วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ตำรายาผีบอก​ รักษาสารพัดโรค !!


     ตาหมานแกมีอาชีพเป็นหมอยาหรือหมอเมืองรักษาผู้คนทั่วไปและไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์หรอกครับแต่ชาวบ้านก็เรียกแกว่าหมอ ส่งตัวแกเองก็ภูมิใจในอาชีพนี้ที่ได้ช่วยเหลือชาวบ้านถ้ามันเคยเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับเรื่องราวของถุงผ้านะว่าตอนที่แกอายุได้ 21 ปีในสมัยนั้นชายไทยทุกคนต้องบวชหรืออุปสมบทให้พ่อแม่ตามประเพณี ทหารจึงบวชที่วัดท้ายหมู่บ้านวัดนั้นเคยเป็นวัดร้างมาก่อนด้วยเหตุใดก็ไม่รู้ต่อมามีพระธุดงค์รูปหนึ่งเดินทางแสวงบุญผ่านมาเพราะเห็นว่าปราณีก็ได้บูรณะวัดนี้ขึ้นมาใหม่แล้วชาวบ้านก็ให้พระรูปนั้นเป็นเจ้าอาวาสต่อมามีชาวบ้านมาบวชอยู่วัดนี้อีก 2 โลร่วมกับเจ้าอาวาสก็เป็น 3 โลก็มีตาหมานเข้ามาก็เป็นรูปที่ 4 ด้วยตัวเลข 4 เป็นเลขอัปมงคลพร้อมๆกับคำว่าสีของคนจีบซึ่งแปลว่าตาย เจ้าอาวาสก็เลยให้แก้เกรดด้วยการบำเพ็ญบารมี 7 วันคือให้นั่งสมาธิและฉันมังสวิรัติทหารก็ทำตามเราตัวของตาหมานี่ก็เป็นคนนิสัยมักหน่อยและชอบสันโดษอยู่แล้วจึงอยู่ง่ายกินง่ายไม่ถึงกับลำบากใจอย่างไร มาตรฐานคือศีลกินผักจนผ่านมาถึงวันที่ 3  ขณะที่แกนั่งสมาธิอยู่แกก็เกิดนิมิตเห็นชายแก่คนหนึ่งจูงมือเด็กน้อยเดินเข้ามาหา ชายแก่และเด็กน้อยไม่สวมเสื้อนุ่งผ้าเตี่ยวขอเดินมาได้อีกสักพักเด็กคนนั้นก็วิ่งตรงเข้ามาหาตามมาพร้อมกับพูดว่าขอเงิน 10 บาทอาหารจึงหยิบเงินให้ 10 บาทพอดีๆก็รีบวิ่งกลับไปหาชายชราและทั้งสองคนก็เดินหายลับไปในความมือคืนวันที่ 4 คณะที่ตามมานั่งสมาธิเห็นนิมิตอีกว่าชายชรากับเด็กทั้งสองจูงมือกันเดินมาหาพร้อมกับของในมือของเด็กหน่อยที่มีดอกบัว 1 ดอกเพราะมาถึงที่ตามมานั่งอยู่ได้คนนั้นก็ส่งดอกบัวให้แล้วพูดว่าเอาดอกบัวนี้มาให้เพื่อแลกกับเงิน 10 บาท ตามมาก็รับดอกบัวมาถือไว้แล้วชายชรากับเด็กหน่อยก็เดินหายไป ถ้ามาได้เก็บเรื่องนี้ไว้โดยไม่ได้บอกใครเพราะคิดว่าคงเป็นแค่ความฝันแต่พอคืนที่ 5 ขณะที่แกนั่งสมาธิก่อนนอนเหมือนเช่นเคยแกก็เห็นชายชราและเด็กหน่อยเดินมาหาแกมาครั้งนี้ชายชราได้ยิ้มให้และพูดว่าถ้ามันเป็นคนดีแต่อยากจะให้ของอยู่อย่างหนึ่งเป็นตำรายาสามารถรักษาได้สารพัดโรค