วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เปรตยายแสง !!


         เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แม่ฟังมาจากย่าอีกทีนึงแต่มันเป็นเรื่องจริงที่หมู่บ้านเราค่อนข้างเชื่อเรื่องนี้เรื่องมีอยู่ว่าวัดในหมู่บ้านเราเป็นวัดป่าก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเรื่องลี้ลับมากมายแต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เป็นที่เลือกเลยค่ะจนถึงปัจจุบันนั่นก็คือแปลกใจแสงในวัดนั้นจะมีต้นตาลอายุหลายสิบปีที่เก่าแก่มากมายอยู่หลายต้นแต่จะมีอยู่ต้นหนึ่งมีเครื่องเซ่นไหว้เต็มไปหมดแม่เล่าให้ฟังว่าแสงเป็นคนที่ขี้เหนียวมากชนิดที่ว่าแก่ต้นใหญ่ในรั้วบ้านแกก็ยังหวงอันนี้จากปากแม่จริงๆแกเป็นคนค่อนข้างมีฐานะในสมัยนั้นเราบ้านแกเป็นบ้านหลังแรกที่มีโทรทัศน์ หรือสมัยนั้นแม่บอกว่าเขาเรียกว่าวิทยุภาพแกหวงของแกมากไม่เคยแบ่งปันให้ใครได้ดูด้วยเลยหวงของทุกอย่างน้ำก็ไม่ให้กินแค่อยู่คนเดียวแล้วผัวแกเพิ่งตายไปไม่นานแม่บอกว่าขนาดผัวแก่ตายก็ยังไม่วนกลับมาเลยแกบอกว่าเปลืองตอนนั้นเราฟังก็คิดในใจว่ามีคนแบบนี้จริงๆหรือแกไม่ยอมทำบุญทำทานคิดว่าการทำบุญไม่จำเป็นก็ด่าทุกคนคนแก่พระเอกหมาป่าหมดออกแนวยายปริกเรื่องหลวงพี่ผีขนุนนั่นแหละแต่แกหนักกว่านั้นเยอะวันนึงแกคงอยากกินขนมตาแกก็เลยไปหาลูกตาลมาทำขนมแต่ ไม่รู้แกคิดอะไรอยู่มุ่งหน้าไปที่วัดตอนนั้นต้นตาลยังคงไม่สูงมากแกเอาไม้สอยเลยไม่สนใจว่าพระจะยืนกวาดลานวัดอยู่บ่ได้สมใจแล้วแกก็กลับบ้านหน้าตาเฉยที่รู้เพราะตอนนั้นเป็นวันที่ชาวบ้านจะมาปฏิบัติธรรมที่วัดกันสมัยยังสาวๆๆชาวบ้านเห็นทั้งหมดก็พูดอะไรไม่ได้คงลืมพระอาการต่างๆที่ทุกคนรู้ว่าแกทำขนมตาลแต่ไม่เคยมีใครได้กินเลยมีคนบอกให้แกเอาไปถวายวัดบ้างเพราะเอาลูกตาลไปจากวัดก็ด่ากราดเลยหลงกันแทบไม่ทันแต่อยู่มาไม่นานแกก็เกิดล้มป่วยไม่มีใครรู้ว่าแกป่วยเพราะอะไรป้าใหญ่เราเข้าไปดู ใจก็กลัวแกจะไล่ก็เจอออกมาแต่ยังไงก็เป็นเพื่อนบ้านกันเมื่อเข้าไปดูสภาพที่เห็นก็คือใจแสงนอนโทรมมากเหมือนไม่ได้กินข้าวก็เห็นป้ากับยายขอแทนพ่อใหญ่บุญแกบอกว่าหิวน้ำเอาน้ำให้แกกินหน่อยอย่าบ่นเลยไปตักน้ำมาให้ ญี่ปุ่นมาเล่าให้ยายฟังทีหลังว่าในครัวยายแสงมีของกินเต็มไปหมดมีทุกอย่างหลังจากที่ตักน้ำมาใจบุญก็ค่อยๆพยุงยายแสงขึ้นเพื่อจะให้กินน้ำเยอะแสงกินเข้าไปได้อีกเดียวก็บ้วนทิ้งได้บุญอีกว่าเอาแกลบมาให้กินอย่าบ่นก็งงกว่านี้มือก็ถือขันน้ำอยู่แท้ๆทำไมถึงว่าเอาแกลบมาให้กินใจแสนรายใหญ่บุญออกจากบ้านทันทีแถมยังพูดตามหลังว่าอย่าขโมยของของกูไหมล่ะกูจับได้จะเอาตายแน่ๆ อ้ายได้ยินแบบนั้นหรือความโมโหใหญ่บุญเลยพูดกลับไปว่าจะตายห่าอยู่แล้วยังไม่เลิกหวงของอีกทำบุญบ้างคะยายแสงใต้ไปเดี๋ยวจะไม่มีอะไรกินหรอกยายแสงตอบทันทีว่าตายไปของกินกูก็มีเยอะแยะทำทำไมบุญตาทำไปก็ไม่ถึงกูหรอกละกินหมดได้บุญโมโหเลยพูดไปว่าขี้กลากจะกินปากตายไปเดี๋ยวก็เป็นเปรตแก่แสงตอบกลับมาว่าเออกูไม่กลัวหรอกตายไปกูจะเป็นเปรตอยู่ที่วัดนั่นแหละคอยขวางพวกมึงออกไป ยายบุญรีบออกจากบ้านกันทีมาที่บ้านยายของเรา แล้วเล่าให้ฟังยายบุญยังพูดต่อหน้าว่าแม่ฉันก็โมโหจริงๆอุตส่าห์เข้าไปดูแท้ๆคอยดูเถอะมันตายไปไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดหรอกหลังจากนั้นไม่กี่วันก็ไม่มีใครเห็นใจแสนอีกเลยจนชาวบ้านสงสัยเลยไปดูที่บ้านแกเข้าไปในบริเวณบ้านกลิ่นเหม็นคลุ้งเลยพอเข้าไปในตัวบ้านก็ไม่เจอยายแสงจึงเดินตามหากันทั่วบ้านจนไปเจอยายแสงนอนตายอยู่ในห้องครัวเมื่อเห็นแบบนั้นก็รีบตามสัปเหร่อมาเอาศพยายแสงไปทำพิธีเมื่อสัปเหร่อมาถึงก็ทำพิธีหลายขั้นตอนต่อที่มัดตราสังปกติทุกอย่างแต่ตอนที่จะเคลื่อนศพออกจากบ้านมือที่มัดตราสังไว้เกิดหลุด จึงได้ทำการวัดใหม่เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 3 รอบเป็นสัปเหร่อคงทนไม่ไหวในบอกว่าจะเป็นอย่างนี้อยู่จะเผาอยู่นี่แหละเผาทั้งบ้านนี่แหละพูดจบกลิ่นก็มาเลยจากที่เหม็นแล้วคราวนี้เหม็นหนักกว่าเดิมถึงชาวบ้านที่ยกศพทนไม่ไหววางศพแล้ววิ่งออกไปอ้วกกันเลย สัปเหร่อจะไปเชิญหลวงพ่อที่วัดให้มาช่วยนำศพออกจากบ้านหลวงพ่อมาถึงสวดบทอะไรสักอย่างแล้วผู้ส่งท้ายว่าอาตมาช่วยได้แค่นี้นะโยมแสงต่อไปคงแล้วแต่เวรแต่กรรมที่สร้างมานะแล้วชาวบ้านก็เอาศพออกจากบ้านได้ปกติเมื่อไปถึงวัดก็จะทำพิธีทำศพแบบตามมีตามเกิดเพราะสมบัติแกมีเยอะแต่ไม่เคยแบ่งปันให้ใครแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าแกเอาไปไว้ที่ไหนรอให้คนในหมู่บ้านไปดูที่บ้านก็ไม่เจอของมีค่าอะไรเลยงานศพยังไงอันนี้ไม่ทราบเพราะแม่ไม่ได้เล่าถึงรายละเอียดตรงนั้นรู้แค่ว่าวันที่เผาศพสมัยก่อนเขาจะเรียกว่าเผาแบบเชิงตะกอน ตอนนี้ไฟกำลังไหม้ร่างใหญ่แสงอยู่ดีๆสาบานได้ยินเสียงคนกรีดร้องขึ้นมายายเล่าให้แม่ฟังว่าได้ยินกันทั้งหมู่บ้านขนาดใหญ่นั่งอยู่ที่บ้านได้ยินเป็นเสียงกรีดร้องที่แหลมมากมันทรมานดังอยู่ประมาณ 3-4​ ครั้ง​ แล้วก็เงียบไปแต่ตกตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงแบบนี้อยู่บ่อยๆโดยเฉพาะบริเวณวัดจะได้ยินเสียงชัดเจนมากชาวบ้านต่างพากันกลัวเลยไปหาหลวงพ่อหลวงพ่อท่านเลยบอกว่านี่แหละโยมผลกรรมของการทำไม่ดีคิดไม่ดีตอนนี้โยมแสงได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อแล้วหลวงพ่อพูดขึ้นมาแบบนี้แต่บางตัวกันใหญ่เพราะปรกติเหแสงแกเป็นคนที่น่ากลัวอยู่แล้วมีตายไปแล้วจะยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ใหญ่เราว่าตอนนั้นไม่มีใครกล้าออกจากบ้านเลยจากปกติเคยไปไร่ไปนากลับมันมืดค่ำๆ เดี๋ยวนี้พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินก็กลับบ้านแล้ว เพราะมีชาวบ้านคนหนึ่งไปนอนที่กระท่อมนาซึ่งหน้าของเขาติดกับวัดและกระท่อมก็อยู่ไม่ไกลจากวัดมากนักระหว่างที่กำลังนอนอยู่รู้สึกเหมือนแผ่นดินไหวเพราะมันสะเทือนเลยลืมตาดูเป็นขาเดียวดำๆใหญ่กล่าวคำกระท่อมหน้าแล้วเดินไปตาคนนั้นตกใจมากนั่งสวดมนต์อยู่ในกระท่อมนาเพราะคิดว่าโดนแน่ๆ ๆสักพักเสียงเงียบไป แต่พอลืมตาขึ้นมาเท่านั้นแหละเห็นใบหน้าใหญ่ดำเหี่ยวย่นมีกลิ่นเหม็นกลมลงมาตรงหน้าเขาอยู่คิดภาพคนตัวสูงๆคงมองอะไรเล็กๆประมาณนั้นเลยเขาสติแตกวิ่งร้องตะโกนจากนามาในหมู่บ้านหัวกระจายแสงเล่นกูแล้วเปลี่ยนแสงหลอกกูแล้วระหว่างนั้นหันไปมองกว่าจะตามมาไหมเห็นยายแสงเดินหายเข้าไปในต้นตาลที่วัดแค่นั้นแหละวิ่งไม่คิดชีวิตเลยหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นยิ่งทำให้ชาวบ้านกลัวมันเข้าไปใหญ่ถ้าคนนั้นไม่สบายแต่จำไม่ผิดสมัยนั้นน่าจะเรียกว่าจับไข้หัวโกร๋น และมีอีกหลายๆคนที่เจอเหตุการณ์แบบเดียวกันคือเหตุใดแสงเดินเข้าไปในต้นตาลที่มีการนำเครื่องเซ่นไหว้ไปไหว้ที่ต้นตาลนั้นเวลาผ่านไปเรื่องของเปรตที่แสงเริ่มซาลงจนกระทั่งวันหนึ่งแม่เล่าให้ฟังว่าเป็นวันอาสาฬหบูชาทุกคนก็ไปเวียนเทียนที่วัดกับปกติผู้ชายคนนึงตอนนั้นอายุประมาณ 17 18 มาจากกรุงเทพฯมาได้ยินเขาพูดกับเพื่อนในหมู่บ้านว่าเฮ้ยพวกเองอยากเจอเปรตไหมถ้ามีวิธีก็เอาข้าวต้มมัดจากถุงเอาผูกเชือกไว้ที่เอวแล้วพูดต่อว่าข้ารู้มาว่าถ้าเราทำแบบนี้แล้ววิ่งรอบสวนทางกับคนกำลังเวียนเทียนเราจะเห็นผีเปรตมันจะมาเอาข้าวต้มเราเองอยากเห็นไหม ทุกคนในหมู่บ้านนั้นต่างเคยได้ยินประวัติของแปลกที่วัดแห่งนี้มาทั้งนั้นเลยไม่มีใครกล้าเป็นเด็กผู้ชายคนนั้นก็ไม่หยุดพูดต่ออีกว่าโถ่ไอ้พวกปอดแห้งข้าจะทำให้ดูระหว่างที่แม่กับยายและชาวบ้านกำลังเวียนเทียนอยู่ผู้ชายคนนี้ก็วิ่งรอบโอนเลยวิ่งสวนทางแม่เราไปสักพักหนึ่งได้ยินเสียงคนร้องแม่บอกว่าเสียงหลงเลยแล้ววิ่งรอบวัดเหมือนหาทางออกไม่เจอปนอยู่ในวัดชาวบ้านพากันวิ่งไปจับตัวก็จะถามว่าเป็นอะไรมาจากตัวเขาไว้ได้แล้วเขาก็พูดประโยคเดียวเลยกลัวแล้วกลัวแล้วแม่กับยายมองหน้ากันแล้วก็เดินกลับบ้านเลยรุ่งเช้าก็ไปทำบุญที่วัดกันปกติในศาล ตาวัดชาวบ้านก็พูดถึงเรื่องเมื่อคืนกันไม่หยุดปากยายของผู้ชายคนนั้นเราให้ฟังว่าร้านฉันมันบอกว่าตอนที่วิ่งเสร็จมันไปยืนอยู่หน้าโบสถ์มันเห็นคนตัวสูงๆก้มหน้ามันแล้วส่งเสียงร้องหวีดใส่หน้ามันแล้วมันก็เริ่มวิ่งแต่วิ่งไปทางไหนก็เจอคนตัวสูงใหญ่กลมหน้ามาแล้วร้องหวีดใส่ตลอดและผู้ชายคนนั้นเหมือนคนเสียสติไปเลย

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...