วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สยองตายาย​ ปราบเสือสมิง !!


         สวัสดีครับเรื่องเล่าสยองขวัญขอนำเสนอเกี่ยวกับเสือร้ายที่ติดกับชายแดนประเทศเขมรเส้นทางแสนจะลำบากลำเค็ญในทุกๆฤดูเป็นเวรกรรมของผู้ใช้ถนนเส้นนี้หมู่บ้านมะแว้งตั้งอยู่กลางดงไม้อัดหนาแน่น ไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้ใดเป็นผู้ริเริ่มในการบำรุงหลักปักฐานถึงแม้จะเป็นกลางดงลึกแต่ก็มีผู้คนอาศัยอยู่เกือบ 50 หลังคาเรือนอาจจะเป็นเพราะดินค่อนข้างต่ำน้ำค่อนข้างชุ่มจากต้นน้ำหลายๆสายของทิวเขาตลอดชายแดน ก่อนจะเข้าพรรษาประมาณเดือนพฤษภาคมก่อนฝนจะมาชาวบ้านมาแว้งได้มีโอกาสต้อนรับพระภิกษุสงฆ์สูงอายุราว 60 เศษๆแต่ในธุดงค์ผ่านมา ท่านปรารภว่าเอาพรรษาปีนี้อาตมาประสงค์จะจำวัดที่หมู่บ้านมะแว้งแห่งนี้พุทธบริษัทต่างปรีดาปราโมทย์เป็นยิ่งนักจึงพร้อมใจกันสร้างกุฏิขึ้น 1 หลังเลือกสถานที่ริมแม่น้ำเพราะเห็นวิเวกดีชาวบ้านมะแว้งมีอุปนิสัยชอบในการทำบุญถึงแม้จะเป็นหมู่บ้านที่ยากจนแต่ทุกคนก็มีศีลมีธรรมรักใคร่กลมเกลียวกันดีจึงทำให้หลวงพ่อพระธุดงค์ได้พำนักอย่างสบายใจในพรรษาสาบานได้อยู่เย็นเป็นสุขกันมาจนกระทั่งผ่านมาถึงเดือนสุดท้าย ก่อนออกพรรษา ข่าวในหน้าต่างรวมอากาศเย็นเริ่มโชยมาท้องฟ้าที่เคยมืดมิดเพราะเมฆฝนหายไปมีแต่ปุยฝ้ายเข้ามาแทนที่ท้องฟ้าสีเงินตัดเมตรงามตายิ่งนักแต่น้ำในห้วยเริ่มขาดแคลน แล้วข่าวร้ายก็ได้กระจายกันทั่วหมู่บ้าน หมูแม่พันธุ์ที่มีอยู่ตัวเดียวของนายวิ่งที่เลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้านได้หายไปในตอนกลางคืนนายพรานชี้ชัดบอกว่าเสือมาคาบเอาไปกินเพราะบริเวณรอบบ้านมีรอยเท้าเสือเกลื่อนไปหมด ตั้งแต่นั้นมาวัวควายก็ทยอยหายไปเรื่อยๆแม้แต่สัตว์เลี้ยงเป็ดไก่ก็พลอยหายไปด้วยเป็นที่หวาดผวาของชาวบ้านมะแว้งใครมีวัวมีควายต่างก็นำมาปลูกรวมกันไว้ออกกลางหมู่บ้านและได้ก่อไฟเปลี่ยนเวรยามกันอย่างหนาแน่นเท่าค่ำหน่อยต่างก็ปิดประตูหน้าต่างกันเงียบไม่ได้ยินเสียงแม้แต่เด็กที่ร้องไห้เพราะกลัวเสือมันจะมาคาบออกไปกินใครจะมีธุระกลางค่ำกลางคืนหากมาก็จะไปเปิดประตูรับเป็นอันขาด ถ้ามีปวดท้องก็กลั้นเอากันไม่อยู่ก็จะต้องมีคนมาคุมไม่น้อยกว่า 3 ถึง 6 คนยืนคุมด้วยอาวุธปืนที่มีส่วนมากจะไม่มีใครกล้าลงจากบ้านกันเลยแล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่ชาวบ้านมาแว้งต้องสยองขวัญเพราะเสือในคาบหมูของนายอินทร์นางจันทร์ 2 สามีไปยาวไปกินมาเลี้ยงไว้หลายตัวแต่ละตัวล้วนแต่ดุๆเห่าเก่งวันที่เกิดเหตุตามไม่มีตัวไหนเลยที่จะส่งเสียงมาเตือนพวกมันมัวแต่ไปทำอะไรอยู่ที่ไหนกัน