วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สามล้อผีสิง!!


          ในปีพ.ศ 2521 เราบวชเป็นสามเณรน้อยที่วัดป่าศาลาวิเวกอำเภอเมืองจังหวัดมุกดาหารเป็นวัดป่าที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองถนนหนทางเปล่าเปลี่ยวไฟฟ้าไม่สว่างห่างไกลจากผู้คนในรถและผู้คนส่วนมากไม่ค่อยกล้าเข้าไปที่วัดนั้นช่วงกลางคืนยิ่งไม่มีคนเลยเราและเพื่อนสามเณรอาศัยอยู่ที่วัดป่าเรา 5-6 ลูกทุกๆเย็นจะต้องเดินไปเรียนที่วัดศรีบุญเรืองตำบลในเมืองตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นครึ่งถึง 2 ทุ่มเป็นประจำเพราะเลิกเรียนพวกเราก็เดินกลับวัดถ้าเลิกไม่พร้อมกันเราเลิกก่อนก็จะเดินกลับลำพัง รู้สึกเฉยๆมากกว่ากลัวก็เดินจนชินแล้วเส้นทางระหว่าง 2 วัดนั้นมีสามล้อปั่นรับจ้างสำหรับผู้ต้องการความสะดวกอีกด้วย อยู่มาวันหนึ่งเราได้ทราบข่าวว่ามีรถบรรทุกสิบล้อชนคนปั่นสามล้อตายคาที่ชาวบ้านเชื่อว่าคนที่ตายโหงต้องนำศพไปฝังที่วัดจนครบ 5 ปีถึงจะขุดขึ้นมาเผาดังนั้นทุกคนถีบสามล้อเก๋งถูกนำไปฟังใกล้ๆกุฏิที่เราอาศัยอยู่ขนาดนั้นกุฏิในวัดป่าจะสร้างห่างกันมากและข้อบังคับของทางวัดก็คือห้ามอยู่ด้วยกันคือกุฏิ 1 หลังจะต้องอยู่คนเดียวขึ้น 1 หลังจากเลิกเรียนเราติดธุระกับเพื่อนสามเณรในวัดศรีบุญเรืองพูดคุยธุระกับเพื่อนเกือบ 4 ทุ่มเดินทางกลับไปยังวัดป่าช่วงนั้นถือว่าเป็นช่วงเวลาดึกมากแล้ว ก่อนถึงวัดป่าลาว 1 กิโลเมตร เราเดินมาเรื่อยๆท่ามกลางความมืดสลัวสองข้างทางมีแต่เสียงหมู่ไม้ดำทะมึนตีนเสียงนกร้องลมพัดไม้วิวสวยในวังเวงใจยิ่งนักเราปลอบใจตัวเองก็คงไม่มีอะไรเพราะเคยเดินไปมาคนเดียวบ่อยครั้งขนาดนั้นเองก็ได้ยินเสียงเหมือนคนปั่นสามล้อตามมาข้างหลัง เมื่อมาแต่ไกลตัวก็มองเห็นสารถีมีผ้าโพกหัวสีแดงสะพายย่ามใบโตด้านหลังมีมีดเล่มใหญ่เขาเอ่ยปากทางขึ้นว่าเณรจะเข้าไปในวัดป่าใช่ไหมเราก็ตอบกลับไปว่าใช่แล้วโยมแต่แล้วใจ 1 คนนึกไปถึงคนที่สามล้อที่ถูกรถสิบล้อชนตายแม้เดี๋ยวนี้ศพก็ยังฝังอยู่ในวัดคนปั่นสามล้อเลยชวนเราขึ้นรถแต่ก็ปฏิเสธไปบอกว่าจะเดินกลับเองเพราะไกลจนถึงวัดแล้ว แต่เขาขยันขยะถึงเราใจอ่อนตัดสินใจขึ้น สามล้อจนได้ตอนที่นั่งอยู่นั้นก็นึกสงสัยว่าเวลาเกือบ 5 ทุ่มแล้วสามล้อคนนี้จะเข้าไปในวัดทำไม แต่ก็ไม่กล้าถามได้แต่คิดในใจตลอดทางเราไม่ได้พูดจาอะไรกันเลยจนใกล้จะถึงจุดหมายเรารู้สึกว่าสามล้อค่อยๆช้าลงช่วงนั้นมีต้นไม้ปกคลุมแสงสว่างจากไฟฟ้าก็ไม่มีมีแต่แสงสลัวจากดวงจันทร์ในความเงียบเชียบเท่านั้นมันถึงหน้าคนตีคนถีบสามล้อถามว่าถึงกุฏิหรือยัง เราก็ตอบว่าถึงแล้วเราก็ถามไปว่าเอาเท่าไรโยม เขาบอกว่าไม่เอาหรอกสามเณร ขนาดที่ลงรถแล้วมองไปที่ใบหน้าของแต่ละทียามดึกก็เห็นใบหน้าเขาดำปี๋เหมือนไม่ใช่คนเล่นเอาใจระทึกแต่ก็ตอบเขาไปว่าขอบใจมากนะคุณโยมก่อนจะเดินขึ้นกุฏิ​ รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้เหลียวมองไปยังคนปั่นสามล้อที่หันหลังกลับคุณพระช่วยก็ปั่นสามล้อไปที่หลุมฝังศพแล้วก็เลือนหายไปเราสะบัดหน้างงๆไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่าหรือเป็นเพียงภาพลวงตาก็ได้เพราะขนาดนั้นดึกมากแล้วกับพี่แสงจันทร์ส่องสลัวเท่านั้นเหตุการณ์แปลกประหลาดในคืนนั้นเราก็เก็บเงียบไม่ได้เล่าให้เพื่อนๆหรือผู้อื่นฟังแม้แต่คนเดียวรุ่งขึ้นเป็นวันพระขึ้นนั้นเราก็ไปเรียนที่วัดศรีบุญเรืองตามเคยขากลับก็กลับคนเดียวเหมือนคืนก่อนปรากฏว่า ได้พบกับสามล้อคนเก่าและเหตุการณ์ก็เหมือนกับคืนแรกทุกประการเราอย่างแน่ใจแล้วว่าโดนผีสามล้อหลอกหลอนเขาจริงๆถึง 2 คืนติดๆในที่สุดนำเรื่องขนหัวลุกไปเล่าให้เพื่อนๆนะเจ้าอาวาสฟังท่านอาจารย์จึงแนะนำให้เรากรวดน้ำแผ่เมตตาให้กับวิญญาณของ สามล้อผู้นั้นเราก็ปฏิบัติตามคำแนะนำของท่านแต่โดยดีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเราก็ไม่ได้พบกับ สามล้อนั้นอีกเลย​

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...