วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
ตำนานผีจ้างหนัง ที่ป่าคำชะโนด !!
คำชะโนดคือป่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรื่องลี้ลับเรื่องอาหารและมันคือป่าที่มีตำนานที่ชาวไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและชาวลาวให้ความนับถือและเชื่อกันว่าเป็นที่ตั้งของเมืองใดขีดและวังพญานาคต้นตำนานแม่น้ำโขงเป็นป่าที่มีความน่าสนใจในแง่พฤกษศาสตร์ที่โลกต้องทึ่งกับต้นคําชะโนดที่มีอายุนับหลายร้อยปีและมีอยู่ที่เดียวนะป่าคำชะโนดป่าคําชะโนดตั้งอยู่บนพื้นที่ราว 20 ไร่นาตำบลวังทองอำเภอบ้านดุงจังหวัดอุดรธานีที่ตั้งตามลักษณะภูมิประเทศเนื่องจากเป็นบริเวณที่มีต้นชะโนดอยู่ในตระกูลเดียวกับปาล์ม ขายๆทุ่นตาต้นหมากหรือไม่ก็ต้นมะพร้าวแต่สูงกว่าขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นมองไปทางไหนก็เห็นแต่คิวชะโนดสูงเด่นเป็นสง่าปี 2520 เป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านได้ทำการสำรวจจำนวนต้นชะโนดในป่าแห่งนี้ถึงมีอยู่ราว 2,000 กว่าต้นจนมาถึงปี 2544 ชาวบ้านจำนวนอีกครั้งผมว่าต้นคําชะโนดลดลงเหลือเพียง 1865 ต้นถึงกระนั้นที่นี่ยังคงมีความเย็นชื้นและให้บรรยากาศวังเวงเหมือนเดิมแต่ที่น่าแปลกใจก็คือหากพ้นจากดวงคำชะโนดแห่งนี้ไป ห่างกันแค่ไม่ถึง 300 เมตรก็ไม่มีต้นชะโนดปรากฏให้เห็นแม้แต่ต้นเดียวนี่เองจึงทำให้พื้นดินราว 20 ไร่ถูกตั้งฉายาให้เป็นป่าชะโนดอนันต์แท้และมีเรื่องเล่าต่างๆนานมาแต่โบราณเคยมีคนคิดเอาต้นชะโนดไปปลูกที่อื่นแต่ไม่นานก็ต้องเอากลับมาคืนที่เดิมเพราะชีวิตการงานไม่ก้าวหน้า ชีวิตครอบครัวมีแต่ความเดือดร้อนขนาดว่าแค่เอาเมล็ดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งอาจจะเป็นใบแห้งจากป่าสุดท้ายต้องเอามาคืนกันหมดทองอินปักเสติด ชาวบ้านโนนเมืองถึงมีบ้านอยู่ใกล้ๆกับป่าคำชะโนดกล่าวว่านี่ก็เป็นเรื่องเล่าของป่าอาถรรพ์แห่งนี้ป่าอาถรรพ์แห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่เลื่องชื่อเรื่องของความน่ากลัวช่วงค่ำคืนเรื่องเล่าผีจ้างหนังที่คำชะโนดคนอีสานเรียกผีบังบดหรือเมืองลับแลไม่สามารถมองเห็นได้ทั่วไปนอกจากจะมีอะไรมาดลใจให้เห็นมีเรื่องเล่าว่าเมื่อปี 2532 ธงชัยแสงชัยเจ้าของบริษัทหนังเร่ดังกล่าวแต่เราว่าตนเองถูกจ้างจากใครคนหนึ่งให้ไปฉายหนังกลางแปลงที่งานวัดที่หมู่บ้านวังทองแถวป่าคำชะโนดด้วยจำนวนเงิน 4,000 บาท แต่มีข้อแม้ก็คือต้องใช้จบแค่ตี 4 ของวันใหม่และให้ออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสางโดยห้ามหันหลังกลับมามองหลังจากที่วางเงินมัดจำเป็นเจ้าของหนังก็จัดแจงเตรียมอุปกรณ์สัมภาระฟิล์มหนังที่จะนำไปฉายไปกับลูกน้องอีก 