วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
โรงเรียนหลอน !!
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ มันเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมาตอนนั้นผมกำลังศึกษาอยู่ม. ปลายและทางโรงเรียนจะจัดงานวันไหว้ครูได้ให้นักเรียนทุกระดับชั้นจะผ่านกันเองผมและเพื่อนๆอยู่ทำพานกันจนดึกเพราะต้องแบ่งเวลาไปช่วยกันจัดสถานที่ด้วย เวลาผ่านไปจนถึง 3 ทุ่มดอกไม้ที่นำมาจัดใส่พานเกิดหมดผมจึงชวนเพื่อนคนหนึ่งขึ้นไปเอาดอกไม้ที่ห้องด้านบนซึ่งอาคารที่กำลังนั่งจัดพานกันอยู่เป็นอาคารใหญ่ 3 ชั้นโดยทุกคนฉะนั้นจะผ่านกันอยู่ในห้องที่ชั้น 1 ส่วนดอกไม้ที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้อยู่บนชั้น 3 และขนาดที่ผมและเพื่อนเดินขึ้นมาจนถึงชั้น 2 หูก็ได้ยินเสียงเหมือนมีโต๊ะล้มของข่าวซึ่งมันดังมาจากชั้น 3 จึงหยุดพูดคุยกับเพื่อนว่านี่มันก็ดึกแล้วนะพวกคุณน้องยังไม่กลับกันอีกเหรอหรือกำลังมีเรื่องกันผมและเพื่อนรีบเดินไปบนชั้น 3 เสียงกรมคลังก็ยังคงดังอยู่ มันดังมาจากห้องด้านซ้ายมือจึงพากันเดินตรงไปที่ห้องนั้นซึ่งเป็นห้องที่อยู่ท้ายสุด เมื่อไปถึงที่หน้าห้องก็พบว่าประตูห้องถูกเปิดไวภายในห้องไม่มีใครอยู่เลยทั้งห้องมืดสนิทเพราะปิดหน้าต่างบาทโต๊ะและเก้าอี้ล้มระเนระนาดแล้วพวกเราก็เห็นสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเงาดำๆกำลังวิ่งวนอยู่รอบห้องน้ำมันชนกับโต๊ะจนเกิดเสียงดังโครมครามแล้วพุ่งชนราวกับว่าไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ ผมพยายามตั้งสติแล้วเพ่งมองดูดีๆว่าเงาดำๆมันคืออะไรกันแน่ ก็พบว่าเรานั้นเป็นนักเรียนหญิงคนหนึ่งรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมเถอะผมยาวประบ่าใส่ชุดนักเรียนแล้วมือทั้งสองข้างของเธอนั้นก็ถือพานสีเงินยื่นไปข้างหน้าผมและเพื่อนยืนมองอยู่หน้าห้องด้วยความงุนงงคิดว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังทำอะไรกันแน่แต่ผมลองสังเกตสีหน้าของผู้หญิงคนนั้นดูแล้วก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีลูกตามันเป็นสีดำเหมือนมีเงามืดปิดทับไว้แล้วปากของเธอนั้นก็ฉีกยิ้มกว้างจนดูน่ากลัวผมเริ่มขนลุกตังค์กลัวในสิ่งที่ตนเองกำลังยืนมองอยู่คิดในใจว่าเธอคนนี้เป็นตัวอะไรกันแน่ แล้วความรู้สึกบางอย่างก็บอกผมให้รีบหนีออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดจนขามันค่อยๆขยับถอยออกมาเองและตอนนั้นก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นจะวิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆชนโต๊ะชนเก้าอี้ที่กองอยู่กับพื้นจนกระเด็นกระดอนถ้าเป็นคนจริงๆคงทำแบบนี้ไม่ได้แน่ ขาคงเจ็บและช้ำไปหมดราวผมทนยืนมองสิ่งแปลกประหลาดที่อยู่ตรงหน้าไม่ไหว รีบกระโดดออกมาจากตรงนั้นทันที เราวิ่งไปที่บันไดให้เร็วที่สุด ผมได้ยินเสียงเพื่อนวิ่งตามหลังมาติดๆระหว่างที่กำลังวิ่งไปที่บันไดอยู่ๆก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาเพราะกลัวว่าเธอคนนั้นจะวิ่งตามหลังมาด้วย หลับหูหลับตาวิ่งแบบไม่คิดชีวิต พวกเราวิ่งจนลงมาถึงชั้น 1 พอมาถึงพวกผมก็นอนหอบหายใจกองอยู่กับพื้นเพื่อนคนอื่นๆจึงเดินก็มาถามด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อผมนอนพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ลุกขึ้นมานั่งเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาให้เพื่อนๆฟังแต่กลับไม่มีใครเชื่อสิ่งที่ผมพูดเลยสักคน ผมจึงท้ายทุกคนลองขึ้นไปดูแต่ก็ไม่มีใครสนใจเพราะทุกคนก็จะเสียเวลาเปล่าในระหว่างที่ผมกำลังยืนเถียงกับเพื่อนๆอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนอะไรสักอย่างเสียงนั้นมันดังมาจากตึกอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นตึก 3 