วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561
กระท่อมหลอนกลางป่า !!
สวัสดีครับวันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์สยองขวัญ ซึ่งเป็นเรื่องราวของคุณปู่ของผมเอง มันเกิดขึ้นมา 50 ปีที่แล้วสมัยที่ท่านเป็นหนุ่มๆ ท่านชอบออกล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหาร และหล่อเลี้ยงครอบครัวเป็นประจำ ครอบครัวของผมอาศัยอยู่ในชนบท สมัยก่อนความเจริญก็ยังไม่เข้าถึงสักเท่าไหร โดยหมู่บ้านที่คุณปู่อาศัยอยู่นั้นเป็นหมู่บ้านติดชายเขาแถว อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ดังนั้นการทำมาหากินต่าง จึงต้องอาศัยป่าเป็นส่วนใหญ่ มีอยู่วันหนึ่งได้ออกล่าสัตว์เหมือนกับทุกๆวัน ช่วงนั้นเป็นหน้าฝน บรรยากาศในวันอากาศดีน่าออกหากิน ตกเย็นท่านก็ได้พกอาวุธประจำกายเป็นปืนแก๊ปยาวเดินมุ่งหน้าเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์หาอาหารด้วยความชำนาญ ท่านคุ้นชินกับป่าแถวนี้มาก เรื่องที่จะหลงป่านั้นสำหรับท่านเป็นไปไม่ได้เลย ตอนนั้นเป็นเวลาพบค่ำท่านก็เดินไปเรื่อยๆ เพื่อสืบหาร่องรอยของสัตว์ แต่หน้าแปลกยังไม่ที่ยังไม่พบร่องรอบของสัตว์เลยแม้แต่ตังเดียวปู่ก็เลยพูดว่า "วันนี้สัตว์ไปไหนหมดวะ" ปู่ผมก็ได้แต่บ่นไปและหาไปเรื่อยๆ วันนี้ ตอนนั้นไม่รู้ว่าดึกเท่าไหรแล้ว จู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ท่านเลยรีบเดินผ่านป่าไปอย่างรวดเร็ว พอเดินลงเขาได้สักพักก็มองเห็นตะเกรียงไปแบบหริบหรี่จากกระท่อม ที่อยู่ไม่ห่างไกลกันเท่าไหร ท่านจึงรีบเดินไป เพื่อขออาศัยหลบฝนชั่วคราวพอเดินเข้าไปใกล้กระท่อมหลังนั้น ก็เห็นคนแก่สองคนเป็นตากับยาย อายุราวๆ 75-80 ปี จึงกล่าวตากับยายนทั้งสองคนแล้วบอกว่า "ผมขอพักหลบฝนหน่อยได้ไหมครับ" ตาคนนั้นเลยบอกกับปู่ผมว่า "เข้ามาสิพ่อหนุ่ม" ว่าแล้วปู่ผมก็เข้าไปในกระท่อมอย่างรวดเร็ว ตาคนนั้นได้ถามปู่ผมว่า "พ่อหนุ่มมาจากไหนละ" ปู่ผมก็เลยตอบไปว่า "ผมมาล่าสัตว์ครับ แต่ยังไม่ได้อะไรเลย แถมยังต้องมาเจอฝนตกอีก" พอตาคนนั้นได้ฟังก็ยิ้มแล้วมองหน้ากับยายจากนั้นตาก็บอกกันปู่ผมว่า "ไม่เป็นไรหรอกพ่อหนุ่ม พักอยู่ที่นี้ก่อนแล้วค่อยกลับ" ดูแล้วท่าทางตายายสองคนนี้ก็ดูมีเมตตาแล้วพูดดีเป็นกันเองมาก ปู่ผมยังถามอีกว่า "นี้ใช่บ้านของตากับยายหรือป่าวครับ" ตาตอบกว่า "ป่าวหรอกนี้เป็นกระท่อมของส่วนฉันเอง" เราออกมาอยู่ที่นี้กันนานแล้ว สักพักยายก็ไปตักน้ำมาให้ปู่ผมดื่ม ปู่ผมตอบ "ขอบคุณครับ" เวลาผ่านไปไม่นานนักฝนก็เริ่มหยุดตก ปู่ผมก็ขอตัวลาตาและยายคู่นั้นแล้วเดินทางกลับ ปู่ผมก็บอกว่า "กลับก่อนนะครับตายาย ฝนเริ่มหยุดตกแล้ว ขอบคุณมากนะครับ" ตายายไม่ตอบอะไรแล้วมองหน้าปู่ผมแล้วก็ยิ้ม ปู่ผมบอกอีกทีว่า "ว่างๆจะแวะเอาของมาฝากนะครับตายาย" พอพูดจบก็เดินออกจากกระท่อมหลังนั้นไป หลายวันต่อมา ปู่ผมก็ได้มีโอกาศคุยกับเพื่อนบ้านใกล้กัน แล้วเล่าเรื่องว่าได้ไปพักอยู่กระท่อมหลังหนึ่งที่อยู่หลังเขาให้ฟัง เพื่อนบ้านก็ได้ถามว่ามันอยู่ตรงไหน ปู่ผมจึงบอกบริเวณที่พบกระท่อมของสองตายายให้ฟัง เมื่อเพื่อบ้านได้ยินก็ตอบส่วนกับมาว่า "กระท่อมผีละสิ สองตายายนั้นตายไปนานแล้ว" ปู่ผมได้ฟังแล้วก็ไม่เชื่อแล้วตอบกลับไปทันทีว่า "ผีที่ไหนกันคนชัดๆ พูดคุยกันอย่างปกติเนี้ยแหละ อย่ามาอำกูเลยไม่เชื่อหรอก" เพื่อนล้านก็เลยบอกว่าถ้าแกไม่เชื่อก็ลองไปดูอีกครั้งตอนกลางวันสิ แล้วปู่ผมก็ตอบว่า "เออ คอยดู กูจะไปดูให้รู้ไปเลย" แล้ววันหนึ่งปู่ผมก็ได้ไปอีกครั้ง คราวนี้ปู่ผมได้มีของฝากไปด้วยมีทั้งผลไม้และอาหารบางส่วนติดตัวไปเพื่อนำไปฝากตากับยาย แล้วปู่ผมก็ได้เดินลัดเข้าป่าไปตามทางที่เคยไปยังจุดที่พบกันกระท่อมนั้น พอเดินไปเรื่้อยๆก็มาพบจุดที่เป็นกระท่อม แต่สิ่งที่ทำให้ปู่ผมช๊อกที่สุดคือ กระท่อมที่ปู่เห็นนั้นกลับเป็นกระท่อมร้าง ทั้งเก่าและผุพัง มีแต่เถาวัลย์ขึ้นเต็มไปหมด ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะมีคนอยู่ได้เลย เมื่อปู่ผมเห็นดังนั้น แขนและขาก็เริ่มอ่อน มือไม้ไร้เรี่ยวแรง แล้วมีคำถามผลุดขึ้นในใจอย่างมากมาย พอตั้งสติได้ก็ออกจากที่นั้นโดยเร็ว พอกลับถึงบ้านก็นำเรื่องนี้ไปเล่าให้ชาวบ้านฟัง แล้วก็มีชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า "เขารู้เรื่องนี้ดี" เขาเล่าว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่นั้นมีตากับยายอาศัยอยู่ด้วยกันสองคน ทั้งสองมีอาชีพทำไร่ทำสวน มีอยู่วันหนึ่งได้มีโจรไปปล้นสองตายายนี้เพราะหวังในทรัพย์สินเงินทอง แต่แล้วก็ไม่ได้อะไรไปเพราะสองตายายนั้นยากจน ไม่มีทรัพย์สินใดๆให้โจร จึงทำให้โจรโกรธมากจึงฆ่าตายายนี้เสีย จากนั้นก็ทิ้งศพเอาไว้ที่กระท่อมหลังนั้น กว่าจะมีคนมาพบศพก็ขึ้นอืดแล้ว หลังจากนั้นกระท่อมก็ถูกปล่อยทิ้งร้าง มาจนทุกวันนี้พ่อได้ยินเช่นนั้นปู่ผมก็ได้ไปทำบุญ หลังจากนั้นเวลาที่ปู่ออกไปล่าสัตว์ก็จะไม่ผ่านไปเส้นทางนั้นอีกเลย และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น