วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
ล้อมวงเล่าเรื่องสยอง !!
เมื่อหลายปีมาแล้วตอนนั้นเป็นช่วงปีใหม่ผมกับครอบครัวก็กลับไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดกันเพราะตกเย็นพวกผู้ใหญ่เขาก็หาคงฟืนก่อไฟเพราะอากาศมันเย็นใช้ได้เลยเพราะพวกผู้ใหญ่ก่อไฟกันเสร็จแล้วพวกเด็กๆถึงตอนนั้นรวมถึงผมด้วยก็พากันวิ่งกรูเข้ามานั่งไฟรอบๆตอนแรกคนดังฟังผู้ใหญ่ก็คุยกันไปปกติแต่พอเริ่มดึกบรรยากาศมันก็พาไปด้วยความที่มันเป็นชนบทมองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้ใหญ่ๆเพราะเขาทำสวนกันเยอะอากาศเย็นๆแต่มันคืนเดือนแรงอีกหัวข้อรอบกองไฟก็เลยเปลี่ยนเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติไปป้าผมเริ่มเราเป็นคนแรกเรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนหลังจากที่ป้าของผม ย้ายเข้าไปอยู่ที่กรุงเทพฯได้ไม่นาน ป้าก็ได้รับข่าวร้ายจากทางบ้านมาเพื่อนของป้าตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่อยู่ใกล้ๆกันเสียชีวิตเพราะแขวนคอตายในบ้านเพราะป้าเริ่มเป็นพวกเด็กก็ค่อยๆขยับเข้ามานั่งชิดกันมากขึ้นเพื่อให้รู้สึกอุ่นใจป่าชี้ไปที่บ้านไม้เก่าๆหลังหนึ่งที่อยู่หลังข้อความออกไปไม่ไกลเท่าไหร่คือแสงสว่างตอนนั้นก็มีแค่กองไฟนั่นแหละครับเนื่องจากนี่ไปอีกไม่กี่ก้าวก็มองอะไรไม่เห็นแล้ว แต่เพราะหลังคาสังกะสีของบ้านหลังนั้นที่สะท้อนกับแสงพระจันทร์หลังๆเลยทำให้พอเดาได้ว่าตรงนั้นมีบ้านปลูกอยู่จริงๆ พวกผมก็มองตามนิ้วป้าไปก็พอจะจับใจความได้ว่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปต้องมีบ้านหลังนั้นเป็นฉากแน่ๆ ๆเรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่ป้าสำลีแกแต่งงานครับแต่เดิมที่ตรงนั้นก็ไม่ได้เป็นบ้านคนหรอกเป็นแค่ป่าไผ่รกรกปลาสำลีแกใกล้จะแต่งงานแฟนแกก็เลยมาปลูกเรือนหอขึ้นที่นี่ซึ่งก็เป็นที่ของพ่อแม่ป้าสำลีแกนั่นแหละครับแฟนป้าสำลีจะเป็นคนหน้าตาดีก็เป็นธรรมดาที่จะมีคนนู้นคนนี้เขามาเกาะแกะบ้างแต่ป้าสำลีแก่ใจกว้างก็เลยไม่ได้อะไรมากก็คบกันมานานถึงได้แต่งงานกัน วันแต่งงานของแกป้าผมยังไปร่วมแสดงความยินดีอยู่เลยครับหลังจากแต่งงานไม่นานผู้ชายก็เริ่มจะออกลายกลับบ้านดึกบ้างหรือบางวันก็ไม่กลับบ้านเลยป้าสำลีก็เริ่มน้อยใจแล้วก็มีปากเสียงกันอยู่เรื่อยๆฝ่ายผู้ชายเองก็คงรำคาญป้าสำลีก็เลยยิ่งทำตัวเสเพลไปกันใหญ่เป็นชาวบ้านก็นินทากันไปทั่วป้าสำลีแกทนไม่ไหวเลยตกลงกับแฟนแต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร มีอยู่ครั้งหนึ่งหรือความน้อยใจแกได้คู่แฟนแกว่าจะหนีไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นอีกแกจะผูกคอตายให้ดูเรามาถึงตอนนี้พวกผมก็ขนลุกเกรียวกันเลยครับแทบจะกระโดดไปนั่งตักผู้ใหญ่กันเลยคงเป็นเพราะที่ที่เรานั่งกันอยู่มันห่างจากบ้านหลังนั้นแค่ไม่กี่ก้าวด้วยมันเลยรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ยังไงก็ไม่รู้หลังจากที่ป้าสำลีแก่ตัดพ้อกับแฟนไปวันนั้นหลายๆคนอาจจะคิดว่าแฟนแกจะกลับตัวกลับใจใช่ไหมล่ะครับ คำพูดของปลาสำลีก็เป็นแค่ลมที่พ่นออกมาจากปากของผู้หญิงขี้น้อยใจคนนึงเท่านั้นแหละครับวันต่อมาแฟนแกก็ออกไปทำงานแต่เช้าแต่งตัวดูดีผิดปกติฉีดน้ำหอมฉุนเลยแล้วแกก็หายออกไปจากบ้าน 1 วันเต็มโทรมาอีกก็ประมาณ 4 5 ทุ่มของวันต่อมา แต่วันนี้แปลกที่ปลาสำลีเปิดไฟชั้นล่างเอาไว้ ไปนอนตั้งแต่ 2 3 ทุ่มแล้วครับ แฟนแกก็ไม่ได้ใจอะไรแล้วคงลืมคำขู่ของป้าสตรีไปแล้วแกก็ไขกุญแจบ้านเข้าไปแบบไม่สนใจอะไรก็เข้ามาในบ้านก็ถอดเสื้อคลุมถอดนาฬิกาอะไรของแกไว้บนโต๊ะแล้วก็เดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 ของบ้านที่สร้างจากไม้และปิดไฟมืดไว้ประมาณบันไดขั้นที่ 3 ก็มีวัตถุขนาดใหญ่หล่นลงมาห้อยโตงเตงตรงบันได แฟนป้าสำลีแกก็กระโดดหลบลงมาข้างล่างตามสัญชาตญาณพอหายตกใจแกก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นดูว่าอะไรมันหล่นลงมา ภาพที่เห็นก็คือร่างของภรรยาของแกที่เพิ่งจะกลายเป็นศพไปเมื่อมีกี่ใจนี้ส่งยังแกว่งไปมาอยู่เลยครับพร้อมกับเสียงแบบของไม้ที่เชือกนั้นผัวเอาไว้แถมยังมีเลือดไหลออกจากตาด้วยป้าแก่ผูกคอตายให้แฟนแกดูจริงๆป้าสำลีใช้เชือกผูกกับรั้วกั้นบันไดที่ชั้น 2 ไว้แล้วรอจังหวะที่แฟนแกกลับมาบ้านเพื่อจะกระโดดลงมาตายที่บันไดกับหน้าแฟนแกก็เห็นนี้แกเลยตายคาที่เพราะกระดูกคอหักไม่เหมือนกันกับคนที่แขวนคอตายทั่วๆไป หลังจากนั้นแฟนแกก็ย้ายออกไปจากบ้านนั้นทันทีแล้วก็ไม่มางานศพป้าของแกด้วยเรื่องความเฮี้ยนของป้าสำลีทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปในบ้านหลังนั้นอีกเลยโดยเฉพาะเดินขึ้นชั้น 2 ทำให้บนชั้น 2 ยังมีข้าวของป้าก็อยู่ครบมีครั้งหนึ่งโจรบุกขึ้นบ้านป้าแกเพราะได้ข่าวมาว่าฝนบ้านร้างหลังนี้ยังมีของมีค่าเหลืออยู่มันก็พังประตูบ้านเข้าไปทั้งมืดๆแบบนั้นแหละครับแล้วก็เจอวัตถุแปลกปลอมหล่นมาจากชั้น 2 ลงมากลิ้งหน้าบันไดพอมันสักไฟไปโดนเท่านั้นแหละครับก็แหกปากวิ่งกันออกมาซึ่งชาวบ้านเขาไปล้อมจับกันได้ทั้งหมดหลังจากป้าเราจบ แกก็ปล่อยให้พวกเรานั่งพักหายใจหายคอกันสักพักก็เห็นนั่งตัวเกร็งกันมานานพอเห็นว่าเราเริ่มหายกลัวกันแล้วพ่อผมที่นั่งอยู่ข้างๆก็เริ่มเล่าประสบการณ์ของตัวเองบ้าง ตอนแรกพ่อก็ออกตัวก่อนเลย เรื่องของพ่ออาจจะไม่น่ากลัวเท่ากับเรื่องที่ป้าเล่าไปเมื่อกี้พวกเราก็เลยเบาใจเรื่องนี้เกิดขึ้นที่บ้านของตากับยายครับเมื่อตอนนี้พ่อกับแม่เริ่มคบกันใหม่ๆแม่เคยพาพ่อไปให้ตากับยายรู้จัก