ชั้นลักษณะเดียวกันเป็นอันตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามหันหน้าเข้าหาตึกผมและมีสนามฟุตบอลขั้นกลางอยู่ซึ่งหากจะว่าไปแล้วมันก็ห่างไกลกันมากเลยทีเดียว พอผมหันไปถามทุกคนว่าได้ยินอะไรใหม่ทุกคนก็ใส่หน้าผมจึงลองเดินออกไปดูเพียงคนเดียวก็เห็นว่าตึกอีกฝั่งปิดไฟไว้ทุกคนจึงทำให้ดูมืดทึบน่ากลัว แล้วสายตาของผมก็มองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดนักเรียนยืนอยู่บนระเบียงชั้น 3 แต่เราอยู่ๆผู้หญิงคนนั้นก็ทิ้งตัวลงมาจากชั้น 3 ร่างของเธอร่วงลงมาจนกระแทกกับพื้น ณวินาทีนั้นผมชอบยืนตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า สักพักผมจึงได้สติขณะที่กำลังจะตะโกนบอกเพื่อนว่ามีคนกระโดดตึกแต่ร่างนั้นครับค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืนขึ้นแล้วก็เดินตรงมาหาผมผมตกใจช็อครอรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวคิดในใจว่าต้องเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับที่เจอบนชั้น 3 แน่ๆจึงรีบถอยหลังกลับเข้าห้องแล้วปิดประตูจากนั้นผมก็หันมาบอกกับเพื่อนๆที่นั่งทำพานอยู่เรียกการปักสั้นๆว่า แต่กลับไม่มีใครสนใจผมเลยมันนั่งคุยกันสนุกสนานเฮฮากันเหมือนเดิมจังหวะนั้นนี่ประตูที่เพิ่งจะปิดไปเมื่อสักครู่อยู่ๆก็ดีเปิดออก จนผมตกใจสะดุ้งตัวงอแล้วสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้นก็คือครูเวรครูเวรจริงๆดันมาตอนนี้ แล้วครูก็เดินเข้ามาพูดด้วยสีหน้าเครียดว่าวันนี้พอก่อนกลับบ้านกันได้แล้ว ขณะที่ผมกำลังจะเล่าเหตุการณ์ที่พบมาให้ครูเวรฝากแต่ครูเวรครับรีบเดินออกจากห้องไปสิก่อน ทุกคนถึงช่วยกันเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้าน พวกเราขี่รถออกมาจากโรงเรียนซึ่งผมออกมาเป็นคันสุดท้ายเพราะเอามอเตอร์ไซค์ไปจอดไว้ด้านในสุดและมีเพื่อนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย 1 คนในขณะที่กำลังขี่รถผ่านหน้าตึกเรียนหลังหนึ่งผมก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังตามหลังมาจึงดูที่กระจกส่องหลังแต่ก็ไม่พบอะไรเห็นเพียงแต่ความมืดแต่เสียงดังนั้นยังคงดังไล่หลังมาเรื่อยๆความสงสัยผมจึงหันกลับไปมองก็ปรากฏว่าเห็นเป็นเงาดำๆลักษณะตัวเท่าคนวิ่งตามหลังรถมาติดๆ เหล่านั้นเพื่อมือทั้งสองข้างมาข้างหน้าเหมือนพยายามจะคว้าตัวของเพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายได้ ผมเห็นแบบนั้นก็ตกใจกลัวสุดขีด เพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายตกใจและสงสัยจึงถามผมว่าผมกับเพื่อนต้องเรียนมาแล้วสิ่งนั้นก็หายไป ผมงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นมาเพราะปกติไม่เคยเจอผีมาก่อนแต่ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยหลังจะไปส่งเพื่อนที่บ้านเสร็จแล้วผมก็ตรงกับบ้านในทันทีเมื่อกลับไปถึงบ้านคุณแม่ก็ทักขึ้นมาทันทีว่าไปทำอะไรมาหรือเปล่าทำไมตอนนี้ลูกขี่รถเข้ามาแม่เห็นเหมือนมีใครนั่งขี่คอมาด้วย เพราะผมได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกขนลุกตั้งไปทั้งตัวรีบเข้าไปไหว้พระในบ้านแล้วเข้านอนทันทีรุ่งเช้าคุณแม่ก็ปลุกผมขึ้นมาแล้วบอกให้ผมไปใส่บาตร จากนั้นก็ไปโรงเรียนแล้วผมกับเพื่อนก็เลยไปถามนักการภารโรงและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังก็ได้ความว่าพื้นที่ตรงนี้ก่อนที่จะนำมาสร้างเป็นโรงเรียนนานเคยเป็นที่ฝังศพเก่าเป็นป่ารกร้างมาก่อนแล้วก็ได้ทำการล้างป่าช้าและสร้างเป็นโรงเรียนขึ้นแต่คนทำพิธีล้างป่าช้าอาจจะทำให้ถูกวิธีเพราะทุกๆวันสำคัญและทุกๆกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจะมักจะมีคนพบเห็นอะไรแปลกๆอยู่เสมอ ปัจจุบันรับรอบๆโรงเรียนก็ยังคงมีป่ารกให้เห็นอยู่บ้างเพราะยังทางออกไม่หมดตั้งแต่สมัยที่ล้างป่าช้าแล้ว
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น