วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ตุงเเดง เส้นทางหลอน !!


           เรื่องนี้เป็นเรื่องคุณเบลในสมัยที่คุณเบลอายุได้ประมาณ 18 ปีกุนเบลล่าว่าผมเป็นคนเชียงรายพ่อแม่ทำงานที่เชียงใหม่ด้วยหน้าที่การงานทำให้ผมกับน้องชายต้องอยู่บ้านตากับยายที่เชียงรายเดือนนึงพ่อกับแม่จะกลับมาหาสักครั้งหรือไม่ท่านก็จะมารับศุกร์เย็นๆหลังเลิกเรียนไปบ้านที่เชียงใหม่สมัยนั้นบ้านผมจะมีรถมาสด้ารุ่นเก่าคันเล็กๆแล้วมีแคปเป็นหลังคาอยู่ด้านหลังวันนั้นจำได้แม่นครับเป็นคืนวันศุกร์นี่แหละทุกครั้งที่พ่อแม่มารับผมกับน้องเราจะออกจากเชียงรายเวลา 4 โมงก็จะได้ไปถึงเชียงใหม่ไม่ดึกแต่ปลอดภัยถ้าใครเคยขับรถเส้นเชียงรายเชียงใหม่จะรู้ว่าถนนเปลี่ยวมากทางโค้งคดเคี้ยวขึ้นเนินลงเนินเยอะมากเรียกว่าเป็นการขับรถข้ามภูเขาฆ่าปาดคอว่าได้วันนั้นเป็นวันที่พ่อผมดันมีธุระกว่าจะออกจากเชียงรายได้ก็ประมาณ 6 โมงเย็นแล้วขับมาเรื่อยๆออกมาได้ไม่นานก็มืดแล้วจะเป็นช่วงหน้าหนาวมีหมอกบางๆทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงคอเลยขับช้าครับมาสักพักเขาเขตป่าที่สองข้างทางไม่มีหมู่บ้านไม่มีไฟข้างทางเลยรถก็เกิดอาการกระตุกกระตุกผมกับแม่มองหน้ากันเลิ่กลั่กพอเริ่มลดความเร็วลงอีกสักพักจากการเป็นตุ่มมันก็ดับไปประเด็นคือดับตรงที่ที่เปลี่ยวมากมีไฟกิ่งข้างทาง 1 ต้นด้านหน้าห่างไปประมาณเกือบร้อยเมตรจากจุดที่รถดับพ่อผมออกไปเช็คข้างนอกเปิดดูฝากระโปรงและบอกให้เราทุกคนอยู่ในรถทั้งวันตอนนี้พ่อออกไปสายตาพวกเราในรถเริ่มชินกับความมืดบรรยากาศรอบรอบหดหู่มากแม่เริ่มใจไม่ดีกอดน้องแน่นระหว่างที่พ่อกำลังขึ้นรถข้างหน้าผมเหลือบเห็นเป็นเงาคนหลังๆทำท่าเหมือนกับ 2 ซองอยู่ข้างกระจกฝั่งแม่ผมรู้ว่าแม่ก็เห็นแต่แม่ทำสีหน้าแบบห้ามทักนะอะไรประมาณนี้ให้ผมก็ปากไวไปหน่อยดันพูดว่าแม่เห็นเงาใครข้างๆไหมแม่ผมก็รีบตัดผมตะโกนถามพ่อว่ารถเป็นไงบ้างก็ชะโงกหน้ามาจากกระโปรงรถบอกยังหาไม่เจอเลยสักพักรถมีอาการเขย่าผมรู้สึกเหมือนมีคนเยี่ยมอยู่บนหลังคาแม่ก็รู้สึกก็ยังตะโกนมาหาเราว่าทำอะไรกันอย่าเล่นกันสิพอจะดูรถคือตอนนั้นเรานั่งกันนิ่งมากไม่มีใครกล้าขยับแน่นอนเพราะไม่เห็นสีหน้าแม่ผมไม่ค่อยดีเลยถามไปแม่ผมบอกว่าไม่เห็นมีคนเดินวนรอบรถเราหลายคนแล้วผมเลยมองไปที่กระจกมองหลังชัดเลยครับเห็นมันตัวคนเมื่อสองสามคนด้านหลังรถยืนนิ่งๆผมกลัวมากเลยตะโกนเรียกพ่อให้ขึ้นมาบนรถแต่ไร้เสียงตอบรับจากพ่อครับแม่เปิดประตูจะไปตามพ่อพ่อออกไปเท่านั้นแหละแม่กรีดร้องลั่นเลยเรียกผมให้ออกไปถ้าพี่เห็นก็คือพ่อผมนอนกองอยู่หน้ารถผมกับแม่รีบพยุงพ่อเข้ามาในรถแม่ผมรีบโทรหารถฉุกเฉินหรืออะไรนี่แหละสมัยนั้นสัญญาณก็ไม่ค่อยจะมีแล้วรอกันอยู่ในรถโดยที่ตลอดเวลาก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักๆบนเสียงร้องไห้น้องก็ยังเดินไปมาเรียกว่ากลัวจนตายด้านไปแล้วสักพักใหญ่รถอาสาก็มาพาพ่อไปสถานีอนามัยเล็กๆใกล้ๆแถวนั้นเราจอดรถทิ้งกันไว้ตรงนั้นเลยจากนั้นพวกเราก็เล่าเหตุการณ์ต่างๆให้พี่ตำรวจฟังตำรวจบอกว่าคืนนี้ให้พักที่อนามัยนี้ไปก่อนพรุ่งนี้ค่อยไปเอารถพ่อผมฟื้นขึ้นมาปลอดภัยดีแค่หมดสติพ่อตื่นขึ้นมารีบเร้าอย่างตื่นเต้นว่าตอนนี้ดูรถอยู่เห็นกลุ่มคนเดินมาข้างหลังก็ยังงงๆว่ามาจากไหนกันเพราะพวกเขาเดินเข้ามาใกล้ๆทุกคนมีแต่เลือดเต็มตัวบางคนก้อคอขาดไปเลยแล้วพ่อก็หมดสติไปเลยเราอยู่ที่สถานีอนามัยกันจนถึงเช้าพี่ตำรวจก็มารับพวกเราไปส่งที่รถซึ่งห่างจากอนามัยประมาณ 5 กิโลเมตรเพราะมากถึงต้องขี่รถพ่อผมจอดเสียปลุกเราก็ขนลุกกันแบบสุดๆเพราะรอบรอบบริเวณนั้นมีตุ่มสีแดงปักอยู่เป็น 10 ภาคเหนือเวลามีคนตายโหงเขาจะเอาถุงมาทำพิธีแบบนี้ไว้เชิญวิญญาณทั้งที่เมื่อคืนนี้เราก็ไม่เห็นอะไรกันเลยพี่ตำรวจลองไปสตาร์ทรถรถก็ติดง่ายๆไม่ได้เสียอะไรทุกคนเงียบกันหมดเลยฉันสักพักพี่ตำรวจก็เล่าให้ฟังว่าไม่กี่เดือนนี้มีรถเขาจะมาทำบุญมนุษย์กระบะที่มีคนนั่งด้านหลังมาเป็น 10 คนพอดีรถแหกโค้งตรงนี้ตายเกลื่อนเลยเจอกันหลายรายแล้วล่ะบางรายก็ไม่รอดเมื่อคืนผมก็เห็นภูเขาล้อมรถมันอยู่เลยไม่กล้าพูดอะไรพวกเราฟังอย่างนั้นก็พูดไม่ออกกันเลยครับ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...