วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

จับรถขึ้นเหนือ !!


       สวัสดีครับผมจะมาเล่าเรื่องแปลกๆที่ผมประสบพบเจอมาเมื่อ 7 ปีที่แล้วโดยปกติผมจะวิ่งขึ้นทางเหนือ 2 ครั้งต่อปีเนื่องจากญาติผู้ใหญ่ได้ย้ายไปตั้งรกรากปักฐานที่นั่นและครอบครัวของผมก็มีบ้างที่นั่นด้วยซื้อไว้เวลาขึ้นไปเที่ยวทีแรกก็กะจะซื้อให้พ่อมาอยู่ช่วงอายุเยอะๆผมทำงานประจำหยุดเฉพาะเสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการเวลาขึ้นจะขึ้นไปช่วงวันหยุดยาวหรือไม่ก็ช่วงเทศกาลถ้าคนที่ขึ้นเหนือไปบ่อยน่าจะทราบดีว่าเส้นทางหลักที่ยังขึ้นเป็นสายเอเชียอยุธยาอ่างทองสิงห์บุรีไปเรื่อยจนถึงนครสวรรค์ที่จะมีอีกสายนึงที่ใช้สำหรับเลี่ยงช่วงเทศกาลรถติดนั่นคือเส้นสุพรรณชัยนาทแล้วไปตัดสายเอเชียที่อำเภอมโนรมย์พ่อผมเวลาที่ขึ้นทางเหนือสอนว่า ให้ออกกลางคืนประมาณเที่ยงคืน 01:00 นเพราะว่าสมัยก่อนยังไม่มีกล้องจับความเร็วตำรวจทางหลวงจะใช้รถทางหลวงจอดแอบถ่ายรูปเค้กผลหนึ่งคือทำเวลาได้เนื่องจากรถน้อยมากแทบไม่มีรถเลยเมื่อปี 2553 ช่วงปลายๆปีผมมีโอกาสขึ้นไปที่ภาคเหนือปกติจะไปกัน 4-6 คนพี่ๆน้องๆจะไปด้วยกันคันเดียวกันรถพี่ชายจะเป็นรถครอบครัวแต่ครั้งนั้นเขาติดงานถึงต้องแยกกันเป็น 2 คันโดยผมบอกว่าขอไปก่อนใช้จริงๆจะไปเที่ยวแม่กำปองเวลางานก่อนวันนึงไม่งั้นคนที่จะเยอะมากๆนะจ๊ะน้องชายไปด้วยเนื่องจากปิดเทอมเลยชวนไปเที่ยวด้วยกันพอถึงวันนั้นก็จัดเตรียมกระเป๋าแล้วนอนเอาแรงขึ้นมาตอน 11:00 นเปิดฟังรายการวิทยุเกี่ยวกับการจราจรเห็นว่าเส้นสายเอเชียรถ ติดมากขนาดเป็นวันก่อนวันหยุดยาว 1 วันก็ยังติดอยู่เส้นสุพรรณโล่งเลยคิดว่าจะไปเส้นนี้ดีกว่าโลกขับสบายๆถึงเชียงใหม่ลำปางคงลา 8 โมงได้สบายๆนอนพักแป๊บนึงค่อยไปเที่ยวงานแม่กำปองต่อผมมากันสองคนแต่พอเข้าเส้นสุพรรณน้องชายผมหลับต้องบอกว่าน้องชายผมอายุ 17 ปียังขับรถไม่แข็งไม่มีใบขับขี่รถเริ่มน้อยลงว่าคันคันนึงประมาณ 2 300 เมตรเลยแต่ก็ไม่กลัวระแวงแต่พอเข้าจังหวัดชัยนาทสองข้างทางไปทุ่งนาไม่มีไฟทางเริ่มมีบรรยากาศความหลอดเข้ามาข้างหน้าจะเป็นไฟสีแดงๆรีบๆแบบไฟท้ายรถสิบล้อนานๆเราจะแซงคันนึงพอแซงแล้วถนนก็จะโล่งยาวๆพาหลอนมากผมปลุกน้องชายผมคือมานั่งเป็นเพื่อนเนื่องจากเปลี่ยวมาก