ถึงตอนเย็นพอดีวิทยากรก็ให้นักเรียนเตรียมของไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำซึ่งเป็นห้องอาบน้ำแบบทหารมันเป็นห้องโล่งกว้างตรงกลางห้องจะมีบ่อน้ำขนาดใหญ่กว้าง 4 เมตรยาว 8 เมตรสูงประมาณ 1 เมตรทุกคนที่ไปอาบน้ำก็ต้องนุ่งผ้าถุงกระโจมอกและเตรียมสบู่ขันน้ำไปด้วย เด็กๆรู้สึกสนุกสนานในการอาบน้ำด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่แบบนี้มากเพราะไม่เคยหาบอย่างนี้ที่บ้านมาก่อนแต่ก็มีเวลาหัวเราะเล่นน้ำกันได้ไม่นานเพราะจะมีคนจับเวลาอาบน้ำในแต่ละกรุไม่ให้เกิน 5 นาทีแล้วก็ต้องรีบแต่งตัวให้เสร็จภายในเวลา 10 นาทีเพื่อเป็นการฝึกให้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า หลังจากอาบน้ำเสร็จวิทยากรก็เรียกระดมพลเข้าแถวแล้วตบเท้าไปที่โรงอาหารพอถึงโรงอาหารก็จะเย็นต้องเรียงแถวเป็นระเบียบซึ่งมีอาหารวางอยู่บนโต๊ะพร้อมข้าวเรียบร้อยแล้วต้นไม้มีลักษณะเป็นโต๊ะยาวๆมีมานั่งทั้งสองข้างของต่อและนางได้ประมาณด้านละ 15 คนร่วมต้นหนึ่งก็จะนั่งได้ 30 คนเข้าเดินไปยืมรอบโต๊ะอาหารแล้วรอจนกว่าทุกคนจะเข้าที่เรียบร้อยวิทยากรถึงจะสั่งให้นั่งลงพร้อมกันว่าจะได้รับประทานอาหารก็ต้องมีการตอบช้าโดยใช้มือทรายแต้ๆข้อสอบมือขวาแล้วมือขวาแต่ที่ข้อศอกมือซ้ายทำในท่าทางที่ทำแล้วยกมือข้างหนึ่งตังค์ ขึ้นและตกลงมาจากนั้นก็พนมมือขอบคุณข่าวโดยกล่าวพร้อมกันว่าข้าวทุกเม็ดมีบุญคุณต่อเราเราต้องรับประทานด้วยความขอบคุณต่อจากนั้นก็เริ่มลงมือรับประทานอาหารกันอย่างสงบห้ามพูดคุยกันอย่าให้ช้อนกับจานกระทบกันเสียงดังห้ามทานเหลือห้ามทำข้าวตกไม่อย่างนั้นจะถูกลงโทษซึ่งทุกคนปฏิบัติโดยดีเราเด็กๆเคยได้ยินว่าบทลงโทษของทหารหนักมาแล้วมื้อเย็นมือนั้นก็ผ่านไปด้วยดีจากนักวิทยากรก็ให้เวลานักเรียนไปทำธุระส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นเข้าห้องน้ำแปรงฟันหรือไปหยิบสมุดปากกามาจดบันทึกซึ่งจะให้เวลาไม่เกิน 30 นาที เพราะถึงเวลา 1​ ทุ่ม วิทยากรก็เรียกนักเรียนทั้งหมดเข้าห้องประชุมคุณครูก็ตามนักเรียนเข้าไปในห้องประชุมด้วยแต่ไม่มีบทบาทอะไรเพียงแต่เฝ้าดูสังเกตเหตุการณ์เท่านั้นวันนี้วิทยากรได้แนะนำทีมงานมีการร้องเพลงบ้างและแนะนำโปรแกรมว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้างที่น่าสนใจที่สุดคือพรุ่งนี้จะมีการพานักเรียนเดินป่าเพราะตอนเย็นก็จะมีการเล่นรอบกองไฟและลงขึ้นของอีกวันก็จะได้กลับบ้านซึ่งการเข้าค่ายลูกเสือครั้งนี้ใช้เวลารวมทั้งหมด 3 วัน 2 คืนเมื่อได้ทำกิจกรรมเสร็จแล้ววิทยากรใกล้นักเรียนก็ไปพักผ่อนตอนนั้นก็เป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่งแล้วเมื่อนักเรียนกลับเข้าเป็น ก็มีการพูดคุยแนะนำตัวเองให้เพื่อนๆสมาชิกแต่ละคนรู้จักนักเรียนมาจากทางโรงเรียนจึงตื่นเต้นที่ได้พบเจอเพื่อนใหม่หลายคนไม่เข้านอนเพราะมัวแต่คุยกันจนถึงเวลาประมาณ 5 ทุ่มก็มีครูฝึกทหารมาบอกให้ปิดไปรักเข้านอนห้ามพูดห้ามส่งเสียงดังแต่เด็กๆก็ไม่ยอมหลับและแอบคุยกันอยู่ส่วนเรื่องใหญ่ที่เด็กๆคุยกันก็จะเป็นเรื่องผีและเรื่องความเร้นลับของค่ายดีแล้วก่อนที่จะมาเข้าค่ายพวกรุ่นพี่ในโรงเรียนได้เล่ากันว่าค่ายนี้มีผีมีคนโดนหลอกมาแล้วจนเด็กๆกลัวไม่กล้าแม้กระทั่งจะเข้าห้องน้ำ หรือถ้าทนไม่ไหวจริงๆก็จะไปเป็นกลุ่มกลุ่มละไม่ต่ำกว่า 10 คนแล้วเรื่องน่าขนลุกก็เกิดขึ้นจนได้ในขณะนั้นเป็นเวลาประมาณเกือบเที่ยงคืนที่เต้นหลังหนึ่งมีเสียงร้องครางฮือฮือตามมาด้วยเสียงร้องไทยเสียงนั้นดั่งจนเพื่อนๆต่างตกใจลุกขึ้นเอาไฟฉายมาส่องดูแล้วภาพที่เห็นนั้นก็คือนี้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งร้องไห้คนความและกรีดร้องเสียงดังพร้อมกับดึงผมตัวเองจนยุ่งเหยิงดวงตาของเธอนั้นแดงกับใครกับผีเข้า สักภาพเด็กผู้หญิงอีกคนก็ดิ้นทุรนทุรายเด็กๆต่างตกใจและแตกตื่นไม่อยากไปทั่วร้านก็สว่างขึ้นไปเหตุการณ์ก็ยังไม่สงบเด็กๆค่อยล้มลงทีละคนบางคนฉีกเสื้อผ้าตนเองบางคนก็กัดฟันตัวเองแล้วร้องเหมือนกับสัตว์มีอยู่คนหนึ่งที่พูดขึ้นมาว่ามึงลบหลู่​กูมึงลบหลู่​กูเท่านั้นยังไม่พอบางคนบีบคอตอนนี้แล้วส่งเสียงกรีดร้องเต็มลาน ส่วนเด็กๆที่ไม่มีอาการอะไรก็ร้องไห้ด้วยความกลัว จนเสียงดังถึงครูที่อยู่บ้านพัก ต่างพากันวิ่งมายังที่เกิดเหตุก็เห็นมีเด็กๆประมาณ 20 คนนอนดินมีอาการแปลกๆวิทยากรและคุณครูจึงช่วยกันจากและใช้เชือกมัดนักเรียนเหล่านั้นไม่ให้ทำร้ายตัวเอง จากนั้นก็นำไปขึ้นรถทหารพาไปส่งโรงพยาบาลนักเรียนที่เหลือวิทยากรก็ให้เข้าห้องประชุมนั่งสมาธิแล้วก็บอกให้แยกย้ายกันไปเข้านอนวิทยากรทหารบอกกับครัวที่ค่ายทหารแห่งนี้มักเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆเป็นเพราะเด็กไปฟังเรื่องราวเกี่ยวกับผีมากเกินไปจึงเกิดอุปทานจิตหลอดเรียกว่าอุปทานหมู่ได้สงบสติอารมณ์ก็จะหายหรือถ้าได้รับยาคลายเครียดก็จะดีขึ้นเมื่อเราคุณครูได้ฟังก็โล่งอก พอรุ่งเช้าเด็กบางส่วนที่ไปนอนโรงพยาบาลก็กลับมาเข้าค่ายต่อแล้วก็มีเด็กประมาณ 5 คนมีผู้ปกครองมารับกลับบ้านถือเป็นเหตุการณ์น่าขนลุกที่ต้องจดจำไปอีกนาน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...