วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เส้นทางไปเมืองกาญ !!


        ผมมีอาชีพขับรถตู้ประจำทางซึ่งจะไปจากกรุงเทพไปอำเภอ 1 จังหวัดสุพรรณบุรีซึ่งต้องผ่านอำเภอหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีผมออกจากท่ารถสุพรรณเที่ยวแรกตอนตี 5 ท่าพระตรงจุดเกิดเหตุพื้นที่ตรงนี้คนขับในพื้นที่เขาจะรู้ว่าพื้นที่ตรงนี้มันแรงแต่ผมก็ยังไม่รู้อะไรผมออกมาจากคิวพร้อมผู้โดยสาร 1 คนเส้นทางมืดสนิทก็ดีไฟสูงมาตลอดทางออกมาประมาณตี 5 10 นาทีข้างหน้า?ไฟก็ส่งไปเห็นคนใส่ชุดขาวอยู่คนหนึ่งอยู่ใกล้ๆเพราะรถเข้าใกล้ๆ ก็เห็นแม่ชีคนหนึ่งใส่ชุดขาวก็เลยกับพี่ไฟไปเพื่อส่งสัญญาณว่ารถตู้มาจะไปไหมเขาก็บอกเราเราก็รู้ว่าไปกับรถเรารถก็ไหลชลอเข้าไปใกล้ก็เลยเอารถจอดเทียบข้างเพราะเทียบท่าเสร็จจ่อสักพักนึงก็ยังไม่เปิดประตูสักทีก็คิดว่าแม่ชีเขาจะเปิดประตูไม่เป็นหรือเปล่าก็เลยรบกวนให้ผู้โดยสารที่ไปด้วยกันเปิดประตูแต่พอเปิดประตูรถออกกลับไม่เจอใครเลยแม้ให้ผู้โดยสารปิดประตูด้วยความมืดผมก็เลยออกรถเปลี่ยนไปอีกเลนนึงแล้วถอยรถเพื่อจะใช้ไฟหน้ารถส่องอธิบายว่าต้องจุดนั้นสองข้างทางจะเป็นไร่มันสำปะหลังและก็ไผ่ใหญ่ๆอยู่เพราะไฟหน้ารถส่องไป แต่กลับไม่พบใครเลยเท่านั้นแหละผมก็เลยใส่เกียร์เดินหน้า? เร่งคันเร่งเดินหน้าออกไปทันทีพอใส่เกียร์ได้ผมก็เลยถามผู้โดยสารว่าเห็นแม่ชีไหมเขาบอกว่าเห็นซึ่งทำให้ผมมั่นใจว่าตอนนั้นเราไม่ได้เห็นแค่คนเดียวตาฝาดแล้วก็ขับรถต่อไปหลังจากนั้นผ่านไปไม่นานเท่าไหร่เหตุการณ์หลังจากนั้นผมออกจากกรุงเทพตอนหกโมงเย็นถึงเป็นเที่ยวสุดท้ายของเที่ยวรถการเดินทางใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็มาผ่านจุดเดิมช่วงแรกก็จะมีคนเต็มรถกลับขึ้นลงจากข้างทางบ้างจนลงไปเหลือแค่วัยรุ่นใช้กันอยู่ข้างหลังถ้าไม่รู้จะไม่มีไฟส่องขับไปผมก็ต้องตกใจล้นเขื่อนลงข้างทางรถวิ่งที่นั่งอยู่ข้างหลัง เสียงดังลั่นและเปิดไฟในรถแล้วถามผู้โดยสารว่าเป็นอะไรหรือเปล่าเขาไม่พูดไม่จาอะไรเลยแฟนเขาก็เขย่าตัวแต่น้องผู้หญิงคนนั้นก็ไม่พูดอะไรเอาแต่สั่งน้ำมูกน้ำตาไหลผมก็ขาดต่อไปจนถึงท่ารถประมาณ 3 ทุ่มก็ถึงคิวรถตู้น้องผู้หญิงและแฟนก็รอญาติมารับด้วยความที่ผมอยากรู้ก็เลยถามน้องเขาว่าเจออะไรนอกผู้หญิงเริ่มหายตัวก็เลยเล่าให้ผมฟังว่าตอนที่นั่งรถมาน้องเขาหลั่งมาตลอดทางจนมาถึงที่เกิดเหตุน้องบอกว่ามองออกข้างนอกด้วยความมืดก็เลยเห็นแค่เหงาระบุไม่ได้ว่าเป็นชายวิ่งหนีกูขับรถมาผมก็เลยถามน้องว่าเห็นจริงหรือเปล่า เพราะผมกลับมามันมีหลุมมีอะไรบ้างแต่ก็ขับมาเกือบร้อยแล้วนะน้องก็บอกว่าหนูเห็นจริงๆเขาวิ่งคู่มาตลอดทางเลยเขาก็เลยพยายามหลับตาเพราะหันไปมองอีกทีก็ยังอยู่จังหวะนั้นที่น้องเขากรี๊ดนอกนั้นดังที่เห็นวิ่งตามขนาดรถอยู่ก็กระโดดมาเป๊ะกับกระจกข้างที่น้องนั่งก็เห็นก็เลยกรี๊ดแต่จังหวะนั้นผมไม่เห็นฉันก็เป็นโชคดีของผมที่ไม่เห็นคุณทำผมเห็นก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นรถไม่คิวของผมมีทั้งหมด 18 คันซึ่งทุกคนก็ล้วนแต่เจอมาแล้วทั้งนั้นบางคนจนคนอยู่บนยอดกอไผ่ บางคนเห็นเป็นใส่ชุดไทยหญิงเล่นน้ำฝนบ้างบางคนเห็นมันเด็กวิ่งตัดหน้ารถคนแก่ๆยืนชี้หน้าอยู่บ้างมันหลายเหตุการณ์แล้วหลังจากที่ผมส่งน้องก็เสร็จผมก็ต้องเอารถไปเก็บแล้วขับรถของตัวเองกลับบ้านต่อไป 10 กิโลตอนนั้นผมคิดว่าจะเจออะไรอีกไหมเพราะผมต้องผ่านทางนั้นทุกวันการทำงานของผมต้องผ่านทางนี้ช่วงไหนที่ผ่านจุดนี้ถ้าไม่มีต้นมันสำปะหลังสองข้างทางก็จะโล่งอย่าตลอดทางแต่ถ้ามีมันสําปะหลังเริ่มโต บรรยากาศน่ากลัวมากๆจนผมพยายามถึงที่มาที่ไปว่ามันเป็นยังไงถามรถตู้เก่าๆที่มีมานานก็ไม่มีใครรู้บ้างที่ขับรถเป็นร้อยก็ยังเจอเสียงเคาะกระจกหลังมาบ้างเรื่องราวที่ผมเจอก็มีประมาณนี้ทุกวันนี้ส่งผู้โดยสารด้วยความจำเป็นตลอด

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...