วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
ตำนานผีทหารญี่ปุ่นเฝ้าสมบัติ !!
สมัยก่อนตอนอยู่พัทลุงนั้นผมเป็นคนมีเพื่อนมากเพราะเป็นเด็กกิจกรรมทำให้มีโอกาสพบเจอเด็กจากโรงเรียนอื่นๆจากทั่วพัทลุงเองจาก ตรัง สตูล นครศรี สงขลา พอโตมาต่างคนต่างมีงานทำก็ยังคงติดต่อกันอยู่เพราะว่างๆก็นัดรวมกลุ่มกันไปนั่งกินตามร้านอาหารบ้านริมทะเลบ้างปูเสื่อนั่งกินกันมืดๆบ้างแน่ล่ะเพราะร่วมกันทีหนึ่งก็ต้องมีเรื่องคุยกันบ้างเรื่องสาระบ้างไร้สาระบ้างไม่ตามวัยแต่ที่แน่ๆเรื่องผีมันต้องมาเมื่อบรรยากาศมันมืดริมทะเลเป็นใจและนี่ก็คือเรื่องราวของเพื่อนสาวคนนึงที่เราประสบการณ์ความหลอนของถิ่นบ้านเกิด ของเธอผมจึงนำมาเล่าต่อในวงกว้างทอด 1 ที่เคยเป็นคนอำเภอควนขนุนจังหวัดพัทลุงบ้านอยู่ที่บ้านปากคลองหลายๆคนอาจจะบอกว่าไม่รู้จักแต่ถ้าบอกว่าหมู่บ้านนี้อยู่ใกล้กับวัดเขาอ้อหลายคนอาจจะร้องอ๋อเพราะวัดเขาอ้อนี้ในอดีตได้ชื่อว่าเป็นสํานักไสยเวทย์ที่มีชื่อเสียงมากขุนพันธรักษ์ราชเดชมือปราบโจรชื่อดังก็เคยเป็นศิษย์ของสํานักไสยเวทย์นี้แต่ผมไม่ได้จะมาเล่าถึงความขลังของวัดเขาอ้อแต่จะมาเล่าถึงตำนานลึกลับของวัดภูเขาทองที่อยู่ไม่ไกลกันที่ขี้ได้เล่ามาอีกทีนึงวัดภูเขาทองตั้งอยู่ติดกับเทศบาลบ้านปากคลองหากใครนั่งรถไฟผ่านสถานีปากคลองจะเห็นภูเขาหิน ปูนสูงโดดเด่นเป็นจอมปลวกหากหนูในแผนที่จะพบว่าเขาทองที่อยู่ตรงกับเขาอ้อในระนาบเหนือใต้แนวเดียวกันที่บอกว่าเธอได้ฟังเรื่องนี้มาจากแม่และแม่ก็ฟังมาจากทวดอีกทีนึงถึงตอนนี้ทวดก็เสียชีวิตไปแล้วเกี่ยวกับภูเขาลูกนี้ปวดเราไอ้แม่ของพี่ฟังว่าสมัยก่อนทวดปลูกบ้านสร้างครอบครัวที่บ้านปากคลองเก่าปากคลองที่ติดกับเขาตองเป็นปากคลองที่สร้างขึ้นใหม่มีทางรถไฟตัดผ่านในปี 2453 โทษของพี่เล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนแบบนี้เป็นป่าหญ้าทุ่งนาและทางเกวียนป่ารกในสุดลูกหูลูกตา หาความเจริญไม่เจอเหมือนเมื่อก่อนนั้นเขาก็ไม่ได้ชื่อเขาทองอย่างในปัจจุบันเป็นชื่อของอะไรเธอก็จำไม่ได้สมัยนั้นวัดเขาอ้อมีความเป็นเอกด้านไสยศาสตร์ขึ้นทั้งเสือและตำรวจและคนทั่วไปเดินทางมาฝากตัวเป็นศิษย์กันมากเพราะอยากหนังเหนียวแน่นอนตำรวจกับเสือย่อมไม่ถูกกันนี่พัทลุงนี่ในอดีตได้ชื่อว่าเป็นถึงเสือเสือจึงมากไม่ต่างกับสุพรรณอ่างทองสิงห์บุรีของภาคกลางพวกตำรวจและคนสุจริตไปเดินทางมาวัดเขาอ้อก็นอนอาศัยที่วัดเขาอ้อได้เลยเพราะไม่ต้องเกรงกลัวอะไรแต่พวกเสือทางนั้น จะไม่กล้านอนที่นั่นเพราะกลัวเจอตำรวจจะเข้าไปนอนที่บ้านปากคลองเก่าก็กลัวชาวบ้านจะไปแจ้งตำรวจพวกเสือนั้นได้ไปอาศัยถ้ำใหญ่ที่ดินเขาทองเป็นที่พักที่อยู่ไกลชั่วเคี้ยวหมากแหลกประสบการณ์ปลอดโปร่งคนก็จะลอกเข้ามาฝากตัวขอของดีที่วัดเขากลับไป