วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สะตวง​ ของเซ่นไหว้ผี !!


           1 เรียกวอ 2 ทราบแล้วเปลี่ยน เสียงวิทยุสื่อสารเรียกขาน 2 และมีเสียงตอบกลับมา แฟนเปลี่ยนไปไม่เปนพิกัด 357 เปลี่ยนรับทราบจะจัดหน่วยพิทักษ์ 07 ขึ้นไปเปลี่ยน ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ สิ้นสุดเสียงการสนทนาทางวิทยุอาคมกับหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ไฟป่าก็เรียกระดมพลหน่วยพิทักษ์ 07 จึงมีกองกำลังทั้งหมด 6 ได้ทุกคนรีบจัดเครื่องมือและอุปกรณ์ดับไฟป่าขึ้นรถจิ๊บของกรมป่าไม้ เมื่อทั้งหมดพร้อมแล้วได้มีก็ขับรถอย่างเร่งดีมุ่งหน้าไปยังพิกัด 357 ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ห่างจากสำนักงานหน่วยพิทักษ์ไฟป่าประมาณ 10 กิโลเมตร ถนนมีเส้นทางค่อนข้างขรุขระและสูงชันเนื่องจากเป็นภูเขาลูกเล็กและใหญ่สลับซ้อนกัน ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 15:00 นรถจิ๊บบรรทุกพนักงานดับไฟป่ามาถึงจุดหมายที่ยอดเขาลูกหนึ่งซึ่งมีรหัสเรียกว่า 357 สิ่งที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าคือเปลวไฟลุกโชนไม่โหมกระหน่ำต้นไม้ใหญ่เหล็กถูกไฟป่าเผาเสียงดังลั่นดันเปีย มวลอากาศร้อนลอยตัวสูงขึ้นอากาศเย็นโดยรอบก็ถาโถมพักเข้ามาแทนเหมือนกับผีห่าซาตานที่ช่วยกันเป่าลมให้เปลวไฟพัดโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งอาคมและเพื่อนร่วมงานรีบกระโดดลงจากรถจิตและคนเครื่องไม้เครื่องมือลงจากนั้นก็สั่งการให้ทุกคนลงไปสำรวจจุดไฟไหม้โดยรอบเพื่อประเมินสถานการณ์และวางแผนดับไฟระหว่างนั้นก็มีกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ตัวเองใกล้เคียงที่ทราบข่าวเรื่องไฟไหม้ป่าเพราะเขาก็เข้ามาแบบจิตอาสาช่วยดับไฟป่าอีกแล้วโดยมีผู้ใหญ่บ้านนำทีมชาวบ้านมาช่วยประมาณ 10 กว่าคนหาคนก็เลยวางแผนให้ทุกคนใกล้ๆตัวล้อมรอบบริเวณที่ไฟไหม้ป่าและช่วยกันทำแนวกันไฟบางคนมีไม้กวาดทางมะพร้าวบางคนมีไม้ตีฝ่ายที่ทำจากลำไม้ไผ่ลงด้านกว่าจะประสานแบบแบนๆเผื่อไว้ตีไฟให้ดับ บางคนไม่มีอุปกรณ์ดับไฟก็ใช้ไม้เท่าที่หาได้ช่วยกันเคลียร์ใบไม้แห้งหรือตีไฟให้ดับ นายเชื่อซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านบอกให้อาคมทราบว่าทางด้านทิศตะวันออกเป็นลำห้วยมีสายน้ำตลอดทั้งปี อาคมจึงวางแผนให้ทุกคนทำแนวกันไฟทางด้านทิศเหนือทิศใต้ทิศตะวันตกและช่วยการใช้ไม้ตีไฟให้ดับพร้อมทั้งนำถังบรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ฉีดพรเพื่อช่วยให้ไฟดับเร็วขึ้น แล้วทุกคนก็ตีวงล้อมบังคับไฟให้ไม่ไปทางทิศตะวันออกจะได้ช่วยกันเอาน้ำในลำห้วยดับไฟเป็นการวางแผนที่ยากหยดและได้ผลเกินคาด ไม่ถึง 2 ชั่วโมงไฟก็ดับลงแต่ก็มีบางแห่งที่ยังมีไฟคุกรุ่นอยู่ซึ่งไฟอาจจะลุกลามขึ้นอีกครั้งก็ได้ บังเอิญในตอนนั้นก็มีลมพัดกรรโชกมาอย่างแรงเกิดท้องฟ้ามืดครึ้มพร้อมกับเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า สักพักฝนก็ตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาทุกคนโง่โง่ที่มีน้ำมาช่วยดับไฟคราวนี้ไฟป่าคอมดับสนิทแน่แล้ว ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 18:00 