วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

คืนหลอน !!


       เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดตากถึงเป็นดอยที่เดินยากมีระยะทางไกลแล้วก็ฉันเป็นระดับต้นๆของประเทศคนเดินป่าจะรู้จักในฉายาภูเขาสีทองของจังหวัดตากเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อตอนปลายปีที่แล้วโดยปกติคุณเคเป็นคนที่ชอบเดินป่าแล้วดอยที่เกิดเหตุแห่งนี้คุณเก๋ก็เคยเดินขึ้นมาแล้วแต่ว่าครั้งแรกคุณพี่ไม่ได้ขึ้นมาดูทะเลหมอกตอนเช้าถึงได้กลับมายังที่นี่อีกครั้งหนึ่งก่อนหน้าที่จะออกเดินทางคุณ K ก็ได้ออกปากชวนเพื่อนๆที่เคยเดินป่าด้วยกันแต่ว่าไม่มีเพื่อนคนไหนสามารถไปได้ด้วยเลยเนื่องจากครั้งนี้คุณเคออกเดินทางในวันธรรมดา เพื่อนๆนั้นลางานไม่ได้คุณเคตั้งใจไว้ว่าจะเดินทางตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพุธช่วงใกล้ๆกับวันออกพรรษาด้วยความที่คุณเคนั้นคนชอบเดินป่ามากประจวบเหมาะกับงานที่ทำมาคนนี้เหนื่อยและได้วันหยุดในวันธรรมดาจึงตัดสินใจเดินทางเพียงลำพังในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์คุณ K ก็นั่งรถตู้เข้ากรุงเทพแล้วก็ต่อรถไปยังจังหวัดตากคุณเคถึงจังหวัดตากช่วงเช้ามืดวันจันทร์ประมาณซักตี 4 กว่าๆหลังจากนั้นก็กำลังมองหารถเพื่อที่จะเหมาไปอบตติดต่อเพื่อขอเช่ารถให้ไปส่งที่ตีนเขาแล้วก็รวมไปถึงลูกหาบที่จะเอาไว้ช่วยขนของอีกด้วยในระหว่างที่กำลังมองหารถอยู่นาน ก็มีพ่อค้าคนหนึ่งที่ขับรถกระบะมาจอดเทียบแล้วก็ถามคุณเอว่าจะไปไหนเหรอน้องคุณเคตอบกลับไปว่าจะไปอบตไปขึ้นดอยครับพี่ปอขาได้ยินแบบนั้นก็พูดว่าไปกับพี่ก็ได้นะน้องพี่จะไปทำบุญที่บ้านพอดีอยู่ไม่ห่างกันเดี๋ยวแวะส่งให้ถึงตีนเขาเลยคุณ K ไม่ได้ยินแบบนั้นก็นึกดีใจที่จะได้ไม่ต้องเสียค่ารถพอถึงที่หมายก็มีร้านข้าวร้านหนึ่งที่คุณเก๋จะแวะกินก่อนเดินป่า ตอนนั้นเวลาประมาณเกือบ 07:00 นแล้วคุณขี้กับพ่อค้ากระบะคันนั้นก็ลงไปสั่งข้าวทานอยู่ด้วยกันหลังจากนั้นพอค้าก็แยกตัวออกไปคุณเคจึงนั่งทานต่อแล้วก็สั่งข้าวกล่องเผื่อขึ้นไปทานระหว่างทางในช่วงเที่ยงด้วยเนื่องจากระยะทางที่ต้องเดินทั้งหมดประมาณสัก 9 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมงคนที่เคยเดินป่าแต่รู้ตัวดีกว่าต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้างปกติแล้วทุกครั้งที่มาเดินป่าคุณเคจะมีพระท้าวเวสสุวรรณห้อยติดตัวมาด้วยแต่ว่าครั้งนี้ลืมพกมาหลังจากที่พักทานข้าวเสร็จระหว่างที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอุปกรณ์คนนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แวะไปเที่ยวปตทเพื่อติดต่อหา