วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561
แช่งชัก !!
สวัสดีครับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมได้รับการถ่ายทอดมาจากป้านวลซึ่งเป็นวันก็เล่าให้ฟังว่าในสมัยปี 2529 สมัยนั้นบ้านเมืองและถนนหนทางไม่ได้เจริญเหมือนในปัจจุบันท่านเป็นคนทั้งหมดสงครามตั้งแต่เกิดเลยตอนนั้นก็เพิ่งจะออกเรือนแต่งงานได้ใหม่ๆแล้วก็ย้ายมาทำงานในกรุงเทพส่วนสามีแกรุ่งสวนเป็นคนขับรถส่งนักท่องเที่ยวซึ่งก็ต้องพานักท่องเที่ยวไปต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆต้องบอกก่อนว่าลุงสวนแกเป็นคนเจ้าชู้มากๆเป็นคนนิ่งขรึมอัธยาศัยดีชอบคุยกับคนโน้นคนนี้ไปเรื่อยหลังจากลุงสวนแกทำงานไปได้สักพักแกก็บอกกับตาว่า ต้องกลับบ้านที่จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อไปเยี่ยมทั้งบ้านของแกแต่ครั้งนี้ป้าแกแปลกใจเพราะปกติลุงแกถ้าจะกลับบ้านที่เมืองกาญใกล้จะออกปากชวนป้าทุกครั้งหนึ่งในช่วงนั้นประจวบเหมาะกับป้าต้องไปออกหน่วยแพทย์ของส่วนราชการแห่งหนึ่งซึ่งโดยปกติแล้วรุ่งสวนแกจะเป็นคนไปรับไปส่งป้าขึ้นรถเป็นประจำแต่ครั้งนี้ลุงสวนแกบอกว่าจะกลับบ้านที่เมืองกาญก็เลยทำให้ป้าต้องไปขึ้นรถเอง ป้าแกไม่ได้ว่าอะไรแต่ในใจก็คิดว่าลุงต้องพาใครไปต่างจังหวัดแน่ๆ อ้ายการติดต่อส่วนใหญ่ในสมัยนั้นโทรศัพท์ก็จะเป็นแบบตั้งโต๊ะซะส่วนใหญ่ตาแกก็เลยพูดกับลุงว่าถ้าพาผู้หญิงหรือกิ๊กไปด้วยก็ขอแช่งให้รถคว่ำตายใน 3 วัน 7 วัน ซึ่งลุงสวนแกก็ยังพูดติดตลกอยู่ว่าจะพาใครไปได้ป้านวลแต่งตัวออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปขึ้นรถเอง 1 สัปดาห์เต็มที่วันดวลต้องทำงานที่ต่างจังหวัดไม่กี่วันก็นวลก็กลับบ้านโดยให้น้องชายมารับซึ่งลุงสวนก็กลับจากเมืองกาญพอดีในช่วงนั้นวัดแถวบ้านของลุงสวนจังหวัดกาญจนบุรีมีทอดกฐินพอดีลุงสวนแกก็เลยชวนป้านวลไปกันที่วัดนี้ซึ่งก็ออกเดินทางกันในเช้ามืดของอีกวันนึงใช้เวลาออกเดินทางกันมาไม่นานก็มาถึงวัดแห่งนี้เพราะทอดกฐินอะไรกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเที่ยวกันต่อที่แกร่งแห่งหนึ่งกลับจากเที่ยวเกาะ 5 6 โมงเย็นแล้วลุงสวนพร้อมเพื่อนที่มาด้วยกัน 1 คนป้านวลและน้องชายของแกก็คุยกันว่าน่าจะหาที่พักแถวนี้สักคืนนึงแล้วค่อยกลับพรุ่งนี้ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วเพื่อนของลุงสวนก็เลยบอกว่าแถวๆนี้มีโรงแรมอยู่ที่ 1 ขับรถจากที่นี่ไปไม่น่าจะเกิน 10 กิโลจึงตกลงแล้วตัดสินใจขับรถไปที่โรงแรมแห่งนี้กันสองข้างทางทางที่จะไปยังโรงแรมนี้มีแต่ป่ารกตอนนั้นป้าแกก็จำไม่ได้แล้วว่าโรงแรมนี้ชื่ออะไรเพราะมันมืดออกมาเพราะไปเถอะ ถึงโรงแรมก็เกือบสามทุ่มแล้วก็จัดการเช็คอินแยกย้ายกันไปที่ห้องโดยป้าแก่นอนห้องเดียวกันกับลุงสวนส่วนน้องชายของป้านวลนอนอีกห้องหนึ่งกับเพื่อนของลูกสวน เมื่ออาบน้ำอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วเวลาประมาณสัก 