คนกลัวน้ำผีพอตื่นมาน้องถามว่าถึงไหนแล้วทำไมมืดจังผมบอกว่าจะถึงชัยนาทแล้วเขาตกใจแล้วบอกว่าทำไมไม่มีรถเลยพี่หลงหรือเปล่าผมบอกว่าผมมาถูกทางแล้ววิ่งมาตามไปเรื่อยๆเนี่ยปกติเวลาช่วงเทศกาลจะมีป้ายแบบชั่วคราวเพราะเส้นทางขึ้นเหนือเส้นทางลัดทางเลี่ยงพื้นขาวตัวหนังสือแดงตลอดทางเพื่อให้ผู้ใช้ทางเลือกใช้ในกรณีรถติดช่วงที่กำลังเพ่งเส้นทางเพราะผมเปิดไฟสูงตลอดเนื่องจากมืดแล้วไม่มีรถสวนมาเลยนะน่าจะมีคันนึงค่อยปรับไฟลงจังหวะนั้นผมเห็นถนนที่ผมจะวิ่งไปมีสีแดงขึ้นๆเหมือนคนทำสี 6 หรือไม่ก็เลือกแบบแรงๆของใหญ่มากอยู่เต็มท้องถนนทั้ง 2 เลนตกใจมากน้องผมก็เห็นหลังจากที่ผมสะกิดให้ดูยาวประมาณ 20 เมตรเห็นจะได้ตอนนั้นกลัวรถไหลลื่นมากจมูกเริ่มดมกลิ่นเหงื่อได้เปลี่ยนของเหลวสิ่งนี้เข้ามาในรถ และกดว่ากลิ่นคาวแรงมากเนื่องจากรถผมมีพวกที่ดับกลิ่นเยอะกะชะลอรถเข้าข้างทางเพื่อดูว่ามีอะไรผิดมาหรือเปล่าแต่ถนนช่วงนั้นมืดมากเลยบอกกับน้องว่ารอให้ถึงโซนที่สว่างสว่างค่อยจอดดูเพราะขับมาประมาณ 1 กิโลก็จอดดูสองข้างทางไม่มีแม้แต่บ้านคนแต่เป็นสามแยกเล็กๆที่พ่อมีไฟทางให้จอดดูไม่น่ากลัวมากตามปกติเวลาเราขับผ่านพวกของเหลวเป็นน้ำหรือยังมะตอยมันต้องมีจุดขึ้นรถมาติดบังโคลนแต่นี้แปลกไม่มีรอยเลยมีแต่ฝุ่นติดแค่นั้นซึ่งผมไม่ได้ตาฝาดแน่ๆคิดในใจไม่ใช่แล้วโดนแน่ๆเลยกดโทรศัพท์ก็โทรถามพี่ชายเรื่องเส้นทางตอนกดสัญญาณที่โทรศัพท์ 2-3 คิดจะได้โทรออก กลับเงียบแบบทางเราไม่มีสัญญาณเลยตัดสินใจขับไปกันต่อแบบกูกลัวอินเสียขึ้นเรื่อยๆ ไม่เป็นไรในใจคิดว่าเอาของมาซ่อมถนนตอนนี้เนื่องจากพรุ่งนี้ที่มีรถใช้กันเยอะช่วงเทศกาลเจ้าหน้าที่คนนี้ดูแลแถวนี้กลับไปค่อยๆเริ่มเห็นว่าเขาตัวเปียกไปดูเลือดแน่นอนและศีรษะเหมือนจะผิดรูปและก็มีเลือดไหลลงมาตามตัวตอนนั้นไม่คิดว่าเป็นอุบัติเหตุแน่ๆคิดอย่างเดียวเลยว่าโดนหลอกแน่นอนท่องนะโมขับรถผ่านไปแบบเร็วๆถามน้องชายน้องชายก็บอกว่าเห็นการขับมาอีกระยะหนึ่งเกือบ 2 กิโลเห็นมอเตอร์ไซค์จอดนิ่งอยู่ถนนสภาพพังยับเยินเหมือนโดนลากไม่มีใครอยู่ใกล้เลยเพราะขนตรงนั้นได้ทางเริ่มมีอารมณ์คุยกับน้องว่าเห็นเหมือนกันใช่ไหมยังไม่ต้องเล่าเดี๋ยวถึงปั๊มใหญ่จอดพักตรงทางเข้านครสวรรค์ค่อยคุยกันครับมาอีกประมาณ 2 กิโลเห็นเหมือนคนคนเดิมยืนอยู่ฝั่งเดิมเพียงแต่รอบนี้ เขาหันหน้าย้อนกลับมาทางรถผมรอบนี้คือมีการเคลื่อนไหวเดินกะเพลกกะเพลกแต่ที่ทำให้ผมสติเกือบหลุดคือเขาเดินเอียงซ้ายแล้วแต่เข้ามาในถนนกินเล่นมาเกือบครึ่งเลวในใจคิดว่าชวนเลยไหมแต่ก็กลัวว่าชนแล้วเขาจะเข้ามาในรถก็เลยคิดว่าเดี๋ยวจะชะลอความเร็วแล้วแซงออกขวาไปเพราะเข้าไปใกล้ๆเขาก็หยุดกลางถนนทำท่าทำทางเหมือนวงรถผมเบี่ยงขวาเขาค่อยๆก้าวเดินมาแบบที่จะปิดทางรถไม่ให้ไปน้องผมร้องไห้แบบตกใจผมพ้นตัวเขาไปได้ขอเร่งความเร็วสุดขนลุกทั้งตัวน้องผมต้องนะโมดังมากตอนนั้นสติผมจะหลุดแล้วครับตรงอย่างเดียวไม่มองข้างทางและไม่มองกระจกมองหลังเลยครับเส้นนั้นมาได้เกือบๆ 10 นาทีก็หลุดมาเส้นเลียบคลองรถเริ่มเยอะมากขึ้นครับออกมาถึงสิ้นสายเอเชียก็แวะเข้าปั๊มก่อนเข้านครสวรรค์ปั๊มน้ำขนาดใหญ่มีรถจอดพัก มากมีมินิมาร์ทแต่ที่สำคัญมีพวกกู้ภัยต่อเพื่อสแตนบายเข้าระงับเหตุอยู่กลุ่มนี้ผมกับรีบลงจากรถไปที่คนเยอะๆตอนนั้นเริ่มหายกลัวลงมาบ้างแล้วก็หลุดจากความคิดความกลัวหรอกนั้นแล้วดื่มน้ำกาแฟขนมกับพักรถพักคนสัก 15 นาทีหรือเดินไปใกล้ๆพวกกู้ภัยพอดีเสื้อด้านหลังบางคนเห็นว่าชัยนาทแล้วเป็นรหัสผมเดาว่าเขาคงเป็นหน่วยจากชัยนาทมาดูแลน่าจะทราบข้อมูลบ้างเลยไปถามว่ามาจากไหนอะไรยังไงเรียบร้อยดีไหมครับเขาก็แบ่งเขาโอเคเขาถามว่ามาจากไหนกรุงเทพฯหรือเปล่าแล้วปลายทางไปที่ไหนผมก็ต้องไปแบบที่นี้ผมเลยถามตรงๆว่าพี่ครับเส้นอำเภอนี้มีอะไรหรือเปล่าทำไมไม่มีรถวิ่งเลยเขาตอบมาผมอื่นเลยเส้นนั้นรถพ่วงรถสิบล้อเอาไว้เลี่ยงทางชั่งน้ำหนัก ทำไมจำเป็นจริงเขาก็ไม่เข้าไปนะมันเปลี่ยวมืดน่ากลัวยิ่งรถบัสรถบ้านไม่มีใครเข้าไปหรอกครับเขาถามกลับมาว่าอย่าบอกนะว่าเพิ่งออกมาแล้วเขาก็ยิ้มผมเลยบอกว่าใช่ครับเจอมาแล้วด้วยแล้วผมก็เล่าให้เขาฟังเรื่องราวทั้งหมดเขาเลยบอกว่าแบบนี้เจอกันบ่อยน่าจะเป็นพี่โดมแน่ๆแล้วเขาก็เล่าว่าพี่โดมคือคนทำพื้นเพเป็นคนนครสวรรค์แต่ทางการเรียนเจ้าหน้าที่ไปช่วยทำถนนเส้นนั้นมีวันนึงอ่ะ 18:00 ขับรถกำลังจะกลับบ้านรถพ่วงไม่เห็นพี่เขาเลยชนแล้วลากยาวเสียชีวิตคาที่มอเตอร์ไซค์ของเขาเรื่องนี้ประมาณปีกว่าๆแล้วเขาเลยแนะนำว่าพรุ่งนี้เช้า 7 โมงกว่าแต่สะดวกก็จอดใส่บาตรให้พี่เขาหน่อยแล้วกันเหมือนพี่เขามาขอส่วนบุญผมเลยขอบคุณและเล่าให้น้องฟังก็ 7 โมงกว่าๆผมถึงจังหวัดตาก บาตรทำบุญแล้วอุทิศให้พี่เขาก็ถึงบ้านที่เหลือก็นอนหลับกะว่าจะนอนตั้ง 2 ชั่วโมงค่อยออกไปเที่ยวต่อช่วงที่หลับฝันเห็นผู้ชายใส่ชุดทำทาผิวคล้ำตัวใหญ่จะดูใจดียิ้มให้และยกมือไหว้ขอบคุณผมในฝันเขาไม่ได้แล้วเขาก็หายไปผมตื่นเล่าให้น้องฟังและถามน้องว่าไม่นอนฝันไหมแต่ไม่มีฝันเห็นครับเรื่องราวผมก็จบลงเพียงเท่านี้

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...