โทษของพี่บอกว่าจะเอาบ้านปากคลองยุคนั้นรู้ดีพอดีทำใหญ่ตีนเขาลูกนั้นพี่ปุ๊กจนไปอาศัยใช้เป็นที่หลับนอนอยู่แต่ก็ไม่มีใครจะไปแจ้งตำรวจเราไม่อยากมีภัยมาถึงตัวได้แต่บอกกล่าวบรรดาลูกหลานที่เป็นหญิงสาวไม่ให้เข้าไปใกล้เขาลูกนี้เพราะอาจจะถูกพวกเสือชุดเอาไปได้ ปี 2453 การเข้ามาของทางรถไฟที่ตัดผ่านพัทลุงด้วยขุนนิพัทธ์เฉียดเข้ามาใกล้ๆเขาลูกนั้นนำความเจริญมาให้พวกโจรที่เคยอาศัยถ้ำใหญ่ตีนเขาก็ไม่กล้าอยู่เพราะกลัวทางการจับกุมพร้อมๆกับการเข้ามาตั้งสำนักสงฆ์ของพระธุดงค์รูปหนึ่งที่ยึดเอาตามใจตีนเขาเป็นที่จำวัดและปฏิบัติธรรม กองทัพญี่ปุ่นจู่โจมประเทศไทยเช้าตรู่ของวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ 2484 หรือยกพลขึ้นบกพร้อมกัน 7 จุด มีจังหวัดสมุทรปราการเท่านั้นที่ไม่มีการปะทะนอกนั้นปะทะกับคนไทยทุกจุด เคยจังหวัดประจวบชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลาและ ปัตตานี เมื่อรัฐบาลไทยยอมให้ญี่ปุ่นผ่านแดนทหารญี่ปุ่นขอใช้ทางรถไฟลำเลียงเข้าของอาวุธและสมบัติที่ยึดได้จากมลายาของอังกฤษขึ้นเหนือเพื่อไปสมทบกับกองกำลังที่จะบุกพม่า ว่ากันว่าญี่ปุ่นนั้นมีทองและเงินหลายโบกี้รถไฟฟรีจากหัวเมืองมลายูอันมั่งคั่งของอังกฤษส่งผ่านเมืองพัทลุงอยู่เดิมเนื่องจนถึงปี 2488 รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามพวกทหารที่อยู่นอกดินแดนตามพื้นที่ต่างๆก็ทำการฆ่าตัวตายไปซะมากและหนึ่งในจำนวนนั้นมีทหารญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มลำเลียงทองคำอยู่ในเขตพัทลุงรู้เช่นนั้นจึงเสาะหาสถานที่ที่จะเอาทองคำและสมบัติทั้งหมดก่อนเอาไว้ก่อนจนมารู้ว่าที่ภูเขาใกล้สถานีปากคลองมีถ้ำใหญ่อยู่ตีนเขาเข้าออกไม่ลำบากที่จัดการลำเลียงทองคำตอบ อดเอาไปไว้ในถ้ำก็จะระเบิดปิดปากถ้ำพร้อมกับขังตัวเองให้กลายเป็นผีเฝ้าทรัพย์อยู่ในถ้ำนั้นอันเป็นที่มาของชื่อเขาก็พูดกับพี่เล่าให้ฟังว่าชาวบ้านที่รู้เห็นเหตุการณ์นี้ก็เอาไปบอกกล่าวต่อๆกันไปถึงมีคนอยากรวยพยายามจะไปขูดหินที่ระเบิดปิดปากถ้ำอยู่แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเห็นน่ะเป็นต่างๆประกอบกับสำนักสงฆ์เกิดเจริญกลายเป็นเขตวัดคนที่คิดจะเข้าไปขุดทำได้ยากตัวของผมเองเคยไปปีนขึ้นเขาดองสมัยนานมาแล้วทางขึ้นได้ที่จะขึ้นไปจากเขตวัดชันมากๆแต่พอกินได้ที่ติดเขาจำได้ว่ามีร่องรอยเหมือนเป็นหินก้อนใหญ่แยกออกต่างหากจากตู้เห็นภูเขา เขาเหมือนมีใครเอามากองไว้ตรงตีนเขาและจะเป็นบันไดปูนประมาณไม่กี่สิบท่านหลังจากนั้นมีเชือกผูกระหว่างต้นไม้ให้จับเวลาปีนขึ้นไป พี่เล่าว่าในอดีตเคยมีคนพยายามอย่างมากที่จะขุดและหาทางเข้าไปในตาไม่ได้ เข้าไม่ได้มันหมายความร่ำรวยที่รออยู่แน่นอน