วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เกาะหลอนที่ภูเก็ต!!


      เรื่องนี้เป็นเรื่องจากพี่สาวของเราเอง ตอนไปเที่ยวสงกรานต์ในปีที่ผ่านมาซึ่งเหตุเกิดที่จังหวัดภูเก็ต เป็นที่ทราบกันดีว่าจังหวัดภูเก็ตเคยเป็นสถานที่ที่น่าสลดใจจากเหตุการณ์สึนามิและมีเรื่องเล่าอีกเยอะมาเริ่มกันที่เย็นวันนั้นพี่สาวของเรานามสมมุติว่าพี่ก้อยเดินทางกลับจากหาดหาด 1 กับแฟนหนุ่มชาวต่างชาตินามสมมุติว่าไม่เคยไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งแต่ว่าวันนั้นรถติดมากจึงทำให้เดินทางไปถึงโรงแรมล่าช้ากว่าจะถึงก็ประมาณ 3 ทุ่มแล้วอีกกอยและคุณ Michael ที่วางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวกลับของโรงแรมต่อสถานที่แถวนั้นเป็นภูเขาติดกับทะเลด้านบนถึงมีแต่ป้ายที่พักเป็นช่วงช่วงตามถนนพื้นที่ป่าถูกทางออกสร้างเป็นที่พัก ทางโรงแรมต้องการที่จะซื้อพื้นที่เพื่อสร้าง Club แต่ซื้อไม่ได้เลยต้องตัดสินใจไปสร้างทางจากโรงแรมประมาณ 5 กิโลเมตรที่โรงแรมจะมีบริการรถชัตเตอร์บัสไปรับส่งรอบสุดท้ายจะหมดช่วง 4 ทุ่มตอนนั้นก็ 3 ทุ่มกว่าๆแล้วถ้าชัตเตอร์บัสคงไปได้แค่นี้เองก็เลยตัดสินใจเอาไว้ มันมีความคิดที่ไม่น่าเกิดขึ้นมาในว่าแม่งโคตรมืดเลยแม่งจะมีผีป่าววะ ขับไปสักพักมันจะเป็นทางขึ้นชั้นๆหน่อยขึ้นไปได้ก็ต้องหักเลี้ยวเลย ขณะที่ขับขึ้นไปอยู่นั้นก็มีแต่ไฟหน้ารถที่ส่องถนนอยู่แล้วไฟนั้นก็สาดส่องกระทบกับผู้ชายคนหนึ่งใส่กางเกงสามส่วนเสื้อลายรูปร่างควรยืนอยู่ข้างทางที่มืดมากเพราะไฟหน้ารถเริ่มใช้สูงขึ้นไปเรื่อยๆก็เห็นส่วนบนของชายคนนั้นที่ยืนอยู่ปรากฏว่าเขาไม่มีหัวตอนนั้นพี่ก้อยร่วมใจคอไม่ดีแล้วรถก็วิ่งเข้าไปใกล้ชายคนนั้นเลย แต่พอเข้าไปใกล้ยังจุดที่ชายคนนั้นยืนอยู่เขาก็หายไปแล้ว พี่ก้อยเริ่มชอบนี่ตาค้างพูดอะไรไม่ออกนึกในใจว่าโดนเข้าแล้วเจอแล้วแน่ๆแต่ตอนนั้นไม่พูดอะไรเขาไม่อยากให้ไมเคิลตกใจเพราะผ่านช่วงนั้นมาได้แค่แป๊บเดียวก็เห็นไซต์งานสร้างอยู่ทางขวามือเป็นตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จแล้วยังมีอุปกรณ์วางอยู่เกลื่อนกลาดอย่างนั่งร้านที่ตั้งอยู่หน้าตึก ตรงด้านหน้าก็จะเป็นป้อมยาม ป้อมยามนั้นผูกพันวัยผ้าใบสีฟ้าขาวลายทางที่ไว้ใช้รองพื้นเวลาทำก่อสร้างแล้วก็มีไฟห้อยอยู่ตรงกลางทำให้เห็นเป็นแสงสว่างออกมาจากปลอม แล้วไมเคิลก็รีบขับรถพุ่งไปทางนั้นก็เห็นมีเงาอยู่ข้างใน คิดว่ามีคนอยู่หวังว่าจะเข้าไปถามทาง พี่ก้อยตกใจหนักขึ้นกว่าทำอะไร Michael ไม่ตอบแต่ขับรถพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเปิดกระจกรถแล้วปากถาม พี่ก้อยรีบๆหาแฟนตัวเองแล้วบอกว่าคุณจะทำอะไรน่ะออกไปนะครับออกไปเดี๋ยวนี้ปิดกระจกพี่ก้อยโวยวายเสียงดังทำให้ใหม่เข้าโมโหแล้วหันมาถามว่าให้รอได้ของคุณผมกำลังจะเข้าไปถามทางคาราโอเกะๆมาทีนะไม่ค่อยดียามตั้งสติแต่ตอนนั้นสติแตกไปแล้วตอนนี้ไม่อยากไปขับแล้วอยากกลับที่พักแล้วทั้งสองคนนั้นก็ทะเลาะกันมาตลอด แต่โชคยังเข้าข้างพวกเขาขับไปเจอคลับของโรงแรมพอดี ที่นั่นกว้างมากเป็นสถานที่ที่ไว้สำหรับสายปาร์ตี้โดยเฉพาะทางค่ะบาร์คู่ปาร์ตี้สำหรับชาวต่างชาติ ออกจากรถ คนอาจจะไม่เชื่อเรื่องผีนะแต่ฉันเชื่อคำพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องผีเป็นอันขาด เพราะเหตุการณ์ไม่กี่คำว่าพี่ก้อยชอบมาแล้วทั้งสองคนก็เดินขึ้นไปชั้นบน มีเสียงเพลงดังๆเหมือนขับโดยทั่วไปพอเดินไปถึงก็ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่เลยมีฝรั่งนั่งดื่มกันอยู่ 2 คนแต่ไหนๆก็มาถึงแล้วพี่ก้อยจึงตัดสินใจว่าช่างมันลืมให้สนุกก็พอแต่ยังไม่ทันไรคนใหม่เขาก็แทรกขึ้นมาว่าคุณรู้ไหมว่าพี่เขาอิสลามไมเคิลยังไม่ทันพูดจบก็ปรี๊ดแตกทันทีแล้วเดินขึ้นไปนั่งหน้าระเบียงด้านนอกซึ่งด้านนอกจะเป็นสระว่ายน้ำกับเตียงนอนอาบแดดเวียนกันข้างซ้ายหันหน้าไปทางทะเล คนใหม่เธอก็เดินตามพี่ก้อยแล้วมาทะเลาะกันต่อ ตอนนั้นพี่ก้อยลืมเรื่องนี้ไปแล้วเอาใจจดจ่ออยู่กับการทะเลาะตรงหน้าไม่สนละปีขอให้ได้ทะเลาะไอ้นี่ก่อน ระหว่างที่กำลังชะลออยู่นั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พี่ก้อยมองออกไปในทะเลแล้วพี่ก้อยก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งใส่กางเกงสามส่วนเสื้อลายดอกตัดผมรองทรงยืนอยู่หลังเสาข้างล่างแล้วเขาก็ขยับไปซ้ายทีขวาที เสื้อที่ผู้ชายคนนั้นใส่ก็สะบัดไปสะบัดมาอ้อมกับลมทะเลด้วย ตอนนั้นดีกว่าไม่คิดอะไรก็คิดว่าคงจะเป็นคนทั่วไป แล้วคนคนนั้นก็เริ่มเดินออกมาจากเสาเขาเดินเดินเดินเดินไปที่ทะเลก่อนที่จะหายไปในท้องทะเล เมื่อกี้ก็เห็นก็รู้ว่าโดนอีกแล้วไม่อยู่แล้วพี่ก้อยรีบลุกออกไปจากตรงนั้นตาม Michael ก็จับแล้วดึงแขนไว้คุณจะไปไหนกลับมานั่งเลยนะนั่งคิดว่าทำอะไรจะได้มีแบบนี้ล่ะ ที่ใกล้รู้สึกแย่มากคิดในใจว่านี่กูจะมาเที่ยวแท้ๆต้องมาทะเลาะกับแฟนแล้วยังจะต้องมาเจออีกล่ะ พี่ก้อยจำใจนั่งลงแล้วไมเคิลก็พูดว่า OK OK งั้นก็คงจะไม่ทราบว่าผมจะปกป้องคุณจาก แล้วเขาก็ดึงพี่ก้อยเข้ามากอดพี่ก้อยนึกในใจว่า มึงจะมาปกป้องอะไรกูได้กูเจอผีมา 3 รอบแล้วเนี่ยข้างนอกก็เมื่อกี้ก็ ราวปีก่อนก็พูดขึ้นมาว่าฉันไม่อยากอยู่แล้วกลับไปเถอะนะ ตอนนั้นก็นึกว่าจะมีฝรั่งนั่งอยู่ 2 คนที่ก้อยก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันทีเพราะว่าเห็นคน ตอนนั้นนึกถึงคุณแม่อย่างเดียวอยากโทรหาแม่ที่โรงแรมมาก ขากลับพี่ก้อยก็บอกไปเกินว่าโอเคเดี๋ยวตอนกลับฉันจะหลับตานะไม่อยากเห็นอะไรอีกแล้วเพราะไปถึงคนก็มองไปที่ป้อมยามว่าเห็นอะไรหรือเปล่าแล้วก็ไม่ต้องพูดอะไรนะค่อยบอกตอนถึงที่โรงแรมก็แล้วกัน เพราะถึงโรงแรมที่ก้อยถามว่าเจออะไรไหม Michael บอกว่าไม่เห็นใครแล้วแต่ประตูมันเปิดอยู่ ไม่รอช้าที่ก้อยรีบเดินดุ่มๆไปเคาะห้องแม่ทันทีเล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง แม่ได้รับฟังแต่ไม่พูดอะไรตอนนั้นแม่ไม่รู้เรื่องอะไรหรอกเพราะแม่ง่วงมากหลับไปแล้ว เพราะเช้ามาไม่เคยให้แม่พาไปส่งที่ 5 ค่ะเพราะอยากเล่นน้ำทะเลพี่ก้อยบอกแม่ว่าแม่อย่าลืมดูนะตรงป้อมยามนะ แล้ววันเดียวกันนั้นเองหลังจากที่แม่กลับมาแล้วแม่ก็กลับมาบอกกับก้อยว่า มันมีอยู่จริงๆและประตูเปิดไม่ได้นะมันล็อคอย่างแน่นหนา

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...