วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ถนนสายเปลี่ยว!!


        หลังจากช่วงวันหยุดผมได้กลับบ้านในจังหวัดหนองคาย ขากลับก็ตั้งใจว่าจะกลับก่อนเที่ยววันแต่ผมพลาดเพราะอยู่คุยกับแม่แฟนก่อน คุยกันนานมากจนเวลาล่วงเลยมา 1 ทุ่มกว่าผมจึงขอตัวกลับกรุงเทพ เพราตอนเช้าผมจะต้องไปทำงานต่อ หล้งจากลำลากันเสร็จเรียบร้อย ผมก็รีบขับรถกลับกรุงเทพ พอขับมาได้สักระยะหนึ่งฟ้าก็เริ่มมืดมาก บริเวณสองข้ามทางมีแต่ต้นไม้ แต่ผมไม่ได้สนใจอะไรเพราะผมจะต้องกลับไปให้ทันทำงานของวันพรุ่งนี้ตอนเช้า จนเวลาล่วงเลยไปดึกมาก เวลานี้ไม่ค่อยมีรถวิ่งไปวิ่งมาเหมือนช่วงหัวค่ำ ไปส่องทางก็จะมีเพียงตรงจุกกลับรถเท่านั้น ระหว่างที่ผมขับรถไปผมก็ร้องเพลงไปด้วย และสายตาของผมก็ไปสะดุดกับแสงสีขาวข้างทางแต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ขับต่อไปตามปกติ พอขับมาได้สักพักผมก็เห็นผู้หญิงผิวดำรูปร่างอวบมาก ใส่เสื้อสีข่าวเดินอยู่ข้างทางฝั่งเดียวกันแต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เพียงแค่คิดว่าคงเป็นชาวบ้านแถวๆนั้น ผมก็ขับรถผ่านไป  จนไปได้อีกระยะหนึ่งก็เจอกับผู้หญิงคนเดียวอีก ตอนนั้นในฝจผมเริ่มคิดแล้วว่า เธอคนนั้นมาถึงตรงนี้ก่อนเราได้ยังไงมาทางไหน ตอนนั้นผมก็สงสัยก็คิดในใจว่าถ้าเจออีกจะจอดถามเลยว่ามาทางไหนมีทางลัดตัดมาตรงนี้ได้หรอ ตอนนั้นไม่มีเรื่องผีอยู่ในสมองเลย แม้แต่น้อยพอผมขับผ่านมาได้อีกสักพักหนึ่ง คราวนี้ผมก็เจอคนนั้นอีกจริงๆจึงตัดสินใจจอดเรถเพื่อถาม แต่ผมใกล้จะถึงตัวคนนั้น เธอก็หันหน้ามาทางผมอย่างรวดเร็ว ผมตกใจมากเมื่อได้เห็นใบหน้านั้น เพราะใบหน้าของเธอมันเละมาก และมีสายตาที่แดงกล่ำ ด้วยที่ผมตกใจผมจึงหักรถหนีจากเลนซ้ายออกมาเลนขวาทันที จังหวะนั้นสายตาผม ก็เลือบไปเห็นกระจกมองข้างพอดี จึงเห็นว่ากำลังมีรถบรรทุกคนหนึ่ง วิ่งถามหลังมาด้วยความรวดเร็ว และดวงไฟจากรถบรรทุกก็ส่องสว่างเต็มถนนไปหมด พอมารู้ตัวที่อีกผมก็มาจอดอยู่ข้างทางแล้ว ผมคิดว่าดวงผมยังดีอยู่ จึงหักรถออกมาได้ทัน และจอดตรงข้างทาง ผมหันหลังกลับไปจุกที่ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ ก็ปรากฏว่าตรงนั้นมันไม่มีใครยืนอยู่เลย มีแต่ความมืดและความว่างเปล่า ผมรีบขับรถกลับไปยังกรุงเทพ พอรุ่งเช้า ตรงจุดที่ผมเจอผู้หญิงชุดขาวครั้งสุดท้าย บริเวณนั้นก็มีชาวบ้านมามุงอยู่ มีกู้ภัยและตำรวจยืนเต็มไปหมด ข้างทางมีรถบรรทุก สภาพเหมือนถูกชนที่ด้านหน้าจอกอยู่ ห่างไปอีกไม่ไกลก็มีรถเก๋งคันหนึ่ง จอดอยู่ในสภาพที่พังยับเยิน และมีชายคนหนึ่งร่างของเขาถูกอัดติดกับซาดรถ ตอนนี้ผมรู้สึกตัวเบามากเหมือนกับลอยได้ ร่างกายของผมนั้นโปรงแสง สักพักก็มีชายร่างดำตัวสูงใหญ่ใส่ชุดโบราณมาลากตัวผมไปจากนั้นทุกอย่างก็มืดไปหมด และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...