วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

นอนเพราะ​จำเป็น !!


          เรื่องราวมันเกิดขึ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ของพี่ 2550 พอดีที่เราสองคนคือเราและแฟนตามใจที่จะเดินทางไปเที่ยวจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคใต้ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแฟน เมื่อวางแผนอะไรกันเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางเย็นวันที่ 30 ธันวาคมกะว่าจะไปเช้าเอาที่โน่นและหลังจากนั้นก็วางแผนที่จะพากันเที่ยวเพราะแถวบ้านแฟนนั้นมีที่เที่ยวเยอะที่จริงเราเองก็ไม่ค่อยชอบเดินทางกลางคืนมากนะเพราะฟังและอ่านเรื่องผีข้างทางมาเยอะก็กลัวจะเจอประสบการณ์สยองสยองแบบนั้นเขาบ้างน่ะสิแต่แฟนตัวดีก็อธิบายว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลมีการเดินทางตลอดเวลาก็เยอะแยะจะไปกลัวอะไร เราคิดดูก่อนอาจจะจริงแล้วก็เป็นอย่างที่แฟนของเราคาดไว้จริงๆเพราะถนนทุกสายที่ผมน่าลงไปสู่จังหวัดบ้านเกิดของแฟนเราทำงานไปด้วยยวดยานพาหนะทั้งส่วนตัวและสาธารณะถึงข้อดีก็คือมันทำให้เราหายกลัวกว่าจะเจอผีข้างทางลงไปได้แต่ข้อเสียมันก็คือรถติดตลกมากโดยเฉพาะในบางช่วงก่อนออกจากกรุงเทพและบางช่วงที่ต้องผ่านตัวเมืองลายทางแต่ก็มีบางช่วงเหมือนกันที่พอจะขับได้สบายไม่ถึงต้องติดมากนะอย่างไรก็ตามนั้นทำให้แผนการเดินทางของเราคลาดเคลื่อนไปพอสมควรเราขับรถมาถึงจังหวัดบ้านเกิดของแฟนเก่าก็คือ ตี 4 แล้วแล้วแฟนก็เริ่มจะไม่ไหวแต่อีกไกลกว่าจะถึงอำเภอที่แฟนอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 100 กิโลเมตรเราก็เลยตัดสินใจหาโรงแรมนอนพักกันก่อนสายๆหน่อยค่อยไปกันต่ออย่างที่รู้ๆกันนั่นแหละว่าเป็นช่วงเทศกาลห้องพักและโรงแรมแถวไหนก็มากันเต็มหมดแหละที่จังหวัดนี้ก็เช่นกันเราขับรถวนหาอยู่นานก็หาห้องพักไม่ได้สักทีถึงแฟนเริ่มทนไม่ไหวร่ำๆจะไปจอดรถนอนที่ปั๊มแต่พอดีนึกยังไงไม่รู้แฟนขับรถเลยปั๊มไปแล้วเลี้ยวเข้าไปโรงแรมแห่งหนึ่งพอดีมันเป็นโรงแรม 4 ชั้นเก่าๆ ออกแนว service Apartment มากกว่าถึงโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่แถวๆนอกเมืองสักหน่อยเลยปั๊มน้ำมันมาไม่ไกลมากนัก น่าแปลกที่มันอยู่ติดถนนใหญ่ที่แท้ภายในบริเวณโรงแรมมีออกมาเหมือนไม่มีคนเข้ามาพักเลยด้านหน้าแล้วเปิดไฟสลัวสลัวเอาไว้เท่านั้นเราเองก็รู้สึกแปลกๆตั้งแต่เข้ามาในบริเวณโรงแรมแห่งนี้แล้วแต่ก็ไม่อยากจะขัดแฟนเพราะเขาไม่ไหวแล้วจริงๆก็เลยแข็งใจอีกครั้งเราก็มานอนพักแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็จะไปคงไม่น่าจะมีอะไรหลังจากคุยกับพนักงานที่เคาน์เตอร์เราก็ได้ห้องชั้นบนสุดของโรงแรมทีพักนอนคืนนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่าโรงแรมนี้ไม่มีลิฟต์ก็จำเป็นจะต้องเดินขึ้นและในระหว่างเดินขึ้นเราก็พยายามส่องดูตามทางเดินถึงไหนจะมีพวกแม่บ้านหรือแค่ตามห้องต่างๆเดินไปมากันบ้างแต่มันไม่มีวี่แววของอะไรเลยเงียบไปหมดเหมือนมีให้พวกเราอย่างไรก็ตามห้องพักของเรานั้นดูดีเกินคาดแม้จะไปหน่อยก็เป็นธรรมดาของห้องพักตามโรงแรมทั่วไปนั่นแหละทันทีที่เข้ามาถึงห้อง