แต่ด้วยการเดินทางที่ค่อนข้างจะลำบากไปสักหน่อยพ่อก็เลยเพลียเพราะไปถึงบ้านได้พูดคุยกับตายายไม่นานพ่อก็ขอตัวขึ้นไปนอนบนบ้านเพราะด้านล่างเมื่อก่อนเป็นร้านขายของครับเป็นร้านขายของครับพ่อเลือกนอนหน้าห้องนอนที่เคยเป็นห้องนอนของแม่กับยายทวดมาก่อนก่อนที่ยายทวดจะเสียไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อหลายปีก่อนทุกอย่างดูเหมือนจะเรียบร้อยแต่จู่ๆพ่อก็แหกปากร้องขอความช่วยเหลือดิ้นทุรนทุรายเอามือบีบคอตัวเองแล้วทำเสียงฟืดฟาดอยู่บนบ้านกันทุกคนข้างล่างตกใจกันหมดแม่กับยายก็รีบวิ่งขึ้นไปดูแล้วทั้งแม่กับยายก็ยังงับยายพูดออกมาประโยคหนึ่งว่ามันนอนทับที่ที่ทวดมึงตายแม่ผมก็เลยรีบวิ่ง ก็ไปหาร่างของพ่อครับพร้อมกับร้องบอกกับสิ่งบางอย่างว่าพาแฟนมาให้รู้จักอย่าทำร้ายเขาเลยไม่นานพ่อก็ค่อยๆสงบลงพ่อลืมตาแม่ก็ถามว่าเป็นอะไรพ่อบอกว่ามียายแก่ๆคนหนึ่งกระโดดเข้ามาบีบคอพ่อถามว่ามึงเป็นใครมึงมาทำอะไรถามซ้ำๆอยู่แบบนั้นแล้วก็บีบคอพ่อไปด้วยแม่ก็เลยเล่าให้พ่อฟังว่าเป็นยายทวดช่วงที่แกป่วยก็ไอ้จะเสียแค่นอนซมอยู่ตรงนี้หลังจากนั้นเวลาแม่จะพาพ่อไปที่บ้านตากับยายก็ต้องร้องบอกคนบนนั้นก่อนเสมอบ้านในละแวกนี้ค่อนข้างแรงครับเพราะหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านถูกสร้างทับที่ป่าช้าเก่าพอเล่าจบแม่ก็เล่าเสริมเรื่องบ้านตากับยายขึ้นมาอีกแม่บอกว่าเสมอ ก่อนโน้นที่แม่ยังเล็กๆคนแถวนั้นจะปิดบ้านนอนกันเร็วมากแม่ก็เคยถามตาอยู่บ่อยๆว่าทำไมต้องรีบปิดบ้านปิดหน้าต่างเข้านอนแต่ตาก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังถึงแม่รู้เรื่องรู้ภาษาตาเลยบอกว่าที่ตรงนั้นมันเป็นที่ป่าช้าเก่าของวัดตอนกลางวันมันเป็นเวลาของเราตอนกลางคืนก็แบ่งให้พวกเขาได้อยู่กันบ้าง ถ้าบอกกับแม่อย่างนั้นแล้วแต่ก็เล่าให้ฟังว่าตอนตาเป็นหนุ่มๆมีอยู่วันหนึ่งจุดตะเกียงอ่านหนังสือจนดึกได้ยินเสียงคนร้องไห้ฮือฮืออยู่หน้าบ้านแล้วจะเปิดประตูไปดูแต่มันก็ขึ้นได้ซะก่อนว่ามีควรเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านแบบหน้าต่างไม้ลูกมาดูเห็นคนเยอะแยะใส่ชุดขาวๆเดินตามกันมาเป็นขบวนบางคนก็ร้องไห้บางคนก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรที่หน้าสุดของขบวนที่ผู้ชายสี่คนหามคันไม้ไผ่เอาไว้กลางนั้นคือร่างไร้วิญญาณที่ถูกคอด้วยเสื้อแบบง่ายๆแล้วเขากวนก็ค่อยๆเดินหายไปเข้าไปในป่าไผ่ท้ายหมู่บ้านที่ยังเป็นป่าช้ามาจนถึงปัจจุบันแต่ที่น่าขนลุกก็คือ พวกเขาเป็นใครแล้วทำไมต้องมาประกอบพิธีเอาปากมีเสียงกรี๊ดดังลั่นน้องสาวที่เป็นญาติกันที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของวงนี้ขึ้นมาเฉยๆตอนที่แม่กำลังเหล้าอยู่เล่นเอาทุกคนสะดุ้งโหยงไปต่างๆกันลุงเลยถามว่าเป็นอะไรแล้วเธอก็ชี้ไปที่บ้านไม้หลังเก่าที่อยู่หลังคอควายหลังนั้น ผมได้หันมองกลับไปดูครับก็เห็นว่าที่ชั้นล่างของบ้านเปิดไฟไว้ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังมืดทั้งหลังพวกเด็กๆนี่น่าเสียกันไปหมดเลยป้าเลยบอกว่าบ้านหลังเดิมเขาหรือเอาไม้ไปให้วัดหมดแล้วอันนี้เป็นบ้านที่น้องสาวป้าสำลีก็โผล่ขึ้นมาใหม่
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น