ร้านคงแนะนำชายหนุ่มฉกรรจ์ออกตามรอยเท้าเสือหมอบพบเศษซากของหมูเกลื่อนกลาดไปเป็นทางอีก 1 อาทิตย์จะออกพรรษาหัวหน้าชาวบ้านเรียกลูกบ้านมาประชุมกันถึงเรื่องงานบุญปีนี้จะเอาอย่างไรกันดีเพราะได้มีเสือเข้ามาในหมู่บ้านและได้มีผู้กล้าหาญ 4-6​ คน อาสาออกไปจัดการกับเสือร้ายโดยนายพรานคงเป็นหัวหน้างานโครงให้ในวินเป็นคนเอาหมูออกไปผูกล่อเสือกลางทุ่งแล้วพวกข้างการคงก็ทำคัดห้างที่ต้นไม้ใหญ่คอยจ้องมองว่าเสือมันจะปากคาบเอาหมูที่ปลูกไว้เมื่อไหร่เสือมันก็รู้ตัวไม่ยอมต่อมาเห็นคืนที่ 2 คนแล้วจนกระทั่งคืนที่ 3 ดวงจันทร์ขึ้น 8 ค่ำแสงจากดวงจันทร์สว่างจ้าลมเย็นๆเริ่มโรยตัวลงมาแต่เรานายพรานคงยังคงถือปืนจ้องไปที่หมูที่ผูกเอาไว้ เสียงจิ้งหรีดที่พากันร้องจ้าจนแสบแก้วหูพร้อมใจกันหยุดร้องเงียบกริบแม้แต่โดมพลอยจะหยุดไปด้วยลมโชยมาอีกครั้งคราวนี้ได้กลิ่นสาบและร่างของเสือก็ปรากฏขึ้นหมูที่ผูกไว้มันรู้ว่าภัยได้มาถึงตัวมันแล้วมันดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพื่อให้เชือกที่ผูกมัดไว้กับตอไม้หลุดออกแต่ก็ไม่พ้นจากกรงเล็บของเจ้าลายพลาดก่อนไม่ได้ในตาลกงถึงกับผงะเพราะเสือตัวใหญ่ไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะตั้งสติได้จึงยกปืนแก๊ปยิงแล้วว่ากระบอกปืนวิธีร่างของเสือ เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว ทุกคนเห็นชัดๆว่าเสือกระเด็นกระดอนไปตามแรงของปืนแต่รายนั้นมันลุกขึ้นยืนสะบัดขนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็ได้คาบเอาเหยื่อแล้วเดินหายลับไปต่อหน้าต่อตาในปานคงทุกคนตะลึงอาปากค้าง รุ่งเช้าทุกคนออกตามรอยเสือไปไม่มีแม้แต่รอยเลื่อนของเสือคงมีแต่เลือดของเหยื่อเท่านั้นเป็นพืชของนายพรานคงทำอะไรมันไม่ได้เลยหรอคราวเสือร้ายผมเข้าไปคาบสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านนายอำเภอและตำรวจได้ออกมาช่วยไล่ล่าเสือแต่ไม่มีวี่แววของเสือมาให้เห็นเลยจนกระทั่งออกพรรษาทุกคนลงความเห็นว่ามันคงแพงไปไกลแล้วไม่มาในหมู่บ้านนี้อีกแล้วต่างคนก็ดีใจที่จะได้ไม่ต้องขวัญหนีดีฝ่อกันอีกแล้วต่างประกอบอาชีพกันตามปกติหลังจากออกพรรษาไปได้ 3 วันลูกสาวของการคงเอาขนมไปให้ยายที่บ้านท้ายทุ่งขอลูกเสือคาบเอาไปกินร่องรอย เสือจนเหลือแต่กระดูกตับไตไส้พุงหายเกลี้ยงมันต้องเป็นเสือตัวเดียวกับตัวเดิมนั่นเองชาวบ้านมาแว้งของขวัญเสียกันอยู่อย่างหวาดผวาอีกครั้งและไม่กี่วันถัดมามีเด็กถูกเสือคาบเอาไปกินเป็ดไก่วัวควายก็เริ่มหายไปในที่สุดผมชาวบ้านก็อพยพหนีเสือกันจนเกือบหมดอยู่บ้านพากันทิ้งข้าวในนาที่กำลังออกรวงเหลืองอร่ามท่ามกลางความเงียบและน่ากลัวได้มีเกวียนเทียมวัวบรรทุกขายสินค้าผ่าสองสามีภรรยาวัยชราผ่านมาพบกับชาวบ้านชุดสุดท้ายที่เตรียมอพยพลูกเมียออกจากหมู่บ้านเพราะชายชราเห็นดังนั้นจึงได้ถามไถ่ได้ความมาว่า