ถ้ามันดีใจมากบอกว่าอยากได้เท่าทุกวันนี้มีโรคร้ายมาคุกคามชีวิตมนุษย์และยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ชายชราจึงบอกกับตาเหมือนว่าเมื่อรับตำรับยาไปแล้วตามอ่านต้องสัญญาว่าข้อหนึ่งจะต้องช่วยเหลือคนอย่าได้คิดเอาผลประโยชน์ถ้าผิดสัญญาตามข้อ 1 taman ต้องเสียของรักไป ข้อสองห้ามบอกสูตรยานี้ให้ใครเป็นอันขาดยกเว้นแต่ว่าตามอ่านอายุครบ 60 ปีต้องยกตำรายานี้ให้แก่ทายาทแต่ถ้าผิดคำสัญญาใดๆชายชราจะกลับมามีชีวิตตามมา ด้วยความที่ตามอ่านอยากได้ตำรับยาจึงรับคำสัญญาจากนั้นใช้ชราจึงหยิบถุงผ้าสีขาวให้ถุงหนึ่งข้างในถุงมีสมุดเล่มเล็กๆถูกมัดด้วยเส้นหนังสีน้ำตาล ถ้ามารับมาแล้วรีบเปิดออกดูข้างในสมุดงานก็เห็นว่าภายในเขียนด้วยตัวหนังสือขอมโบราณแก้อุทานด้วยความยินดีว่าเหลือเชื่อจริงๆนี่คือตำรับยาโบราณที่มีอายุเป็นพันๆปีแล้วจะดีใจมากแต่ในใจตาหมานก็คิดว่าผมจะต้องไปหาคนที่อ่านตัวหนังสือขอมโบราณได้มาช่วยแปลตำรานี้เสียก่อน ขณะที่แกดีใจอยู่นานก็ไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าชายชรากับเด็กน้อยที่หายไปลาว ตั้งน้ำจิ้มเจ็บถูกและสมุดเล่มเล็กไว้ใต้หมอน จากนั้นแกก็ล้มตัวลงนอน พอรุ่งเช้ามาตามันตื่นขึ้นมาแกก็ล้วงเข้าไปที่ใต้หมอนหยิบถุงที่ได้สู้เก็บเอาไว้แล้วเปิดออกก็พบกับความว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย แกคิดว่าคงเป็นเพียงแค่ฝันไปนี่ไม่เจอนานเหมือนจริงมากเลย แต่นี่คืนนั้นนี่จึงเป็นคืนที่ 6 ขณะที่แกกำลังตกอยู่ในภวังค์สมาธิชายชรากับเด็กก็มาหาตามานี่พร้อมทั้งยิ้มอย่างพอใจและบอกกับตาม่านว่าให้เตรียมอุปกรณ์เตรียมเครื่องเขียนและสมุดมาเล่น 1  พรุ่งนี้แกจะกลับมาอีกครั้ง พอรุ่งเช้าวันถัดไปตามอ่านก็ไปหาสมุดและดินสอมาเตรียมไว้ คืนนี้เป็นคืนที่ 7 taman ได้สวดมนต์ภาวนาเตรียมนั่งสมาธิ เพราะหลับตาแกก็เห็นชายชรามานั่งรออยู่ก่อนแล้วแต่วันนี้เด็กน้อยไม่มาด้วยถ้ามันก็ถามว่าเด็กน้อยไปไหนชายชราตอบว่าวันนี้ต้องแปลตำราซึ่งใช้เวลานานจึงไม่ให้เด็กมาด้วยชัยชนะบอกให้ตามมาขอให้จดตำราตามที่ชายชราบอก แล้วชายชราก็แปลอักษรขอมโบราณเป็นภาษาที่อยากได้อ่ะเหมือนกับชายชรานั่งแปลอักษรเป็นตำรับยาจนถึงสว่างก็ได้มาทั้งยาทายาต้มรักษาโรคต่างๆเป็นตำรับยามา 1 