4 ทุ่ม เสียงโทรศัพท์ในห้องประจำคลื่นชนวนแกบอกว่าแกก็เดินไปรับโทรศัพท์ต้นสายคือพนักงานต้อนรับของโรงแรมบอกว่ามีโทรศัพท์ด่วนปลายสายบอกว่าเป็นญาติโทรมา ป้าก็แปลกใจคนรู้ได้ยังไงว่าเรามาพักกันที่โรงแรมแห่งนี้ซึ่งยังไม่ได้บอกใครเลยแกก็ฮัลโหลไปเสียงปลายสายเงียบมีเสียงกุกๆกักๆประมาณเหมือนทีวีไม่ชัดคงจะนึกออกนะครับแกฮัลโหลไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีคนตอบคนเลยวางสายไปแล้วก็มานั่งบ่นให้ลุงสวนฟังว่ามีใครก็ไม่รู้โทรมาบอกว่าเป็นญาติจะคุยด้วยแกก็บ่นๆจากนั้นก็นอนหลับไปรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงโทรศัพท์ในห้องมันดำขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งดูเวลาตอนนั้นน่าจะประมาณตี 2 เกือบตี 3 ได้แล้วด้วยความที่นอนหลับกันหมดแล้วใครที่อยากจะลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ป๋าแกก็เลยต้องลุกขึ้นมารับโทรศัพท์อีกป้าแกเล่าให้ฟังว่าครั้งนี้แกรับโทรศัพท์ก็เหมือนเดิมปลายสายนั้นเงียบแก้โหลไปหรือเสียงยิ่งหงุดหงิดจากที่ถูกๆกลางดึกแบบนี้แล้วแกก็ถามไปว่า ว่ามีใครน่ะเสียงเงียบไปได้ไม่นานก็มีเสียงผู้หญิงเป็นเสียงเย็นๆก็ตอบสวนกลับมาทันทีว่าถ้าอยากรู้ก็เปิดหน้าต่างดูสิเมื่อบ้านนวลก็ได้ยินเสียงแบบนั้นแกเล่าให้ผมฟังว่าแกรีบวางสายทันทีแล้วก็วิ่งไปนอนตัวสั่นพุ่มพวงอยู่ข้างๆโรงสวนลุงสวนรับรู้ได้ถึงความผิดปกติก็เลยตื่นแล้วถามป้านวลว่าเป็นอะไรดึกๆดื่นๆแล้วทำไมไม่ยอมนอนป้านวลแกก็เลยเล่าเรื่องที่เจอให้ฟัง เป็นกลางดึกนั้นลุงสวนแกต้องเดินลงไปที่โรงแรมด้านล่างพร้อมกับขอรูปพนักงานมาดอกนึงนวลบอกว่าแกต้องหรือพูดอะไรสักอย่างอยู่พักหนึ่งแล้วก็เอาธูปไปปักที่ใต้ต้นไม้แถวๆหน้าโรงแรมคืนนั้นก็กลับไปนอนกันจนถึงเช้าก็ออกเดินทางกลับบ้านเพราะมาถึงบ้านลุงสวนก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังว่าตอนที่ป้านวลแกไปออกหน่วยที่ต่างจังหวัดลุงสวนแก่พาน้องผู้หญิงคนนี้ไปด้วยซึ่งก็ไปเที่ยวกันที่เมืองกาญนี่แหละเที่ยวอยู่ได้สัก 2 วันก็ไปส่งน้องผู้หญิงคนนี้ที่บ้านเพราะลุงสวนแกกลับบ้านที่เมืองกาญรู้ข่าวอีกทีว่า ผู้หญิงคนนี้ขับมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปซื้อของแล้วรถมอเตอร์ไซค์คว่ำรถสิบล้อที่ตามหลังมาเบรกไม่ทันแอบเสียชีวิตคาที่นุ่งสวนแกก็ไปช่วยทางญาติน้องผู้หญิงเขาจัดการงานศพจนเสร็จแล้วก็กลับมาที่กรุงเทพซึ่งก็เป็นวันเดียวกันกับที่ฟ้ากลับถึงบ้าน ป้าบอกว่าไม่รู้อะไรดลใจป้าถึงได้พูดแบบนั้นในวันนั้นเรื่องราวที่พูดไว้กลับเกิดขึ้นจริงหรือมันจะบังเอิญก็เถอะแต่ป่าก็ยังรู้สึกผิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้นจนถึงปัจจุบันส่วนลุงสวนเองเพราะเกิดเหตุการณ์นี้ขอสัญญากับป้านวลว่าจะเลิกโกหกป้านวลไปตลอดชีวิต
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น