เสือร้ายแต่มาก่อกวนก็เหลือทนแล้ว เพราะเราทั้งสองก็เหมือนกันต้องรีบออกจากหมู่บ้านนี้ก่อนมืดค่ำเดี๋ยวจะไม่ทันการชายชราเด็กฟังแล้วก็พูดขึ้นว่านี่ก็เย็นเห็นจะไม่ทันแล้วเลยได้ขอร้องขอให้คุณอยู่แต่ในที่พักก็คืนนี้มีเสียงอึกทึกครึกโครมอะไรห้ามออกมาดูและส่งเสียงเป็นอันขาดอย่าได้ไปชวนพวกผู้หญิงมาทำอาหารเย็นไว้กินกันก่อนที่จะมืดสายตาก็ได้เข้าไปทำพิธีในเกวียนคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองแสงจันทร์สาดส่องให้เห็นอะไรในตอนกลางคืนได้เหมือนกับกลางวันเวลาผ่านไปเลยเที่ยงคืนลูกเด็กเล็กแดงในนอนหลับกันหมดแล้ว ยังคงมีแต่พวกผู้ใหญ่ที่คอยเงี่ยหูฟังว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นและทุกคนต่างก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงหายใจฟืดฟาดเหมือนเสียงวัวควายชนกันกลางแสงจันทร์นั้นควายสีดำเป็นมันร่ำ P 2 ตัวกำลังต่อสู้กับเสือขนาดมหึมาควายตัวหนึ่งนั้นถูกแรงตกจากเสือก็ดินกระโดดไปแต่ควายตัวโจรเขาคุยทันที เหมือนเสืองับคอควายที่กระเด็นนอกจากจะไม่รักให้ราคาหนังควายแล้วเสือยังถูกแรงสะบัดหลุดกระเด็นแต่ไม่ถูกซ้ำด้วยการขวิดของควายตัวด้านหลังในที่สุดเสือพยายามหนีหรอกควาย 2 ตัวร่วมเสือยังไม่ให้ตั้งตัวติดและในที่สุดควายตัวหนึ่งพุ่งชนร่างเสือกระเด็นลอยสูงไปตกบนหลังคากระท่อมจากนั้นมันก็ โดดหายไปยังไม่รู้ทิศทางและไม่มีใครรู้ว่ามันหายไปไหน ควาย 2 ตัวเหรอสะบัดหัวสะบัดหางเย็ดกับเกวนสองตายายแล้วร่างของควายทั้งสองก็หายวับไปจากสายตาที่จ้องมองอย่างใจจดใจจ่อรุ่งเช้าของชาวบ้านที่ยังเหลืออยู่ได้พากันดีใจได้เตรียมอาหารคาวหวานเพื่อไปทำบุญเพราะเรื่องร้ายๆแต่มันหายไปแล้วชาวบ้านไม่ลืมที่จะไปชวนสองตายายไปใส่บาตรด้วยกันหรือพวกชาวบ้านก็ได้พากันตะลึงอาปากค้างก้าวขาไม่ออกเพราะภาพที่เห็นที่หน้ากุฏิร่างของหลวงตานอนหายใจระรวยตามตัวมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งเลือดสดๆไหลออกมาจากบาดแผลตามร่างกาย โชกไปด้วยเลือดจมูกและปากก็มีเลือดไหลอะไรนั่นที่ตอนล่างตั้งแต่ท่อนเอวลงไปเป็นร่างของเสือลายพาดกอนเหลืองดำหางสั่นระริกแสดงว่าใกล้จะสิ้นใจเต็มทนแล้วสายตาของหลวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยเหมือนจะบอกว่ามีใครบ้างอยากจะตกในสภาพนี้ทุกอย่างเป็นกฎของกรรมโดยแท้เพราะเป็นพระแทนที่จะเจริญภาวนากับงูร่ำเรียนเจริญรัฐฉานวิชาผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้และเรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...