วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ผาอาถรรย์ !!


       เมื่อครั้งเยาว์วัยจงพญาเย็นเราอยู่ที่อำเภอมวกเหล็กจังหวัดสระบุรีหลังบ้านมีอาชีพค้าขายรับซื้อของป่า ชาวบ้านส่วนมากทำไร่ทำสวนกันเช่นไรพริกรายละหุ่งไร่ข้าวโพดสวนกล้วยน้อยหน่ามะละกอเป็นต้นย่าทวดของเราเป็นคนเก่าแก่ที่นั่นเรียกว่าคนพื้นนั้นมีเรื่องเก่าๆมากมายเราเป็นพวกเราพี่น้องฟังเรื่องผีผีสางสางมากเป็นพิเศษ เรื่องของผีโขมดในดงพญาไฟในอดีตเพื่อสิงสู่อยู่ตามป่าเขาทั้งในถ้ำหุบเหวและต้นไม้คอยจ้องจะเอาชีวิตมนุษย์เป็นเครื่องสังเวย คนที่เข้าป่าเราว่าสัตว์ต้องล้มตายเพราะโดนงูฉกเสือกัดมานับไม่ถ้วนอยากถูกเรียกว่าเสือขบหัว ชาวบ้านที่ออกไปทำไร่ทำสวนมักจะโดนผีป่าเล่นงานสิงสู่จนจับไข้นอนซมหนาวสั่นร้องครางอือน่ากลัวแต่พอรุ่งขึ้นก็หายดีวันต่อมาก็จับไข้อีกถึงตัวเหลืองหน้าเหลืองไปต่างๆกันกว่าจะรู้ว่าเป็นไข้จับสั่นเพราะโดนยุงกัดก็ล้มตายไปเป็นนับร้อยลอยยิ่งตอนเกิดสงครามอย่างยิ่งหายากก็ยิ่งตายกันเป็นใบไม้ร่วงย่าทวดบอกว่าในดงพญาเย็นมีภูตผีสารพัดสิงสู่อยู่ในถ้ำหรือยอดเขาก็เป็นผีระดับเจ้าพ่อมีอิทธิฤทธิ์ร้ายกาจน่าเกรงขามหรือยกตัวอย่างหน้าขนหัวลุกที่ภูเขาผาเสด็จให้พวกเราฟังเมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าให้ทรงสร้างทางรถไฟจากกรุงเทพไปโคราชระยะทางราว 260 กิโลเมตรเริ่มต้นจากหัวลำโพงไปบ้านภาชี 90 กิโลเมตรและสร้างต่อไปจนถึงโคราช 173 กิโลเมตรครั้นเริ่มสร้างทางรถไฟสายนี้เมื่อประมาณปี 2434 ถึงปี 2439 ช่วงสระบุรีโคราชค่อนข้างทุรกันดารนะเพราะต้องตัดผ่านภูเขาหลายต่อหลายรูปเต็มที่นายจ้างต้องสั่งให้ระเบิดภูเขาบ้างก็กู้เขาบ้าง บางแห่งต้องใช้วิธีวางทางลัดเลาะเข้าไปในภูเขาใกล้ถึงตำบลมวกเหล็กขนาดนั้นทุกทีถึงผาเสด็จพอดีตอนนั้นยังไม่มีชื่อหรอกเป็นแค่ภูเขาลักษณะตลาดมีหินใหญ่สูงตระหง่านชะโงกน้ำยื่นออกมาดูน่าสะพรึงกลัวบรรดานายช่างก็ปรึกษากันว่าสมควรระเบิดหินใหญ่นั้นทิ้งไปวางรางรถไฟรุดหน้าเข้าไปสู่เป้าหมายอัศจรรย์นักโดยจุดชนวนระเบิดหลายครั้งชะโงกป่านั้นก็หาได้สะทกสะท้านไม่บรรดาคนงานจีนเสียงหัวเราะเกรียวกราวตามหลังเสียงระเบิดก้องสะท้อนสะท้านไปมาตามหุบเขา ล้วนแต่หน้าซีดตัวสั่นเกิดความงามงกตกประหม่าอกสั่นขวัญหายกันทุกคนหัวหน้างานคนงานก็เราแจ้งเรื่องนี้ให้พวกนายช่างฟังบางคนหัวเราะเยาะแต่บางคนก็เชื่อตกลงตั้งศาลเพียงตามีเหล้าไหไก่ขวดเครื่องเซ่นจุดธูปเทียนบวงสรวงต่อเจ้าป่าเจ้าเขาขอให้กระทำการต่อไปจนสำเร็จลุล่วงด้วยเถิดจากนั้นก็ให้จุดชนวนระเบิดอีกครั้งแต่ฉันโง่ผาหน้าครั้งตามนั้นก็หาได้ระเบิดสมใจไม่นายช่างน้อยใหญ่ล้วนแต่หวาดหวั่นพรั่นพรึงไปจนหมดสิ้นในตำนานระบุว่าเมื่อเหตุอัศจรรย์นี้ทรงสร้างพระเจ้าอยู่หัวพระองค์จึงเสด็จขึ้นทอดพระเนตร ทรงพระกรุณาโปรดให้นำตราแผ่นดินไปปักไว้ตรงหินชะโงกนั้นแล้วทรงรับสั่งให้นายช่างจุดชนวนระเบิดทันใดสิ้นเสียงสนั่นหวั่นไหวที่จะงอกนั้นก็ยังโดดเด่นอยู่ตามเดิมไม่แปรผันพระพุทธเจ้าหลวงทรงอัศจรรย์พระธารณะตรัสว่ามีเทพารักษ์สถิตรักษาอยู่แน่แท้จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างศาลพระภูมิที่บริเวณนั้นเป็นการสักการะขึ้นหลังหนึ่งชาวบ้านร้านช่องทั้งปวงจึงพากันเรียกว่าผาเสด็จตั้งแต่นั้นมาไม่ช้าทั้งการรถไฟโดยสารสถานีรถไฟขึ้นณบริเวณใกล้เคียงนั้น ตั้งชื่อว่าสถานีผาเสด็จขึ้นมาถึงทุกวันนี้อย่าทวดลาวาภูเขาแห่งนั้นมีต้นไม้ใหญ่น้อยรวมทั้งลืมหินและเขื่อนทำซับซ้อนชอบกลนัก มีพระธุดงค์ขึ้นไปปากโกรธหาความสงบวิเวกภิกษุอีกหลายรูปก็ไปจำศีลภาวนานั่งสมาธิอยู่ตามโคนไม้และในโครงการเป็นนิจศีลแม่ชีชราหลายคนก็มาถือศีลบำเพ็ญธรรมท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นเยือกเย็น บางคนก็สังขารแตกดับอยู่บนผาเสด็จนั่นเองเราเคยนั่งรถไฟไปกับพ่อแม่พี่น้องถ้าสถานีผาเสด็จคนนึกถึงเรื่องราวย่าทวดเล่าว่าเคยเห็นร่างของแม่ชีลอยวนเวียนอยู่บนหน้าผาเขาขาวๆพริ้วลมไสวจนในๆยกมือไหว้ทุกคนไปและเรื่องราวทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้ครับ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...