วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ต้นก้ามปูเฮี้ยน !!


       ผมเป็นประธานนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบทำกิจกรรมมากทำให้ผมต้องมาอยู่มหาวิทยาลัยจนดึกทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งผมมีประชุมนักศึกษาเกี่ยวกับการรับน้องใหญ่ของทางมหาวิทยาลัย กว่าจะประชุมเสร็จก็ 3 ทุ่มเศษแล้ว ผมคิดว่ารถเมย์สายที่จะกลับบ้านน่าจะหมดแล้ว มิหนำซ้ำผมยังรู้สึกอ่อนเพลียจากการประชุมที่ยาวนาน ไม่อยากเดินทางกลับบ้านที่ค่อนข้าวไหลพอสมควร จึงพูดกับรุ่นน้องผู้ชายที่สนิทกันชื่อ สุ ผมก็พูดว่า สุวันนี้พี่ขอนอนห้องเองนะซึ่งสุก็ตอบตกลงเพราะคืนนี้แฟนของสุไม่อยู่ จึงสะดวกที่จะให้ผมพัก เพราะรุ่นพี่เพื่อนรุ่นน้องในห้องประชุมได้ยินว่าผมจะค้างใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย จึงชวนกันไปนั่งสังสันกัน แม้ว่าผมจะเพลียมากแต่ก็ปฏิเสธไม่ลง เพราะปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว หลังจากที่ผมอาบน้ำให้ห้องของสุเสร็จ ตอนนั้นก็เป็นเวลาเกือบ 5 ทุ่ม ผมออกไปนั่งที่ร้านอาหารใกล้ๆหอพักของสุ ซึ่งร้านนี้จะมีต้นหล้ามปูต้นใหญ่อยู่กลางร้าน ผมเลือกโต๊ะที่ใกล้กับห้องน้ำเผื่อตอนที่อยากเข้าจะได้สะดวก เพราะกลุ่มเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องมากันครบเราก็เริ่มสั่งอาหาร สั่งเครื่องดื่มมาทานกัน ผมจะไม่ดื่มเยอะจนเมาเพราะจะต้องตื่นไปเรียน พวกเราดื่มกันไปเพลินๆ เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงคืนกว่าแล้วเห็นลูกค้าโต๊ะอีกเริ่มทะยอยกลับจนเหลือแค่โต๊ของผม พวกผมบอกกันว่าสักพักก็จะได้เวลากลับเหมือนกัน พี่ต้นซึ่งเป็นรุ่นพี่ของผมและเพื่อนที่เป็นผู้หญิงชื่ออ้อมทั้งสองคนนี้มีสัมผัสพิเศษ ชอบเห็นอะไรแปลกๆเช่นเดียวกันกับผม พี่ต้นวางแก้วลงบนโต๊ะหันซ้ายหันขวาแล้วถามผมว่า ร้านนี้มีคนอยู่อีกหรอวะ ผมได้แต่สายหน้าแล้วบอกว่า พี่เมาแล้วละจะมีใครละพี่มีแค่เรากับพนักงานรอเก็บโต๊ะเรานี้แหละ สักพักพี่ต้นก็พูดอีก สงสัยพนักงานมันลากเก้าอี้มันเสียงดังชิบหาย ผมก็มองไปรอบๆแต่กับไม่มีใครเดินเลยสักคน พนักงานในร้านก้มหน้าเล่นโทรศัพท์กันหมด ตอนนั้นผมคิดว่าพี่ต้นคงจะเมาแล้ว จึงหูแว้วไปเองเลยไม่คิดอะไรมาก แต่ผมก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังนั่งอยู่บนกิ่งของต้นก้ามปูแล้วมองมาที่โต๊ะของพวกเรา