วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ถนนหลอน !!


            เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นมาได้ไม่นานมานี้หนูชื่อแอนและมีเพื่อนอยู่ 3 คนชื่อ อาย ตูน และโย คนชื่อโยนั้นเป็นสาวประเภทสอง เย็นวันหนึ่งพวกเรานัดรวมตัวกัน จะไปดื่มสังสรรค์ที่บ้านของอายตูนเดินทางไปบ้านของอายแล้ว ส่วนเราขี่มอเตอร์ไซต์ไปกับโยเพราะมันขี่รถไม่เก่งก็เลยไปด้วยกัน ทางที่จะไไปบ้านของอายนั้นสามารถไปได้สองทางคือถนนใหญ่กับทางสัดเราคิดว่าถนนใหญ่มีรถเยอะมันอันตราย ก็เลยตัดสินใจว่าจะไปทางลัดดีกว่าเราขี่ไปเรื่อยๆจนถึซอยๆหนึ่ง ตอนนั้นก็มืดมากแล้วในซอยนั้นไฟข้างทางก็ไม่มีเราจึงถามโยว่า จะได้ดีหรือป่าวทำไมมันมึดจังไม่มีไฟเลยนะมึง โยก็ตอบกลับมาว่า เออๆ รีบไปเถอะน่ากูหิวอยากดื่มแล้วมึงจะกลัวอะไรวะ เราก็เลยพยักหน้ารับแล้วขี่ต่อไป ถนนเส้นนี้ข้างทางจะเป็นทุ่งนาและป่า ที่ผ่านมาก็จะมีบ้านเพียงไม่กี่หลังเท่านั้นเอง นับได้ประมาณ 3-4 หลัง มันมืดและเงียบมาก จนเรารู้สึกกลัวขนลุกตลอดทาง จะว่าหนาวก็ไม่ไช่เพราะเราชินกับการขี่รถตอนกลางคืนอยู่แล้ว ใจเราตอนนั้นอาจจะไปให้ถึงบ้านของอายเต็มที พอขี่มาได้อีกสักพัก เราก็เห็นเด็กใส่เสื้อขาวเนื้อตัวม่อมแม้ม เราคิดในใจว่าเส้นทางมืดขนาดนี้ข้างทางก็มีแต่ป่าใครบ้าจะมาเดินอยู่ตอนนี้ แล้วอญู่ๆโยก็มากระซิบที่ข้างหูเราว่า มึงเห็นป่ะ เราก็ตอบไปว่า เห็น โยมีสีหน้าที่หวาดกลัวมาก มันเข้ามาก่อนเราแล้วเราก็ปลอบใจมันไปว่า ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากแต่ในใจตอนนั้นเราก็กลัวอยู่เหมือนกัน แล้วโยมันก็ร้องไห้เราพยายามข่มใจให้เข้มแข็งเข้าไว้แล้วก็ขี่รถต่อไป จึงเห็นทางข้างหน้าที่กำลังจะสุดซอยเรารีบบิดไปเต็มที่แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรดนใจให้เราหันไปมองกระจกข้าง เมื่อหันไปมองก็เห็นว่า มีคนใส่ชุดขวากำลังคลานตามรถเข้ามาติดๆเราตกใจมาก จนร้องกรี้ดลั้นโยก็ตกใจสะดุงเสียงร้องของเรา มันก็ร้องกรี้ดไปร้องไห้ไป จู่ๆหมาก็มาจากไหนไม่รู้ มันหอนเสียงดังมากดังตลอดทาง ตอนนั้นเราเห็นว่าสิ่งที่คลานตามเรามาเริ่มคลานใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งๆที่เราขี้รถเร็วมากเราควบคุมรถเกือบไม่อยู่ ไม่นานนักเราก็ออกมาจากซอยนั้นได้ พอออกมาก็มองไปยังกระจกข้างเราไม่เห็นสิ่งนั้นตามมาแล้ว เราทั้งสองไม่มีกระจิตกระใจสังสรรค์กันแล้ว รีบหาที่ปลอดภ้ยแล้วจอดรถ จากนั้นก็โทรหาอายกับตูนให้มารับสักพักอายกับตูนก็มาถึงแล้วเราก็ขี่รถตามกันมาจึนถึงบ้านของอาย มันก็สังเกตุเห็นว่าเรากับโยกำลังร้องไห้และตัวสั่นอยู่ อายก็ถามว่าร้องไห้กันทำไมแต่เรายังไม่ทันตอบ คุณยายของอายก็ผ่านมาเห็นแล้วก็พูดว่า มาจากซอยทุ่งนาหรือป่าวเราก็หันไปมองคุรยายแล้วก็พยักหน้าตอบ คุณยายหัวเราะลั่นแล้วก็พูดว่า เจอดีเข้าแล้วสิ อายกับตูนก็ทำหน้างงกับสิ่งที่ยายพูดแล้วคุณยายก็บอกว่าให้ไปนอนพัก คินนั้นเรากับโยก็ไม่ได้สังสันกัน พอเช้ามาเรากับโยก็เป็นไข้กันเลยทีเดียว เรานึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  จนคุณยายเอายากับอาหารเช้ามาให้ แล้วยายก็ถามว่าทำไมถึงมาซอยนั้นละ หนูไม่อยากมาถนนใหญ่รถมันเยอะ เลยลัดเข้าซอยนี้มา จากนั้นยายก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อ 4 ถึง 5 วันก่อนเมื่อซอยนั้นได้มีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นมีพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงไม่ค่อยถูกกัน ทะเลาะกันเป็นประจำจนวันหนึ่งพอเลี้ยงก็ทนไม่ไหวจึงตัดขาลูกเลี้ยงออกไปข้างหนึ่งแล้วจับไปเผาทั้งเป็น ก่อนตายเด็กคนนั้นได้ร้องโหยหวนอย่างทรมาน ยายคิดว่าวิญญาณของเด็กคนนั้นยังเล่ร่อนอยู่ ก็เลยมาปรากฏตัวให้เห็นเพื่อของส่วนบุญ พอยายเล่าจบโยก็พูดขึ้นมาว่า มึงรู้ป่าวอีแอนมันคลานมาจะถึงขาอยู่แล้วกูเห็นหน้ามันเต็มสองตาเลยใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำหนองเต็มไปหมดผิวก็ดำไหม้ไปทั้งตัวเลยกูก็ได้แต่ร้องไห้จะยกขาหนีก็ยกไม่ขึ้น มันน่ากลัวมากเลยหลังจากนั้นเราก็ลาคุณยายแล้วแยกย้ายกันกลับบ้านก่อนกลับบ้านเราก็ไม่ลืมที่จะไปวัดแวะทำบุญให้กับวิยญาณตนนั้นเรารู้สึกโล่งใจมากแล้วก็ขี้กลับบ้านอย่างปลอดภัย และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ผ่านเส้นทางนั้นอีกต่อไป และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...