วันสารทจีนหรือเทศกาลสารทจีนนับว่าเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนซึ่งตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของจีนลูกหลานจะได้แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษในการสรรหาของมงคลต่างๆมาเซ็นวายทำให้เทศกาลสารทจีนมีสีสันการจับจ่ายใช้สอยของเซ่นไหว้กันอย่างคับคั่ง เดือนนี้จึงเป็นเดือนที่น่ากลัวที่สุดตามตำนานจีนบอกว่าประตูนรกจะเปิดปล่อยดวงวิญญาณออกมารับของเซ่นไหว้ตามธรรมเนียมของไวน์จะประกอบไปด้วยชุดอาหาร 3 ชุด 1 ชุดแรกเป็นอาหารสำหรับไหว้เจ้าที่จะทำการไหว้ในตอนเช้าซึ่งมีทั้งอาหารคาวหวานขนมไหว้ที่นิยมก็คือผู้ชายขนมถ้วยฟูขนมปุยฝ้ายขนมขนมเปี๊ยะโดยเฉพาะขนมเข่ง ต้องมีจุดสีแดงแต้มไว้ตรงกลางเนื่องจากชาวจีนเชื่อกันว่าสีแดงคือสีแห่งความเป็นสิริมงคลนอกจากนั้นควรจะมีน้ำผลไม้เราจีบหรือกระดาษเงินกระดาษทองด้วยชุดที่ 2 ชั้นอาหารสำหรับไหว้บรรพบุรุษจะคล้ายกับอาหารไหว้เจ้าที่แต่จะเพิ่มอาหารที่บรรพบุรุษชอบเช่นหมูเป็ดไก่เป็นต้นและต้องมีน้ำแก่น้ำใสวางข้างชามข้าวสวยและน้ำชาตามจำนวนของบรรพบุรุษรวมไม่ถึงกระดาษเงินกระดาษทองโดยเชื่อกันว่าให้บรรพบุรุษนำไปใช้ในควบคุมของตน ชุดที่ 3 เป็นอาหารสำหรับไหว้ผีเร่ร่อนสัมภเวสีซึ่งหมายถึงดวงวิญญาณที่เร่ร่อนไม่มีญาติไม่มีลูกหลานกราบไหว้เรียกว่าเพราะเฮียติโดยจะไหว้นอกบ้านอาหารที่ไหว้ก็จะมีทั้งอาหารคาวหวานและผลไม้ที่สำคัญคือเหล้าขาวเส้นหมี่น้ำชาและกระดาษเงินกระดาษทองที่ใช้ไหว้ต่างๆเหล่านี้มีความหมายเพื่อความเป็นสิริมงคลซึ่งไก่หมายถึงความสง่างามยศและความขยันขันแข็งก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เป็ดหมายถึงสิ่งบริสุทธิ์ความสะอาดความสามารถอันหลากหลายปลาหมายถึงเหลือกินเหลือใช้อุดมสมบูรณ์หมูหมายถึงความอุดมสมบูรณ์มีกินมีใช้ปลาหมึกหมายถึงเหลือกินเหลือใช้เหมือนปลายาวหรือหมี่ซั่วหมายถึงอายุยืนยาวเม็ดบัวหมายถึงการมีบุตรชายจำนวนมากทั่วตัดหมายถึงแท่งเงินสาหร่ายทะเลดำหมายถึงความมั่งคั่งร่ำรวยดอกไม้หมายถึงการอวยพรให้ร่ำรวยผาสุกขนมเข่งขนมเทียนหมายถึงความหวานชื่นราบรื่นในชีวิตขนมไข่หมายถึงความเจริญเติบโตขนมถ้วยฟู หมายถึงความเพิ่มพูนรุ่งเรืองเฟื่องฟูขนมสาลี่หมายถึงความรุ่งเรืองเฟื่องฟูซาลาเปาหรือหมั่นโถวหมายถึงไหว้เพื่อให้เปาไช้แปลว่าห่อโชคกล้วยหมายถึงกวักโชคลาภเข้ามาและขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองหมายถึงความสันติสุขสันติภาพส้มสีทองหมายถึงความสวัสดีมหามงคล ที่มีตำนานหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า น้ำจิ้มอาหารทำอาหารเลี้ยงหรือทราบข่าวว่ามารดาของผู้ศรัทธาในบุญกุศลจึงพากันมากินอาหารที่บ้านแต่หาทราบไหมว่าในน้ำแกงจืดน้ำมันหมูเจือปนอยู่ด้วยการกระทำของมารดาผู้นั้นถือว่าเป็นกรรมหนักเมื่อตายไปจึงตกนรกอเวจีมหานรกขุมที่ 8 เป็นนรกขุมที่ลึกที่สุดในรับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสเมื่อผู้เรียนคิดถึงมันด่าก็ได้ถอดกายทิพย์ลงไปในนรกภูมิในรู้ว่ามารดาของตนกำลังอดอยากจึงป้อนอาหารแก่มารดาแต่ได้ถูกบรรดาภูตผีที่อดอย่าแย่งไปกินหมดและเมล็ดข้าวสุกที่ป้อนนะครับกลายเป็นไฟเผาไหม้ริมฝีปากของมารดา ชมพู่ออกความกตัญญูและสงสารมารดาที่ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสผู้เรียนได้เข้าไปพยายามลอกเป็นโยงบ่าต้นคอรับทดแทนมารดา แต่ก่อนที่ผู้เรียนจะถูกลงโทษหรือการนำร่างไปต้มในกระทะทองแดงพระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาโปรดไว้ได้ทันโดยกล่าวว่ากรรมใดใครก่อกรรมเป็นกรรมของผู้นำและพระพุทธเจ้าในหม้อคัมภีร์หิวหลังเสียงทุกทิศทุกทางช่วยผู้มีพระคุณให้หลุดพ้นจากการอย่างและทุกข์ทรมานต่างๆได้โดยที่ผู้เรียนจะต้องสวดคัมภีร์อยู่หลังและถวายอาหารทุกปีในเดือนที่ประตูนรกเปิดถึงจะสามารถช่วยมารดาหุบเขาให้พ้นโทษได้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาวจีนจึงได้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมาโดยตลอด
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น