แต่แม้จะพยายามเท่าไรก็ไม่สำเร็จเพราะเห็นมันหนักเกินไปแล้วสมัยนั้นชาวบ้านทั่วไปก็ไม่มีเครื่องมือที่ดีพอจะยกหินออกได้เคยมีการเอาร่างทรงและอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมในสมัยนั้นมานั่งทางในเพื่อหาทางเข้าแต่อาจารย์เหล่านั้นล้วนบอกว่าเข้าไปไม่ได้เจ้าของเขาหวงมากเพ่งกระแสจิตเข้าไปก็เจอผีทหารญี่ปุ่นยืนถือซามูไรจังก้าอยู่ในถ้ำพวกนั้นสังเวยตัวเองในการคว้านท้องตายกลายเป็นผีตายโหงวิญญาณแรงมากทางเข้ามี แต่ใครที่เข้าไปจะไม่มีโอกาสกลับออกมาอีกตลอดกาล พวกนักเลงอยากรวยแม้จะรู้แบบนั้นก็ไม่ได้กลัวเกรงเซ้าซี้หล่ออาจารย์และคนที่ผ่านมาส่งให้บอกทางเข้าให้ได้ท่านก็บอกว่าคุณยอดเขามีปล่องเล็กๆที่พอจะปีนลงไปในถ้ำได้อยู่เพราะพากันปีนขึ้นไปบนยอดเขาก็เจอกล่องนั้นจริงๆผมเองก็รู้เกี่ยวกับตำนานของทองภายหลังจากที่เคยไปปีนขึ้นเขาต่อเมื่อนานมาแล้วคนนั้นเขาทองสี่แยกออกเป็น 2 ยอดยอดนึงหันไปทางวัดเขาอ้อหากใครนั่งรถสายพัทลุงทะเลน้อยจะเห็นยอดด้านนี้มีทองปรับปลิวไสวอยู่ส่วนอีกยอดที่แจ้งไปทางทิศใต้ที่ยอดฮิตใต้นี้จะมีเจดีย์เล็กๆตั้งอยู่เขียนเอาไว้ที่ฐานว่าหาก ใครขึ้นมาสักการะเจดีย์นี้ทุกวันจะหายจากโรคภัยต่างๆที่เล่าต่อว่าพวกนักเลงเธอทางลงบนยอดเขาก็พากันปีนลงกล่องไปแต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นคนกลุ่มนั้นกลับออกมาอีกเลยคาดว่าจะไม่ขาดและการตายก็คงจะไปเจออะไรที่สยดสยองข้างล่างแน่ๆวันดีคืนดีก็มีคนเห็นแสงไฟเป็นดวงขาวๆลอยขึ้นมาจากเขาทองจริงสมัยทหารญี่ปุ่นระเบิดขำตัวเองตายอยู่ในถ้ำนั้นใหม่ๆมีชาวบ้านที่ทำไร่ทำนาติดเขาทองเล่าว่าตอนนั้นตะวันโพล้เพล้เดิมจะมืดต้นก็เก็บอุปกรณ์ทำนาเตรียมตัวเดินกลับบ้านเพราะเดินแบบตอบแบบค้าผ่านตรงจุดที่เคยเป็นปากถ้ำ ถึงตอนนั้นถูกระเบิดหินลงมาปิดแล้วมองไปตรงจุดนั้นก็ขาสั่นเยี่ยวแทบราดเพราะเห็นร่างทหารญี่ปุ่นหลายร่างบางร่างนั่งบางร่างยืนที่จำได้ติดตาก็มีร่างหนึ่งมองมาทางตนหน้าตาถมึงทึงเหมือนตาจะทะลักออกมาข้างนอกเบ้ายังไงอย่างนั้นสุดท้ายทนอยู่ไม่ได้ก็ทิ้งตอบช้าวิ่งกลับตัวปลิวก็บอกคนที่บ้านชวนคนอื่นกลับไปเป็นเพื่อนเพื่อเอาตอบช้าก็ไม่มีใครเอาด้วยเพราะกลัวล้วนต่างบอกว่าๆพวกผีทหารญี่ปุ่นในถ้ำปิดตายนั่นแหละที่ออกมาหลอกหลอนมันคงหวงสมบัติเลยออกมาหลอกไม่ให้มีใครเข้าใกล้สมบัติของมันมีเรื่องเล่าต่อกันอีกว่าเคยมีเณรองค์หนึ่งในว่า จบมาจากสำนักสายเขาอ้อมั่นใจตัวเองมีวิชาอาคมพอตัวอยากลองวิชาจะกำราบผีญี่ปุ่นที่ได้ปีนขึ้นเขาทองและปีนลงกล่องกล่องเดียวกับที่กลุ่มนักเลงลงไปแล้วหายไปทั้งหมดนั่นแหละชาวบ้านที่ไปด้วยคนนั่งรออยู่ตั้งนานแล้วก็เหมือนกลุ่มนักเลงเณรองค์นั้นพี่ลงไปแล้วพี่กลับขึ้นมาอีกเลยเช่นกันตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครหาญกล้าที่จะเข้าไปเอาสมบัติที่ว่านั้นอีกเลย
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น