ลูกค้าลูกข่างนั้นนอกจากจะช่วยขนของแล้วถึงรู้จักเส้นทางสามารถนำทางให้ได้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมคุณเคไม่รู้จะทำยังไงก็เลยลองถามกับแม่ค้าร้านขายข้าวไปว่าป้าครับแถวแถวๆนี้ผมพอจะหาคนนำทางหรือว่าลูกหาบได้ที่ไหนบ้างครับป้าเจ้าของร้านตอบอ้าวหนุ่มเคยมาที่นี่แล้วหรือยังคุณเคก็เลยตอบไปว่าเคยมาแล้วครับเมื่อปีที่แล้วปลาถึงพูดว่าถ้าเกิดเคยมาแล้วแค่เดินทางที่เป็นรอยธงเดินแค่นั้นก็ถึงยอดแล้วรอยทางเดินที่ว่าก็คือรอยทางเท้าที่เดิมซ้ำๆที่เป็นทางคุณเก๋ได้ยินแบบนั้นก็คิดในใจว่าตัวเองจะใส่ได้เหรอจะหลงทางไหม ครั้งนี้เดินทางคนเดียวซะด้วยไม่มีเพื่อนมาเหมือนปีที่แล้วแต่คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจได้ว่าเอาวะลองดูน่าจะไปได้ปีที่แล้วก็เดินขึ้นไปแล้ว เริ่มเดินขึ้นเขาเวลาประมาณสัก 8:30 เนื่องจากดูเวลาจากร้านข้าวก็เดินไปเรื่อยๆพร้อมกับใจที่รู้สึกไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่เนื่องจากเดินทางคนเดียวและเป้รวมไปถึงถุงนอนเต็นท์หม้อสนามเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากไม่มีลูกหาบช่วยระหว่างทางที่เดินขึ้นเขานั้นก็เดินบ้างหยุดพักบ้างถ่ายรูปไปเรื่อยๆคุณเคก้มหน้าก้มตาเดินไปตามรอยทางเดิน อย่านั้นล้มเป็นทางจนถึงลำธารน้ำจุดที่พักทานข้าวคุณเคจึงนั่งลงทานข้าวไปด้วยนั่งมองรุ่นนี้ไปแล้วก็คิดว่าทำไมไม่มีใครเดินตามขึ้นมาเลยไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวลูกค้าหรือชาวบ้านพวกหาของป่าได้แบบนี้ก็ได้แต่บ่นอยู่คนเดียวเกิดอาการเหงาหลังจากทานข้าวเสร็จเตรียมกรอกน้ำเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อผ่านไปได้สักครึ่งทางแล้วเวลาตอนนั้นกดเลยเที่ยงไปแล้วด้วยเดินต่อไปสักพักนึงเกินครึ่งทางแล้วคุณเคจึงนั่งลงพักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปนางเอาหลังพิงกับต้นไม้หรือความเงียบของปลารวมไปถึงการอยู่คนเดียวคนแก่แดดนี่ไปนิด นึงเนื่องจากเพลียเพราะเดินทางแบกของก็เยอะ ผ่านไปประมาณซัก 15 นาทีขนลุกขึ้นแล้วก็รีบเดินทางต่อต้องการไปถึงจุดกางเต็นท์ก่อนมืดลุกขึ้นไปเดินต่อไปได้สักประมาณ 1 กิโลเมตรถึงฟ้าที่สว่างจ้าก็เริ่มเคลิ้มเลยหน้าขึ้นมองดีๆไม่ใช่แม่ฝนไม่ใช่ร่มไม้เป็นเพียงแค่เมฆหนักเยอะถึงบางคล้าที่หายไป คนแก่ก้มหน้าก้มตาเดินต่อไปจนกระทั่งเจอทางแยกเริ่มไม่แน่ใจว่าเมื่อปีที่แล้วเลี้ยวไปทางไหนซ้ายหรือขวาในใจก็คิดฉันหลงทางไหมพยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วตอนที่มากับเพื่อนก็นึกออกว่าเพื่อนเคยพูดว่าตอนที่ใกล้ถึงยอดเขานั้นจะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้ายแต่ว่าตอนนั้นก็จำไม่ได้แม่นยำอะไรนะจึงตัดสินใจโดยมีทางแยกซ้ายมือเดินไปเรื่อยๆชมวิวไปด้วยจนกระทั่งสามารถเดินไปถึงจุดกางเต็นท์ได้จริงๆเวลานั้นเกือบ 16:00 นแล้วก็รีบการเป็นเตรียมเสบียงแล้วก็เริ่มตั้งหม้อต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปท้องฟ้านั้นก็เริ่มมืดลง เรื่อยๆตั้งแต่ตีนเขาเป็นต้นมาคุณแค่อยู่เพียงลำพังมาก็หลายชั่วโมงแล้วแต่ก็เหมือนฟ้ามาโปรดจู่ๆก็มีคนเดินขึ้นมาถึงจุดกางเต็นท์เป็นชาย 2 หญิง 2 มองเห็นแบบนั้นก็รู้สึกดีใจมากรีบตะโกนถามว่ากินด้วยกันไหมพี่คนกลุ่มนั้นยิ้มกลับมาให้คุณเคจึงถามต่อไปว่ามาจากไหนกันครับพี่ผู้หญิงคนนึงในกลุ่มก็ตอบกลับมาว่ามาจากกรุงเทพฯจ้าแล้วพี่ผู้หญิงอีกคนก็พูดขึ้นมาว่าน้องมาคนเดียวหรอไม่กลัวผีหรือไงคุณเกย์โดนด่าแบบนั้นก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาเล็กๆแต่ก็ยังพูดผิดหรอกกลับไปว่าก็กลัวเหมือนกันพี่แต่ว่ากลัวหลงทางมากกว่ากลัวผีแล้วก็หัว รอกันเบาๆคุณเคเริ่มรู้สึกว่าคนกลุ่มนี้นั้นถามคำตอบคำไม่ค่อยยิ้มแย้มมากนะคุณแค่ทิ้งลูกไปช่วยทั้ง 4​ กางเต็นท์​ แต่ว่าโอเคอยากนอนแล้วที่ตัดสินใจลุกไปที่เป็นข้างๆต่างก็พูดพี่กลุ่มนั้นว่าพี่ครับน้ำหมดขอน้ำสักขวดได้ไหมครับพี่ผมนั้นก็เดินไปหยิบมาให้ 1 ขวดโดยที่ไม่พูดอะไรคุณเครับมาแล้วก็กล่าวคำขอบคุณในระหว่างที่กำลังหันหลังเดินกลับเป็นตัวเองมีผู้หญิงอีกคนนึงก็พูดขึ้นมาว่าน้องพรุ่งนี้รีบกลับหรือเปล่าถ้าเกิดรีบไปก็ควรต้องรีบนะก่อนที่พระอาทิตย์ส่องแสงสว่างขึ้นเต็มดวงควรรีบกลับคุณเคได้ยินที่พี่พูดแบบนั้นก็ตอบไปว่าครับพี่ลองยิ้มให้แล้วก็เดินกลับไปนอนที่เป็นของตัวเองพอเข้าไปที่เต็นท์มุดตัวเข้าสู่ถุงนอนได้ก็เริ่มง่วงนึกขึ้นมาได้ว่าครั้ง นี้ไม่ได้อ้อยท้าวเวสสุวรรณมาด้วยถึงเริ่มสวดมนต์แผ่เมตตาขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาระหว่างนั้นคุณเก๋ก็ได้ยินเสียงเดินอยู่รอบเป็นเต็มไปหมดในใจก็คิดว่าน่าจะเป็นพวกพี่เต้นข้างๆนั่นแหละอาจจะเดินไปล้างตัวที่หลังๆเนื่องจากลำธารนั้นตั้งอยู่หลังเต็นท์ของเพนเนระหว่างที่คุณเคกำลังแผ่เมตตาอยู่นั้นก็มีเสียงคนคุยกันแต่ว่าฟังไม่รู้เรื่องจับสัตว์ไม่ได้หลังจากแผ่เมตตาเสร็จแล้วคนแกก็เตรียมตัวนอนตัวนอนอยู่ในท่าตะแคงขวาสักพักหนึ่งก็รู้สึกเหมือนมีไรผมมาแตะที่ปลายจมูกหลังไปทางด้านหูซ้ายเบาๆในใจคิดว่างานเข้าแล้ว