วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ผีปอบ !!



          เมื่อ 3 วันที่ผ่านมาบังซูส และครอบครัวได้เจอเรื่องราวแปลกๆที่ในวันแรกเขาได้พบเจอกับวิณญาณของคนที่เขาคิดว่าเป็นบรรพบุรุษของเขา มันทำให้เขาและครอบครัวถึงกับขนลุกไปตามๆกัน หลังจากนั้นในวันที่ 2 ลุงกับพ่อของเขากำลังตั้งศาลใหม่อยู่นั้น คุณบังซูส แม่และน้าของเขา ก็ได้เจอกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญอยู่ตรงบริเวณศาลนั้น และในวันที่ 3 หลังจากกลับมาจากตลาดเมื่อคุณบังซูสกลับมาถึงบ้านพร้อมกับพ่อและป้าของเขาก็เห็นว่าพนักงานส่งของได้ไปติดตั้งทีวีเสร็จแล้ว พนักงานทั้ง 3 คนได้บอกว่ามีคนที่อยู่ในบ้านอนุญาติให้เข้าไปได้ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่มีใครอยู่เลย จนมาถึงวันที่ 4 เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อเรามาอ่านพร้อมๆกันเลยครับ เสียงจิ้งหรีดร้องในยามค่ำคืนและสายฝนที่ค่อยๆตกลงมาบรรยากาศ คืนนี้ช่างสดชื้นได้ความเป็นธรรมชาติจริงๆแต่ก็ยังแอบซ่อนความวังเวงอยู่ มีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์รำไรเท่านั้น ที่ส่องแสงให้เห็นเพียงน้อยนิด เสียงพูดคุยกันก็ดังอย่างสนุกสนานพร้อมกับเสียงหัวเราะ ใช่ครับเสียงที่ดังนั้นเป็นเสียงของครอบครัวผมเอง กำลังทานอาหารแล้วก็คุยเรื่องราวในอดีตกัน แรกๆก็สนุกอยู่และครับ แต่ไปๆมาๆวนเข้าเรื่องผีสะงั้น คนที่เล่าจะเป็นใครไปไม่ได้ก็พ่อของผมเองนั้นแหละครับ ดูทีแรกเหมือนจะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลยสะเท่าไหร หรือพ่อผมไม่อยากจะรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆที่มันไม่น่าจดจำหรือป่าว ผมคิดในใจพอผมได้เล่าว่าเมื่อครั้งหนึ่งตอนที่พ่อยังเด็ก พอได้ซักเสื้อนักเรียนแล้วตากเอาไว้หน้าบ้าน พอตื่นเช้ามาก็มักจะมีคราบเลือดติดที่เสื้อนักเรียนเป็นประจำ เหมือนกับว่ามีใครมาเช็ดมือหรือเช็ดปากอะไรอย่างนั้นเหตุการณ์เป็นแบบนี้มาบ่อยครั้งจนปู่แนะนำว่าถ้าอย่างรู้ว่าใครมาเช็ดให้ต้มน้ำเลือดแล้วใส่เสื้อนักเรียนลงไปในหม้อสิ เดียวไอคนที่เช็ดก็เดินมาหาเองและ พอผมไม่รอช้าครับรีบตั้งหม้อน้ำจนเดือด แล้วใส่เสื้อนักเรียนที่เปื้อนเลือดลงไป ไม่ทันไรก็มีหญิงแก่คนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับเอามือสองข้างกุมที่ปากแล้วร้องด้วยความเจ็บปวด "โอ้ยยย  โอ้ยยย" แล้วหญิงแก่คนนั้นก็พูดว่า "มึงเอาเสื้ออกเดียวนี้นะกูร้อนปากเว้ย" เมื่อพ่อเห็นอย่างนั้นก็ตกใจแล้วเอาเสื้ออกกจากน้ำที่เดือด แล้วหญิงแก่คนนั้นก็เดินจากไปพร้อมกับเหลียวหลังมามองด้วยหางตา ทิ้งความสงสัยให้พ่อผมยืนงงอยู่อย่างนั้น จนปู่เดินมาบอกว่า นี้ไงคนที่มันมาเช็ดเสื้อเองทุกๆคืนมันเป็นปอปเขาลือกันอย่างนั้นหลังจากนั้นเสื้อนักเรียนของพ่อผมก็ไม่เคยมีคราบเลือดอีกเลย และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...