นผู้ใหญ่เชื้อจึงพาชาวบ้านเดินทางกลับหมู่บ้านของตนอาคมจึงบอกให้นายหมีและเพื่อนร่วมงานเก็บข้าวของแล้วรีบเดินทางกลับเช่นกัน ไม่มีขับรถออกจากยอดเขาจุด 357 อย่างทุลักทุเลเพราะฝนตกถนนลื่นล้มพัดแรงจนกิ่งไม้และต้นไม้หักโค่นลงมา บางครั้งเจ้าหน้าที่ กว่าจะออกจากป่ามาเจอถนนใหญ่ก็เป็นเวลาเกือบ 1 ชมแล้วแต่ฝนก็ยังไม่หยุดตกไม่มีขับรถจีบฟ้าใสคนมาได้ประมาณ 1 กิโลเมตรก็เจอศาลาพักริมทางแสงไฟของรถจิบสาดส่องเข้าไปยังศาลานั้นเมื่อคมเพ่งมองไปในความมือก็มองเห็นเงาของคนต่างคนต่างอยู่ในศาลาพักริมทางฉันก็แค่ไหนมีจอดรถเพื่อสอบถามเพื่อคนเหล่านั้นต้องการความช่วยเหลือ เพราะจอดรถอาคมก็ตะโกนถามคนที่อยู่ในศาลาพักริมทางแต่เสียงฝนตกหนักจนกลบเสียงตะโกนทำให้คุยกันไม่รู้เรื่องอาคมจึงตัดสินใจชวนเพื่อนอีก 2 คนลงไปถามกลุ่มคนที่อยู่ในศาลานั้น พระร่วงไปที่ศาลาก็พบกลุ่มเด็กผู้ชายประมาณ 6-7 คนส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นแต่ก็มีคนหนึ่งดวงโสกว่าเพื่อนแต่งตัวทะมัดทะแมงสวมกางเกงยีนส์เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน อายุประมาณ 30 กว่าๆ อาคมเข้าไปสอบถามก็ได้ความว่าคนเรานั้นเป็นนักศึกษาของสถาบันแห่งหนึ่งมาทำกิจกรรมนักสืบสายน้ำคือมาสำรวจสิ่งมีชีวิตในลำห้วยแห่งนี้และเก็บข้อมูลบันทึกถึงความอุดมสมบูรณ์ของลำน้ำ โดยทั้งหมดมาด้วยกันเกือบ 30 คนมีรถบัสของสถาบันมาส่งและมีการแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 6 7 คนแต่ละกลุ่มก็มีอาจารย์ควบคุม 1 ถ่าน หลังจากทำกิจกรรมเสร็จแล้วทุกกลุ่มได้นัดหมายให้รถบัสมารับที่ศาลาริมทางแห่งนี้ในเวลาประมาณ 18:00 นเนื่องจากกลุ่มของตนได้เดินศึกษาไปตามลำห้วยจนเพลินแล้วก็เกิดพายุใหญ่ มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกอย่างหนักกลุ่มของพวกตนก็พากันไปหลบฝนอยู่ในถ้ำเล็กๆใกล้ๆแต่ฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเสียทีอาจารย์ในกลุ่มจึงคิดว่าเดี๋ยวจะมืดค่ำจนพลาดกับรถที่จะมารับทั้งหมดจึงพากันเดินออกมาแล้วไปรอตามจุดที่นัดใหม่แต่กว่าจะมาถึงที่พักศาลาริมทางนี้ก็เลยเวลานัดไปแล้วจึงนั่งคอยรถบัสและคิดว่ารถบัสคงจะย้อนกลับมารับในภายหลัง เมื่อคอมรับฟังก็เข้าใจตามนั้นว่ารถบัสของสถาบันคงจะกลับมารับนักศึกษาพวกนี้จึงเบาใจเราจะชวนกลุ่มคนเหล่านี้ขึ้นรถมาด้วยรถจิบคงรับไม่ไหวจึงได้พูดไปว่า ถ้าผมเจอรถบัสของสถาบันจะช่วยบอกว่าพวกคุณรออยู่ที่นี่นะครับ ด้วยความสงสารกลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้หาคนจริงพูดให้ความหวังเวลา ถ้าไม่มีรถบัสมารับอีกประมาณ 1 ชั่วโมงผมจะขับรถมาดูอีกที และจะมารับพวกคุณกลับมา อาจารย์กับนักศึกษาต่างขอบคุณในความมีน้ำใจของอาคมต่อจากนั้นอาคมกับเพื่อนก็กลับไปขึ้นรถจีบเราบอกให้นายออกรถคือกลับไปที่สำนักงานโชคดีที่ตอนนั้นฝนเริ่มหยุดตกบ้างแล้วแต่ถนนก็ยังมีน้ำเจิ่งนองเป็นแห่งๆไม่มีต้องขับรถอย่างระมัดระวังมา เพราะขับมาได้ประมาณ 2 กิโลเมตรได้มีก็เห็นรถตำรวจทางหลวงเปิดไฟสว่างแว๊บๆมีรถพยาบาลและรถหน่วยกู้ภัยจอดเรียงรายอยู่ริมถนนด้านหน้าได้มีจึงบอกอาคมว่าสงสัยจะมีอุบัติเหตุอยู่ข้างหน้าอาคมจริงบอกให้นายมีจอดรถทดสอบถามตำรวจที่อยู่ข้างทางแล้วก็ได้ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่อาคมรับผิดชอบดูแลอยู่เขาจึงรู้ว่าเหว