วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

แขกไม่ได้รับเชิญ​ในวีดีโอ​คอล !!


         เกิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้วเป็นเรื่องปกติที่เวลากลางคืนผมกับแฟนมักจะ Video Call คุยกัน ซึ่งผมก็อยู่บ้านของผมนั่นแหละส่วนตัวแฟนจะอยู่ที่วิทยาลัยซึ่งเป็นวิธีอะไรประจำทำให้ต้องนอนหอพักที่นั่นทุกคืนห้องนอนกับแฟนเขาจะนอนกัน 4 คนเมื่อเธอไม่ไปอยู่หอแล้วได้เจอเรื่องราวอะไรแปลกๆเธอก็มักจะนำเรื่องราวหลอนๆของพี่นางมาเล่าให้ผมฟังอยู่เสมอเช่นในคืนหนึ่งเพื่อนของเธอหลังจากอาบน้ำเสร็จก็เดินกลับมาเพื่อที่จะเข้าห้องนอนเพื่อนๆทุกคนในห้องก็ปิดไฟนอนกันหมดแล้วในจังหวัดที่เธอเปิดประตูเข้ามานั้นก็เห็นเป็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งยืนหันหลังให้ ขณะที่เธอกำลังสงสัยอยู่ว่าคนคนนั้นเป็นใครเป็นเพื่อนของเธอหรือเปล่าผู้หญิงคนนั้นก็เดินทะลุหน้าต่างออกไป หรือบางคนก็เห็นเป็นหน้าผู้หญิงโทรมาจากหน้าต่างของห้องนอนแล้วก็ยิ้มให้ซึ่งผมก็รับฟังแต่ก็ไม่คิดอะไรจนมีอยู่วันหนึ่งผมก็ Video Call คุยกับแฟนปกติตอนนั้นน่าจะประมาณ 5 ทุ่มแล้วแฟนผมก็กำลังนั่งทำงานบนโต๊ะทำงานโดยด้านหลังเป็นตู้เสื้อผ้าฝั่งซ้ายและฝั่งขวาก็เป็นเตียงนอนตามปกติคืนนั้นห้องนอนของเธอก็ปิดไฟกันแล้วก็เปิดโคมไฟสีส้มไว้ 1 เอาแฟนผมกำลังนั่งทำงานอยู่แสงไฟสีส้มสาดส่องทำให้ห้องไม่มืดมากนักซึ่งยังพอทำให้เห็นตู้เสื้อผ้ากับเตียงนอนอยู่ระหว่างที่ผมกำลังคุยกันกับแฟนอยู่นะ ผมเคยเห็นเงาคนๆเดินผ่านตู้เสื้อผ้าด้านหลังแฟนผมไปผมเห็นมันแชทมาเนื่องจากโคมไฟสีส้มของแฟนผมมันส่องสว่างไปถึงตู้เสื้อผ้าด้านหลังของเธอซึ่งโดยปกติแล้วผมก็คงไม่คิดอะไรเอามาอาจจะเป็นเพื่อนของเธอเดินผ่านไปก็ได้แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมกลับมาให้ความสนใจกับเรื่องเหล่านี้ ผมเลยเอ่ยปากถามเธอไปว่าเธอเธอใครเดินผ่าน แฟนผมก็หันไปดูแล้วทำหน้างงๆจากนั้นเธอก็หันมาบอกกับผมว่าไม่มีใครเดินทุกคนนอนบนเตียงกันหมดแล้วผมก็เลยบอกเธอว่าเฮ้ยไม่ใช่แล้วมันต้องมีคนเดินผ่านศิวะเงาชัดขนาดนั้นผมก็เลยให้แฟนผมหันไปถามเพื่อนทุกคนเลยว่าใครลุกเดินผ่านปีใหม่ตอนแรกแฟนผมก็ไม่ยอมถามให้คิดว่าผมพูดอะไรก็ได้แต่ผมก็เซ้าซี้เธอจนเธอยอมหันไปถามเพื่อนให้หมดทุกคนแล้วก็ได้รู้ว่าไม่มีใครเดินผ่านทุกคนนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงกันหมดตอนนั้นผมเริ่มใจไม่สู้ดีแล้วแต่ก็ยังไม่ได้กลัวอะไรเขาคิดถึงกับว่าใครเดินผ่าน