เล่มจากนั้นชายชราก็เห็นถุงผ้าเก่าๆให้ตาหมานเก็บตำราและกำชับว่าให้เก็บไว้ให้ดีแล้วชายชราก็จากไปพร้อมกับทิ้งท้ายว่าเขาจะมาทวงสัญญาอีกครั้ง หลังจากนั้นตามอ่านก็ได้ทดลองทำยาทั้งยาทาและยาต้องนำไปแจกจ่ายชาวบ้านในละแวกนั้นให้ลองทาและกินเพื่อรักษาเราก็ปรากฏว่าได้ผลชะงักชาวบ้านหลายคนหายจากโรคที่เป็นมานานและทรมานตามาก็เลยกลายเป็นหมอตาที่มียาดีเมื่อใครมารักษาก็ให้เสียค่าครูคนละ 19 บาทซึ่งนับเป็นเงินน้อยนิด ถ้ามามีเจตนาที่จะเอาเงินจำนวนนั้นไปเป็นค่าวัสดุในการทำยา คนป่วยทุกคนก็พอใจเดินทางมารักษากันชนวัดนั้นชื่อเสียงดังกระฉ่อนเล่าลือกันปากต่อปากมีคนเข้ามาทำบุญกันมากมาย เพราะตามันบวชได้ 3 พรรษาก็ได้ลาสิกขาออกมาอยู่กับพ่อแม่แต่แกก็ยังรักษาคนป่วยอยู่ซึ่งมีคนมาให้รักษากันอย่างไม่ขาดสาย เพราะ taman อายุได้ 25 ก็ได้แต่งงานอยู่กินกับภรรยาชื่อผ่องใสเมื่อทั้งคู่แต่งงานกันได้ 1 ปีตามมันก็มีความคิดว่าแกน่าจะหารายได้เพิ่มมากขึ้นเพื่อครอบครัวและลูกที่จะเกิดมา แก้จึงขึ้นค่าครูเป็นคนละ 199 บาท และธาตุอาหารเห็นใครที่ดูมีเงินแต่งตัวดีมีฐานะแกก็จะเรียกเก็บค่ารักษาในราคาแพงๆจนแก่ร่ำรวยมีบ้านหลังใหญ่มีเงินทองมากมายเมื่อมีชื่อเสียงเงินทองก็ไหลมาเทมาจนแก่เกิดความโลภซึ่งการกระทำของตามอ่านได้ผิดคำสัญญาข้อที่ 1 ที่ให้ไว้ว่าจะรักษาคนไข้โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว กรรมนั้นได้ตกกับดังผ่องใสเมื่อนั้นผ่องใสตั้งท้องลูกคนแรกในช่วงระยะ 3 ถึง 6 เดือนท้องของยายผ่องใสก็โตขึ้นตามปกติระยะครรภ์ได้ 7 เดือนนางผ่องใสเริ่มมีอาการมือและเท้า + ชาวบ้านทั่วไปเห็นดังนั้นก็บอกว่าเป็นอาการปกติของคนท้องอายุครรภ์ได้ 8​ เดือนมือและเท้าก็ยังไม่หายบวม อาหารพาไปโรงพยาบาลโรงพยาบาลถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินเมื่อหมอมาตรวจก็บอกว่าล้างผ่องใสมีอาการครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรงเพราะนำตัวมารักษาช้าไปตอนนี้อาการของนางผ่องใสเรื่องแย่หรอกเธอตัวเขียวมีโอกาสที่จะเสียชีวิตทั้งแม่และลูกอมจะต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยชีวิตทั้งคู่เอาไว้ เพราะถ้ามาได้ยินดังนั้นก็ตกใจมากรีบเซ็นใบอนุญาตให้หมอผ่าตัดด้วยมือที่สั่นเทา แล้วหมอก็ได้พายายผ่องใสเข้าห้องผ่าตัดโดยมีตาหมานั่งรออยู่นอกห้อง เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมงมาก็มาแล้วเชิญตามอ่านเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง หมอชิตอาหารดูเด็กทารกน้อยในตู้อบผ้าห้องกระจกร้อนกับเราแสดงความเสียใจกับตามอ่านว่าหมอไม่สามารถช่วยชีวิตแม่ของเด็กเอาไว้ได้แต่เด็กทารกเพศหญิงนั้นรอดชีวิต ถ้ามันไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีแกยืนซึมน้ำตาคลอเบ้า สักพักใหญ่หลังจากฝากลูกไว้ที่โรงพยาบาลแล้วแกก็กลับไปทำงานศพของยายผ่องใสๆกับหาคนที่จะมาเรียนรู้ก็ได้คนเลี้ยงซึ่งเป็นญาติๆของแกเอง ไม่ด่าแกก็ไปรับลูกมาเลี้ยงที่บ้านย่างฟูมฟักเลี้ยงดูอย่างดีส่วนตามมาก็ยังเป็นหมอมือรักษาโรคต่างๆที่บ้านเหมือนเดิมและก็มีคนมารักษากับแกอย่างไม่ขาดสาย แกยังคงเรียกเก็บเงินจำนวนมากอยู่เพราะไม่รู้ว่าที่แกเสียเมียสุดที่รักไปเป็นเพราะแกผิดสัญญาที่เคยได้ให้ไวจึงทำให้ต้องเสียของรัก ถ้ามาได้ตั้งชื่อลูกสาวคนนี้ว่าวันเพ็ญ เมื่อวันเพ็ญอายุ 20 ปีก็ได้แต่งงานกับนายทองสุขตอนนี้ตาหมานอายุประมาณ 40 60 และครอบครัวคงตามอ่านก็น่าจะมีความสุขดีแต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดกับครอบครัวของตาหมาดี เมื่อหลานชายผมตามอ่านที่เกิดกับวันเพ็ญและทองสุขน้องกีตาร์ใครจะอายุได้ 5 ขวบก็มีเหตุการณ์ร้ายเกิดคืนวันนั้นขณะที่วันเพ็ญและทองสุขกำลังเดินทางไปรับน้องกีตาร์ที่โรงเรียนโดยรถมอเตอร์ไซค์ เมื่อใกล้จะถึงโรงเรียนอนุบาลเพียงอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งสวนมาด้วยความเร็วรถคันนั้นเสียหลักพุ่งตรงข้ามเลนมาชนรถจักรยานยนต์ของทั้งคู่ทำให้ทั้งรถทั้งคนกระเด็นไปคนละทิศคนละทางส่งผลให้ทั้งสองคนนอนจมกองเรือตายอยู่ที่ตรงนั้น ซึ่งเป็นภาพที่อเนจอนาถใจเป็นอย่างไร เมื่อตามอ่านได้รู้ข่าวก็เสียใจมากคิดฮอดโชคชะตาของตัวเองว่าทำไมเป็นแบบนี้ ในขณะที่ตาหมานกำลังเศร้าโศกเสียใจอยู่นั้นจู่ๆแกก็นึกถึงคำสัญญานั้นขึ้นมาที่บอกว่าต้องช่วยเหลือคนอย่าได้คิดเอาผลประโยชน์ถ้าผิดสัญญาตามข้อที่ 1 ทหารจะต้องเสียของรักไปจึงทำให้ตามอ่านคิดว่าอาจจะเป็นเพราะแกผิดคำสัญญานั้น เพื่อรักษาชีวิตของหลานรักแกจะเลิกเก็บค่ารักษาแพงๆเหลือเพียงค่าครูคนละ 19 บาทตามเดิม

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...