ความรู้สึกที่ว่านี้มา มา หาย หายมันดูแปลกๆชอบกล พอผ่านไปได้สักพักพี่ต้นก็ทำหน้าสงสัยอยู่ พี่ได้ยินนะเสียงเหมือนมีคนโยนเก้าอีก แต่ผมยังไม่ทันได้พูดอะไร อ้อมก็บอกว่าแกฉันปวดหัวจะทนไม่ไหวอยู่แล้วอ้อมก็เริ่มร้องไห้ เพื่อนผู้ชายชื่อสิงห์ก็พูดขึ้นมาว่า ไหนมีอะไรที่ไหนบ้าบอกันไปหมดแล้วประสาทหรือป้าว ผมเห็นสถานการณ์ชักไม่ดี เลยเรียกพนักงานมาคิดเงิน แล้วก็บอกว่าใครจะไปล้างหน้าหรือเข้าห้องน้ำก็รีบไปจะได้กลับกัน ตอนนั้นแต่ละคนเริ่มส่างเมาเพราะเห็นท่าทีของพี่ต้นและอ้อม จึงไม่มีอารมณ์จะกินกันต่อแล้ว จ่ายเงินให้พนักงานเสร็จผมก็เดินตามเพื่อนไปเข้าห้องน้ำด้วย ระหว่างทางที่จะเดินไปห้องน้ำจะต้องผ่านต้นก้ามปูซึ่งบนต้นไม้จะมีหิ่งหรือนั่งร้านขนาดเล็กที่อยู่สูงเลยหัวของผมไปนิดหน่อยเอาไว้วางของไหว้เจ้าที่ เมื่อผมเห็นก็คิดว่าแปลกที่ไม่ทำศาลไว้แต่กลับทำหิ่งเอาไว้แทนแล้วผมก็เดินไปเข้าห้องน้ำ พอล้างหน้าเสร็จในตอนที่กำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะก็ผ่านมาตรงต้นก้ามปูที่ทำให้ผมแทบช็อก เพราะผมเห็นเท้าคนห้อยลงมาเป็นท้าวขนาดใหญ่ขาวซีด ผิวเหี่ยวเหมือนเป็นเท้าของชายแก่ๆ หันเท้าไปยังต้นก้ามปู ผมตกใจร้องอุทานเสียงดัง พร้อมกับเงิยหน้าขึ้นไปบนต้นไม้ แต่แล้วก็ต้องร้องอีกครั้ง เพราะเห็นมือเหี่ยวๆสองข้างวางอยู่บนหิ่งที่เองไว้วางของเส้นไหว้ ผมไม่รอให้เห็นทั้งตัวรีบก้มหน้าลงมาแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งมุ่งหน้าออกไปจากร้าน ในใจคิดว่ากูไม่อยู่แล้วโว้ยย คนที่โต๊ะเมื่อเห็นผมรีบร้อนออกไปก็เลยถามผมว่า เห้ยจะไปไหนรอก่อนเว้ย ผมตะโกนกับว่า เออๆ เจอกันหน้าหอ แล้วค่อยมาแก้ตัวที่หลังว่าง่วงเลยรีบกลับ พอออกมาหน้าร้านผมคิดว่ามันน่าจะใกล้จากต้นก้ามปูแล้ว จึงรวบรวมความกล้าแล้วหันกลับไปมองอีกครั้ง และก็ต้องตกใจจนเข่าแถวซุด เพราะผมเห็นขานั้นกำลังยืนอยู่บนโต๊ะที่พวกเรากินกัน มันมีแต่ขาไม่มีตัว ซึ่งเพื่อนคนอื่นๆไม่มีใครเห็น แล้วเพื่อนก็ต่างกันลุกออกมาจาดโต๊ะ ยกเว้นพี่ต้นกับอ้อมที่วิ่งหน้าตาตื่น ตามผมออกมาจากร้านติดๆ คาดว่าทั้งสองก็คงจะเห็นขานั้นเหมือนกัน ทุกวันนี้ผมไม่กล้ากลับไปกินร้านนั้นอีกเลยเพราะกลัวว่าจะเจอเหตุการณ์แบบวันนั้นอีก และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...