4 คนรวมเป็น 5 ไปขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อมีหลังคาออกจากตัวจังหวัดไปแกขับรถเข้าไปแถวป่าคำชะโนดก็เริ่มมืดจริงครับไปตามเส้นทางตามที่ผู้ว่าจ้างบอกก็ไม่เห็นว่าจะเจอหมู่บ้านหรือคนที่จะมารับถึงนึกว่าหลงกันระหว่างจอดรถว่าจะย้อนกลับไปดีหรือไม่ก็มีผู้หญิงสองคนใส่ชุดดำมาร้องเรียกว่าจะนำไปที่วัดคนขับที่เป็น เจ้าของหนังก็รับขึ้นรถแต่แกก็สงสัยว่าสองคนนี้โทรมาจากไหนไอ้ทีมันมืดอย่างนี้ถ้านะอะไรก็ไม่มีเมื่อขับเข้าไปในหมู่บ้าน ก็ชวนสงสัยใหญ่ว่าทำไมไม่มีเสียงลำโพงออกมาจากงานวัดไม่มีเสียงหมอลำหรือการละเล่นอะไรเลยผมไปถึงหมู่บ้านก็มีคนมารับแต่แปลกว่าทุกคนจะใส่เสื้อสีขาวกับสีดำถ้าเป็นผู้ชายใส่ชุดขาวผู้หญิงใส่ชุดดำแยกให้เห็นชัดเจนแม้แต่เด็กที่แปลกทุกคนจะทาหน้าขาวเหมือนกันหมดเหมือนใช้ครีมพอกหน้าเป็นที่น่าสงสัยว่าพวกเขานั้นทำไมถึงแต่งชุดอย่างนั้นเพราะไม่มีใครใส่เสื้ออย่างอื่นเลยนอกจากชุดขาวและชุดดำเมื่อถึงที่แล้วทุกคนก็เริ่มตั้งจอภาพยนตร์เดินสายไฟและเปิดเครื่องปั่นไฟระหว่างที่กำลังกุลีกุจอติดตั้งก็เริ่มเห็นผู้คนไปออยมานั่งดูหนังแต่จะแย่งช้า เห็นชัดเจนไม่มานั่งรวมกันปกติของงานวัดจะต้องมีแม่ค้าแม่ขายมาขายน้ำขายถั่วขายปลาหมึกย่างแต่ที่นี่กลับไม่มีแม่ค้าสักคนพอติดตั้งกันเสร็จก็เริ่มฉายหนังหนังที่เอาไปฉายมี 4 เรื่องเรื่องแรกเป็นหนังสงครามครั้งที่ 2 เป็นหนังตลกแอ็คชั่นเรื่องที่ 3 และ 4 เป็นหนังผีระหว่างที่ฉายคนพากย์ก็พยายามภาพยิงมุขตลกๆแต่ไม่มีใครหัวเราะหรือแสดงอารมณ์อย่างใดเลยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่ใช้ที่ไหนคนก็จะหัวเราะตลอดจนเริ่มใช้เรื่องที่ 3 ที่เป็นหนังผีสังเกตท่าทางคนที่มาดูเริ่มตั้งใจดูทั้งที่บรรยากาศตอนนั้น ก็เที่ยงคืนดูน่ากลัวมากๆระหว่างนั้นทางเจ้าภาพก็จัดข้าวต้มถ้วยเล็กๆมาให้ทีมงานใช้หนังกินกันทางทีมงานเห็นแล้วก็ละเอียดใจมีแต่ข้าวต้มซี่กับเนื้อชิ้นเล็กๆแต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจทางทีมงานก็เลยกินกันและกดว่าเป็นข้าวต้มที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมาเลยหลังจากฉายหนังจบถึงตี 2 ถูกคนก็แยกย้ายกันกลับแป๊บเดียวก็สลายไปหมดไม่มีใครเหลืออยู่เลยทั้งทีมงานก็เก็บอุปกรณ์ขึ้นรถโดยมีผู้หญิงสองคนนั่งรถออกมาส่งก่อนจะร่ำลาก็จ่ายค่าจ้างที่เหลือถึงเป็นเงินเหรียญทั้งหมด พ่อออกมาส่งถึงปากซอยผู้หญิงสองคนนั้นลงจากรถพอรถออกตัวคนขับที่เป็นเจ้าของหนังกลางแปลงหันกลับไปดูก็ไม่เห็นผู้หญิงสองคนนั้นแล้วหลังจากกลับมาถึงบริษัทธงชัยก็เกิดความสงสัยจึงเช็คประวัติกับผู้ว่าจ้างที่ถ่ายเอกสารให้ตอนวางมัดจำก็พบตัวคนมีชื่อนี้จริง แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยไปว่าจ้างใครให้ไปฉายหนังตามวันและเวลาที่บอกด้วยความสงสัยก็เลยถามไปยังเจ้าอาวาสวัดที่เอาหนังไม่ฉายทางเจ้าอาวาสก็บอกว่าในวันนั้นที่วัดไม่ได้มีการจัดงานแต่อย่างใดแต่เจ้าอาวาสเราว่าในคืนวันที่เจ้าของหนังบอกว่ามีการฉายหนังที่ป่าคำชะโนดที่มีเสียงซู่ๆเหมือนมีพายุเข้ามาทั้งๆที่คืนนั้นไม่มีลมใหญ่พัดมาจากไหนเลยทำให้เจ้าของหนังนั้นแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมากและยังหาคำตอบไม่ได้ว่าใครกันแน่ที่จ้างหนังไปฉายที่ป่าคำชะโนดนอกจากจะมีเรื่องเล่าผีจ้างหนังที่ป่าคำชะโนดแล้วผืนป่าแห่งนี้ยังมีเรื่องน่าประหลาดอีกเรื่องคือเวลาน้ำแล้ง ก็จะเห็นว่าดินเชื่อมต่อกันไม่มีอะไรแต่เวลาน้ำท่วมที่ดินรอบรอบจะท่วมหมดแต่ปรากฏว่าป่านี้น้ำไม่ท่วมน้ำขึ้นสูงอย่างไรก็ไม่ท่วม ชาวบ้านเชื่อกันว่ากรอบนี้ลอยน้ำได้และเชื่อว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะเจ้าที่เป็นคนทำให้ผืนป่าแห่งนี้จมน้ำ ขณะที่ท้องกินปกติชาวบ้านโนนเมืองซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กับป่าคำชะโนดได้ย้อนถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในป่าคำชะโนดอีกหนึ่งเรื่องของป่าแห่งนี้ซึ่งคนภายนอกฟังดูอาจจะคิดแต่เรื่องตลกขึ้นมาเพื่อหลอกให้คนกลัวกันเล่นๆสำหรับชาวบ้านที่อยู่มานานนมกลับเชื่อสนิทใจไม่ใช่นิทานปรัมปราหรือนิยายประโลมโลกแต่นั่นคือแรงศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อไปรับและเต็มไปด้วยเรื่องเล่ามากมายเดิมทีคนท้องถิ่นแต่เรียกที่นี่ว่าวังนาคินทร์คำชะโนดที่มาก็คือมีบ่อน้ำอยู่กลางดงชะโนดเป็นบ่อน้ำขนาดเล็กๆแต่กลับมีน้ำซึมออกมาตามธรรมชาติตลอดเวลา ทำให้ชาวบ้านเชื่อกันว่าบ่อน้ำประทานมาให้โดยพญานาคที่อาศัยอยู่ในบริเวณผืนป่าสำหรับบ่อน้ำในป่าคำชะโนดว่ากันว่าเป็นบ่อน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากชาวบ้านเชื่อกันอย่างนั้นมีหลายคนเคยลองอธิษฐานผมหน้าบ่อน้ำก็ได้ตามประสงค์บางคนเจ็บป่วยไปดื่มหรืออาบน้ำโรคร้ายก็จะหายเป็นปลิดทิ้งสร้างความอัศจรรย์ใจยิ่งนักแต่นั่นไม่ใช่ทุกคนอยู่ที่ความเชื่อมีมากน้อยแค่ไหนหลายคนไม่เชื่อแถมยังลบหลู่ตักน้ำจะบอก แล้วนำมาล้างเท้าแทนที่จะหายป่วยไขปรับทุกข์ทรมานซ้ำหนักกว่าเดิมเช่นเดียวกับใครที่อยากจะเข้าไปสัมผัสฝ่าลี้ลับคำชะโนดก็ต้องสำรวมและปฏิบัติตามข้อห้ามคนอื่นๆเป็นต้นว่าห้ามใส่รองเท้าทั่วทั้งบริเวณป่าหมวกแว่นตาร่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บุหรี่ห้ามเด็ดขาด
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น