เท่านั้นแล้วผมก็ปล่อยมันผ่านไปไม่อยากจะพูดอะไรมากเดี๋ยวแฟนผมจะกลัวจากนั้นเราก็คุยกันต่อเพราะคุยไปได้สักพักผมก็ได้ยินเสียงใครสักคนหัวเราะขึ้นมามันเป็นเสียงหัวเราะเบาๆแห่งผมก็เลยบอกกับแฟนผมว่าเฮ้ยทำอะไรกันกินน้ำหน่อยไหมแห้งเชียว แฟนผมก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมแล้วก็พูดว่าใครทำอะไรไม่มีไม่มีใครทำอะไรเลยก็เลยคิดในใจเอาแล้วไงปกติผมก็เป็นคนกลัวเรื่องพวกนี้อยู่แล้วแต่ก็ยังไม่เคยได้เจออะไรผมเงียบไปสักพักแล้วก็ตอบแฟนผมเลยว่าไม่มีอะไรสงสัยทีวีที่บ้านมั้ง เปิดทีวีไว้อยู่แต่ความจริงแล้วผมเปิดที่มีอยู่ก็จริงแต่แทบไม่ได้เปิดเสียงเลยมันเบามากไม่ได้ชัดเจนเหมือนที่ผมได้ยินเมื่อกี้แล้วผมก็หันไปมองในทีวีมันเป็นช่องกีฬาฟุตบอลจึงมั่นใจได้ว่าไม่มีใครขำอะไรในทีวีแน่นอนจนเวลาผ่านไปเกือบจะเที่ยงคืนแล้วเน็ตไวไฟของแฟนผมที่ใช้ในวิทยาลัยมันก็เริ่มกระตุกและช้าลงซึ่งมาเป็นเวลานี้เกือบทุกวัน เวลาเด็กที่ไรเน็ตชอบชาแล้วก็ค้างอยู่บ่อยๆ เพราะมันเริ่มจะคางผมก็บอกกับแฟนว่าให้เปิดเป็นเน็ตโทรศัพท์เอาจะดีกว่า ซึ่งตอนนั้นแฟนผมก้มหน้าทำงานอยู่เพราะเธอได้ยินที่ผมบอกเขาก็เงยหน้าขึ้นมาเพื่อจะมาปิดไวไฟในโทรศัพท์ที่แฟนผมกำลังเงยหน้าขึ้นมาอยู่นั้นผมก็เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ใช่แฟนผมอย่างแน่นอนใบหน้าของเธอคนนั้นเละมากผมยาวฟูและตาโตมากๆ เธอกำลังจ้องมองมาที่ผมแล้วก็อ้าปากเหมือนกับกำลังจะยิ้มให้ขณะที่ผมเล่าอยู่ดีผมบอกเลยว่าขนลุกมากๆเพราะผมก็ต้องนึกภาพตามด้วยเหมือนกันว่าผมเห็นดังนั้นผมก็ร้องตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจผมบอกเลยว่าผมร้องเคยดังมาทั้งแฟนผมกลับไม่ได้ยินเขาวีดีโอคอลมันดันมาค้างพอดีมันค้างค่าเน็ตช้าหรือยังไงก็ไม่รู้แล้วมันก็ยังมาค้างที่หน้าผู้หญิงคนนั้นด้วย ผมเลยตัดสินใจแคปรูปหน้าจอที่เป็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นเอาไว้คิดว่าจะเอาให้แฟนผมดูในตอนเช้าซึ่งถ้าให้ดูตอนนี้เธอคงจะกลัวจนนอนไม่หลับเป็นหน้าหลังจากที่ผมแคปหน้าจอไว้เรียบร้อย สักพักสายที่วีดีโอคอลค้างไว้ก็ตัดไปเพราะแฟนผมปิดวายฟายระหว่างไปเพื่อจะโทรมาใหม่ระหว่างนั้นผมพยายามตั้งสติต้องกลัวว่าสิ่งที่เธอกลับมาจะไม่ใช่แฟนผมแล้วก็กลัวว่าจะเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นอีก สักพักเสียงโทรศัพท์ของๆก็ดังขึ้นผมนิ่งอยู่พักนึงแล้วก็ตัดสินใจกดรับสายเมื่อภาพจากมือถือปรากฏขึ้นมามันก็เป็นใบหน้าของเธอแฟนผมนั่นเอง ตอนนั้นผมโล่งอกเอามากๆซึ่งผมก็ตัดสินใจที่จะไม่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้แฟนผมฟังกะว่าจะมาเล่าให้ฟังในตอนเช้าดีกว่า