นี้ลึกมาถ้าตกลงไปคงไม่มีใครรอดชีวิต ไม่นานหน้าหน่วยกู้ภัยก็ช่วยกันลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมา อาคมนึกถึงและเป็นห่วงกลุ่มนักศึกษาและอาจารย์ที่รออยู่ที่ศาลาพักริมทางเพราะเขาคงกำลังรอรถบัสตีความหวังโดยที่ไม่รู้เลยว่ารถที่เขารอรวมทั้งเพื่อนๆของพวกเขาได้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งหมดขณะที่อาคมกำลังอ้าปากบอกให้ตำรวจทางหลวงไปรับนักศึกษาพวกนั้นกลับลงมาทันใดนั้นสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นว่าที่หน่วยกู้ภัยกำลังแบกขึ้นมา คนนั้นเป็นร่างชายสวมเสื้อสีน้ำเงินกางเกงยีนใบหน้าเต็มไปด้วยเรืออาคมจำได้ว่าร่างนั้นมีลักษณะคล้ายกับอาจารย์ที่นำนักศึกษามานั่งคอยรถบัสอยู่ที่ศาลาพักริมทางซึ่งได้พูดคุยกันก่อนหน้านั้น แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไรออกมาเพื่อนๆของเราก็สะกิดกันให้ดูศพที่หน่วยกู้ภัยกำลังลำเลียงขึ้นมา เรื่องเหล่านั้นคือเด็กกลุ่มนักศึกษาที่นั่งอยู่ที่พักริมทางทุกคนมีท่าทีงง จับต้นชนปลายไม่ถูกรถบัสขนาดไปรับกลุ่มนักศึกษาและวิ่งแซงหน้ารถจี๊ปของตนตอนไหน เมื่อคิดดูแล้วที่ตำรวจบอกว่าอุบัติเหตุเกิดเมื่อประมาณ 18:00 นเตอร์ตอนที่พบเด็กนักศึกษากลุ่มนั้นเป็นเวลาประมาณ 1 ทุ่มแล้วนี่หมามีอาการขนลุกฉากตัวสั่นไปทั้งตัวเขารีบชวนพวกเพื่อนๆกลับในทันที หลังจากที่อาคมกลับมาถึงบ้านก็เข้าไปอาบน้ำแล้วเข้านอน ด้วยความอ่อนเพลียเขาจึงหลับไป เขานอนหลับไปนานเท่าไรก็ไม่รู้อยู่ๆก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่าและมีเสียงคนเรียกอยู่ที่หน้าบ้าน ผมรีบลงไปจากบ้านตามเสียงเรียกเขาเรียกว่าผู้ชายคนหนึ่งแต่มองไม่ถนัดน่ะที่จำได้ก็เครื่องแต่งกายมันดูคุณตามา แล้วอาคมก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นร่างของอาจารย์คนนั้น ในขณะที่อาคมยืนตะลึงกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าชายคนนั้นก็พูดด้วยสีหน้าที่ดูดด่านเขาพูดกับอาคมว่าไม่รักษาสัญญา ไหนว่าจะมารับพวกเรากลับบ้าน พวกเรารอทั้งคืนก็ไม่มา พวกเรากลับบ้านไม่ได้ ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรท่านก็รู้สึกว่ามีมือเย็นๆมาเขย่าแขนของเขาและก็เรียกว่าพี่ๆเป็นอะไรหรือป้าว ทำไมนอนขวางทางเดิน อาคมสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้นมาก็พบภรรยาของเขากำลังเขย่าตัวเขาให้ตื่นเมื่อตั้งสติได้จึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ภรรยาฟังวันโรงคืนภรรยาก็ได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้พ่อของตนฟังอีก เพราะตาของอาคมบอกว่าดวงวิญญาณตายโหงกลุ่มดันอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองตายจึงได้ปรากฏตัวให้เห็นและวิญญาณได้มาทวงสัญญาที่อาคมได้ให้ไวว่าจะพาพวกเขากลับมา เพราะตาจึงนำเสนอวิธีให้อาคมนิมนต์พระสงฆ์ไปทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณเหล่านั้นไปสู่แดนสวรรค์เพื่อไม่ให้ดวงวิญญาณกลายเป็นผีเฝ้าถนนหรือกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนไม่มีที่อยู่

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...