แผนที่ล้มตัวลงนอนทันทีด้วยความง่วงส่วนเราก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำตามปกติทุกอย่างดูเป็นปกติชุดเราเริ่มขายใจตั้งใจว่าอาบน้ำเสร็จก็จะของีบบ้างเหมือนกันเพราะทนนั่งเป็นเพื่อนแฟนมาหลายชั่วโมงถึงเริ่มง่วงบ้างแล้วแต่พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นแฟนนั่งนิ่งๆอยู่บนเตียงเพราะเห็นหน้าเราแฟนก็รีบพูดขึ้นมาเลยว่าเธอแต่งตัวเดี๋ยวนี้เลยนะขับต่อกันดีกว่าอีกนิดเดียวก็จะถึงบ้านแล้วเราก็ถามกลับไปว่าทำไมหรอเริ่มรู้สึกเอะใจอะไรบางอย่างไม่มีอะไรหรอกลืมไปนะว่าพรุ่งนี้ต้องไปธุระต่ออีกแฟนต่อกับติงลี่ ก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำบ้างเพราะบ่นว่าเหนียวตัวแต่ก่อนเข้าห้องน้ำไปเขาก็ยังหันมากำชับไว้รีบแต่งตัวซึ่งผิดวิสัยของแฟนเราเป็นอย่างมากเขาไม่ใช่คนประเภทจ้ำจี้จ้ำไชเราคิดว่าแฟนเราคงต้องเจออะไรเข้าให้แน่ๆก็เลยรีบแต่งตัวและเก็บข้าวของแต่ด้วยความที่เพิ่งสระผมเสร็จใหม่ๆผมมันยังไม่แห้งดีและผ้าเช็ดตัวปกติใช้โฮมออกมาจากห้องน้ำมันก็ชินซะแล้วเราก็เลยเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าเผื่อว่าจะมีผ้าเช็ดตัวที่ยังแห้งเหลืออยู่บ้างจะได้เอามาเช็ดผมต่อชวา ทั้งทีที่เราเปิดประตูเสื้อผ้าออกมานั้นเราก็เห็นร่างของผู้หญิงเปลือยคนหนึ่งผมหยิกผิวขาวซีดนางโค้ดตัวอยู่ในนั้นผัวของเธอพับจนเกือบขนานไปกับหัวไหล่ลำคอของเธอถูกมัดเอาไว้ด้วยอะไรให้กลายเนคไทผูกโยงเข้ากับกาวสำหรับแขวนไม้แขวนเสื้อด้านบนแต่ที่น่าสยดสยองที่สุดคือบนหน้าอกเธอมีมีดเล่มใหญ่ปักอยู่เสื้อสีแดงรำที่แข็งตัวเลอะเทอะไปหมด เราอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆแต่เหมือนตัวอะไรบางอย่างสะกดไว้ทำให้ไม่สามารถที่จะส่งเสียงหรือขยับตัวออกมาได้จากตรงนั้นทันใดนั้นแฟนก็เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำแล้ววิ่งมาแล้วจ้าไกลของเราจะตรงนั้นแล้วไฟก็ดับขึ้นลงวิ่งแล้วเธอแฟนตะโกนดังลั่นแต่เราก็พูดออกมาจากห้องนั้นตามมาด้วยแฟนที่อยู่กะเป๋าพะรุงพะรังออกมาด้วยเราวิ่งพรวดก็ถึงชั้นล่าง วันแรกที่เห็นเคาน์เตอร์นั้นมันคือความว่างเปล่าพนักงานที่อยู่ตรงนั้นในตอนแรกที่เราเข้ามาหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้แฟนว่ากุญแจไว้แล้วเป็นแนบไปที่รถอย่างไวรวมทั้งเราด้วยไม่อยู่แล้วเราขับรถออกจากโรงแรมแล้วมุ่งหน้าไปที่บ้านกับแฟนเลยทีเดียวซึ่งสิ่งแรกที่เราทำเมื่อไปถึงที่นั่นก็คือเดินสายทำบุญกันยกใหญ่หลายวันต่อมาเราต้องผ่านที่ตัวเมืองนี้อีกเลยถือโอกาสแวะไปหาข้อมูลกันสักหน่อยไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกลก็ที่ปั๊มน้ำมันก่อนถึงโรงแรมนั่นแหละถามเด็กปั๊มได้ความว่าโรงแรมเห็นหน้าแต่ก่อน โรงแรมของพวกเซลล์แมนราคาถูกอยู่มาวันหนึ่งก็เกิดเรื่องก็คือก็มีเซลล์แมนคนนึงออฟเด็กมาจากไหนก็ไม่รู้พากันไปนอนที่โรงแรมแห่งนี้แล้วคงมีปัญหาอะไรกันสักอย่างก็เลยถ้าผู้หญิงคนนั้นตายแล้วซ่อนศพไว้ในตู้ต่อมาโรงแรมก็เริ่มที่จะไม่มีคนเข้าพักเพราะมีคนเจอดีกันบ่อยนอกจากไลน์ของเซลส์แมนแล้วก็มีผัวเมียฆ่ากันตายบ้าง คนแถวนั้นเขารู้กิตติศักดิ์กันหมดแล้วจะมีก็แต่พวกคนต่างถิ่นไม่รู้เรื่องอะไรที่มักจะหลงเข้าไปพักกันบ่อยๆส่วนที่ว่าทำไมแฟนถึงเร่งให้ออกจากโรงแรมตอนนานก็เพราะว่าเขาเจอแบบเดียวกับเราเลยเพียงแต่ว่าแฟนเป็นคนจิตแข็งและไม่อยากได้ตุ๊กตาละลายออกมาเท่านั้นเองส่วนเราน่ะหรอบอกได้คำเดียวว่ารอจนไม่กล้านอนโรงแรมไปพักใหญ่เลยทีเดียว

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...