กู้ข้อมูลในเต็นท์แน่นอนเสี้ยววินาทีที่คิดแบบนั้นสัมผัสเหมือนกับใครผมอะโดนที่หูอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วๆๆที่ข้างหูว่าขอบุญด้วยคนลักษณะการพูดนั้นเป็นภาษาเหนือคุณแค่ขนลุกไปทั้งตัวนอนนิ่งไม่กล้าขยับแล้วรวบรวมสติเริ่มสวดมนต์แผ่เมตตาอีกครั้งหนึ่งในใจอธิษฐานให้กับสัมภเวสีที่อยู่บริเวณนี้ด้วยทุกอย่างเงียบลงเวลาผ่านไปครู่ใหญ่คุณเคเริ่มเคลิ้มพร้อมที่จะหลับนอนท่าจะแพงกว่าอยู่นานเริ่มจะเมื่อยตัวกลับมานอนหงายระหว่างนั้นเหรอลืมตาขึ้นมามองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของคนแกก็คือมีชายคนหนึ่งนั่งกอดเข่าคู้ จงมองคนแก่อยู่บริเวณมุมเต้น ต้องช่วงปลายเท้าของคุณเคพอดีลักษณะที่เห็นเป็นรูปร่างมนุษย์ผู้ชายสีดำมืดไปทั้งตัวเห็นจากแสงที่ตะเกียงด้านนอก 2 เข้ามาหลังๆใช้เทศนาคนนั้นเพราะเห็นคุณแค่ลืมตาขึ้นมาแว๊บนึงเขาก็รีบพูดสวนกลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงเหมือนเดิมก็คือขอบใจขนาดแล้วชายคนนั้นก็ยิ้มให้คุณขี้ตกใจมากรีบหลับตาลงเอาถุงนอนปิดที่ตาแล้วก็นอนตัวสั่นคิดถึงท้าวเวสสุวรรณร้องขอท่านให้ช่วยลูกช้างด้วยจนเผลอหลับไปและทำเช้าวันต่อมาคุณเคตื่นขึ้นมาก็รีบวิ่งออกไปนอกเต็นท์เห็นแสงสว่างก็คิดจะไปที่จุดชม  ฟิวส์ต้องการดูหมอกรับกับบรรยากาศยามเช้าคุณเคมองไม่เห็นเต็นท์อีก 2 หลังของพี่ๆ 4 คนที่กลางอยู่ไม่ไกลตอนนี้หายไปแล้วในใจก็คิดว่าพี่พวกนั้นคงรีบเก็บเต็นท์ทั่วไปจุดชมวิวดูวิวเสร็จคงลงเขาไปเลยคุณเครีบเดินไปที่จุดชมวิวก็ไม่เห็นใครอื่นใดทั้งสิ้นไม่เจอพี่ 4​ คนจึงเดินกลับไปที่เต้นของตัวเอง ต้มน้ำดื่มกาแฟแล้วก็เก็บข้าวของเตรียมตัวลงเขาระหว่างนั้นคำพูดของพี่หนึ่งใน 4 คนก็แว๊บเข้ามาในหัวของคุณเคอีกครั้งหนึ่งว่าทำไมต้องให้คุณเคกลับก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเต็มดวงระหว่างนั้นก็เก็บของไปดื่มกาแฟไปจนกระทั่งพระอาทิตย์เริ่มขึ้นจนเต็มดวงคุณแค่เก็บเป็นแล้วก็เริ่มเดินลงจากเขาคุณค่อยๆเดินกลับทางเดิมทางที่เดินขึ้นมาแต่ปรากฏว่าไม่มีทางที่จะเดินกลับลงไปได้ไม่มีทางเท้าไม่มีตังค์คนเดินทางเรื่องอื่นก็ไม่มีตอนนั้นได้แต่คิดว่าหลงทางแล้วแน่นอนต้องหลงป่าแน่ๆแต่ก็ยังคงเดินมุ่งหน้าไปอีกสัก 2-3 ร้อยเมตรพยายามมองหาทางที่คุณตาระหว่างนั้นก็เริ่มกลัว ตัวที่ยกมือขึ้นไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าท่านเจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่เจ้าทางผีสางนางไม้โปรดช่วยลูกช้างออกจากป่าแห่งนี้ที่ลูกหลงทางอยู่ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มีเมฆบังพระอาทิตย์เหมือนกับตอนขามาท้องฟ้านั้นเริ่มมืดครึ้มจากเมฆที่เยอะมากบังพระอาทิตย์คุณเคตัดสินใจจะเดินกลับไปที่จุดกางเต็นท์

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...