รูปนั้นก็ถูกครับเก็บไว้ในเครื่องเรียบร้อยแล้วพวกเราคุยกันต่อผมก็เนียนคุยเรื่องอื่นไปเรื่อยๆ อ้ายจนถึงเวลาที่แฟนผมจะเข้านอนแล้วผมกับเธอก็วางสายเข้านอนกันตามปกติเรื่องมันควรจะจบแบบที่ว่าผมนอนหลอนอยู่บนเตียงแล้วเอารูปให้แฟนดูในตอนเช้าแต่มันไม่ใช่มันไม่ได้จบแบบนั้นเพราะเราถึงตอนนี้ผมก็บอกได้เลยว่าภาพนั้นมันยังติดตาผมอยู่เลยผมกลัวมากจริงๆ ๆหลังจากที่ผมนอนหลับไปผมก็ฝันว่าเห็นใบหน้านี้แหละเธอเข้ามาในฝันไว้นานๆของเธอจ้องมองมาที่ผมความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนกับผมกำลังเอาหน้าจ้องที่จอทีวีอยู่แล้วภาพในทีวีนั้นก็เป็นใบหน้าของเธอมันน่ากลัวมาก ในฝันนั้นเธอได้พูดกับผมซึ่งผมจับใจความได้ว่าเธอบอกให้ผมลบรูปที่แคปไว้ห้ามเอาให้ใครดูเด็ดขาด หลังจากที่เธอพูดสักพักผมก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนนั้นก็เกือบจะเช้าแล้วผมก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าคงจะหลอนไปอีกแล้วก็เก็บเอามาฝันถึงอย่างนั้นตัวผมก็ยังขนลุกกับความฝันนั้นอยู่ เมื่อเห็นว่ายังไม่เช้าดีผมก็ล้มตัวลงนอนต่อ แล้วความฝันเดิมนั้นก็กลับมาอีกมันเหมือนเดิมทุกอย่างเหมือนเดิมเป๊ะทั้งใบหน้าและเศียรครู จนผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งผมรู้สึกได้ว่าเหงือกผมแตกท่วมตัวไปหมด ซึ่งตอนนั้นน่าจะประมาณ 9 โมงแล้วหัวผมไม่รู้คิดอะไรอยู่ในขณะที่นอนอยู่นั้นผมรีบหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอแล้วเข้าไปที่ลูกที่ผมครับไวผมกลัวมากไม่กล้าที่จะมองรูปนั้นอีก จึงต้องทำตาเหล่ๆเพื่อไม่ให้เห็นใบหน้านั้นแล้วผมก็รีบกดล็อคแล้วตามเข้าไปลบในถังขยะอีกลบหมดเลยแล้วผมก็ลุกขึ้นมานั่งขนลุกไปทั้งตัวเมื่อก็ยังแตกท่วมไปหมดวันเดียวกันนั้นเองตอนเที่ยงผมก็โทรไปเล่าเรื่องทั้งหมดนี้แฟนผมฟังพร้อมทั้งบอกว่าตอนแรกก็แคปหน้าจอไว้แต่พอฝันกลัวว่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวผมก็เลยรีบลบออกไปเมื่อแฟนผมได้ยินก็ตกใจแล้วก็บอกว่าเป็นค่าเน็ตช้าหรือเปล่าไปหน้ามันเลยดูแตกเหมือนผี เธอบอกให้ผมอย่าคิดมากแต่ผมก็คิดในใจว่ายังไงก็ไม่ใช่มันไม่ใช่หน้าแฟนผมแน่ๆมันชัดเจนมากแถมเงาที่ได้เห็นและเสียงที่ได้ยินมันก็ประจวบเหมาะกันพอดีมันชัดเจนชัดเจนเกินไป กลางดึกของคืนนั้นผมกับแฟนก็วีดีโอคอลกันอีกแต่ผมจะบอกกับแฟนว่าให้ได้อยู่มุมแคบเลยอย่าให้มีพื้นที่ข้างหลังให้ผมเห็นอีกเธอก็เลยไปนอนบนเตียงซึ่งมีพื้นหลังเป็นกำแพงและผมก็บอกให้เธอไม่ต้องเปิด WiFi แล้วด้วยใช้เน็ตมือถือพอถ้าเน็ตหมดก็ช่างมาไม่อยากเจออะไรแบบเมื่อคืนอีกแล้ว

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...