วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ติดรถไปด้วย !!


         เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณพลอยและคุณทีที่เป็นแฟนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนม. ปลายจนตอนนี้เรียนมหาลัยปี 4 แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดที่อำเภออรัญประเทศทั้งคู่เราว่าวันหนึ่งในขณะที่ทีขับรถมาส่งตอนกลับบ้านหลังเลิกเรียนก่อนพลอยจะลงรถแม่พลอยก็วิ่งออกข้าวของเต็มมือพร้อมน้องชายของพลอยมาด้วยแม่พลอยบอกว่าเพื่อนแม่ป่วยแต่ไม่ว่างเลยงานยุ่งมากจึงให้ไปเยี่ยมแทนหน่อยนะเอาทั้งคู่ไปด้วยเพราะว่าป้าบ่นคิดถึงจะแย่ยังไม่ทันตกปากรับคำแม่ก็พาน้องขึ้นไปนั่งหลังครับพร้อมจัดของฝากใส่ท้ายรถให้เรียบร้อยแล้วก็รีบวิ่งเข้าบ้าน​ พลอยกับพี่มองหน้ากันแล้วหันมามองน้องภูอย่างเซ็งๆเพราะทางไปบ้านป้านานั้นไกลจะเปลี่ยวและคดเคี้ยวมากน้องภูอายุแค่ 3 ขวบพูดยังไม่ชัดเท่าไหร่เป็นเด็กช่างพูดช่างถามชวนคุยถามนู่นนี่ไปตลอดทางทั้งทีต้องบอกให้เงียบเพราะต้องใช้สมาธิในการขับรถตอนนั้นถนนเริ่มมืดแล้วไฟส่องทางก็มีบ้างไม่มีบ้างที่ขับรถไปตามปกติจนมาถึงทางสามแยกที่มีป้ายโปรดระวังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งบ้านพนาต้องเลี้ยวขวาที่มองแล้วทางสายตาเหลือบไปเห็นเครื่องเส้นที่อยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งเต็มไปหมดเลย แค่มองด้วยก่อนที่รถจะผ่านทางแยกมาอยู่ๆน้องภูก็พูดขึ้นว่าพวกพี่ๆเขานั่งแย่งกินอะไรกันที่พื้นทำไมไม่กลับไปกินที่บ้านล่ะพอได้ยินแบบนั้นทีก็เริ่มแปลกๆรีบเหยียบคันเร่งออกจากแยกนั้นมาอย่างเร็วก็เลยไม่ได้นิดเดียว หน้าเวลาจะเจออะไรตอนมืดค่ำๆตามคำพูดเข้าใจไหมพลอยก็ได้แต่ปลอบน้องเพราะรู้ว่าตอนนี้ทีคงกำลังกลัวน้องภูเลยถามพลอยว่าทำไมไม่ให้หนูทักพี่พวกนั้นหนูทำผิดอะไรปล่อยก็ใจแป้วตามความเป็นเสียงสั้นๆน้องภูเห็นพี่ๆไหนหรอน้องภูตอบกลับมาเสียงดังว่าพวกพี่ๆตัวสกปรกที่นั่นแย่งกินอะไรอยู่ที่พื้นที่ทางแยกไอพี่น้อยไม่เห็นหรอคราวนี้ที่เหยียบเบรกกะทันหันเพราะมันน่ามาหาพลอยเราทั้งสองคนตอนนี้ชุ่มไปด้วยทั้งที่เปิดแอร์ในรถติดมากเพราะให้บอกให้ทีขับต่อไปจะได้รีบไปให้ถึงสักทีและประกอบลำโพงพี่คงไม่ทันมองแล้วมั้งเลยไม่เห็นแล้วทำไมห้ามทักล่ะต้องพกมาคำถามเดิมพอจะบอกว่าเราอยู่ในรถทักไปพวกเขาก็ไม่ได้ยินเราหรอกเมื่อกี้ ต้องโทรพูดเปล่าอยากตายต้องตอบกลับมาว่าทำไมจะไม่ได้ยินเพราะหนูพูดปุ๊บพวกพี่เขาก็หันมามองหนูปั๊บรอยสักทีใจเสียแล้วหน้าเงียบกันไปสักพักจนที่บอกว่ารถเป็นอะไรไม่รู้มันหนักๆเร่งไม่ค่อยขึ้นของท้ายรถก็ไม่ได้มีเยอะพอแล้วก็ไม่รู้จะตอบยังไงเพราะตัวเองก็ไม่รู้สาเหตุแล้วเด้อสิบอกให้เร่งเครื่องเร็วใกล้ถึงแล้วส่วนของผู้ก็บ่นว่าอึดอัดเหมือนมีคนมาเปลี่ยนพูดซ้ำไปซ้ำมาใกล้จะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดเลยทีแม่บอกว่าปานามาพักอยู่กับพี่สาวที่บ้านใกล้ๆกับวัดน่ะเพราะขับเข้าซอยหน้าวัดอยู่ๆหมาแถวนั้นก็พร้อมใจกันเขาอ่อนยังดังจนน่ากลัวและก็น่าแปลกที่คนแถวนั้นเห็นรถทีบ้างก็ร้องอุทานว่างูเข้าบ้าน ถึงหน้าวัดก็เจอกับลงนามสกุลเก่าแก่ที่พลอยรู้จักตั้งแต่เด็กที่ชิดรถเข้าไปหาแกแกหันมาก็ได้น้อยก็งง น้อยเองจำได้ไหมนี่แฟนพลอยค่ะวันนี้ต้องโทรก็มาด้วยนะแม่เขาฝากมาเยี่ยมบ้านาน่ะลุงรู้จักบ้านพี่สาวก็ด่าไหมพลอยรีบตามไปเป็นชุดแต่งงานกับบอกว่าพวกเอ็งเอารถไปจอดในวัดอะไรคุณหลวงพ่อเดี๋ยวนี้เลยแล้วข้าจะพาไปหายายในทีก็งงว่าทำไมต้องจอดในวัดด้วยกลัวรถหายแต่ก็ยังพูดแกมบังคับให้ไปจอดที่วัดให้ได้ที่ให้พลอยกับน้องภูลงก่อน รีบขับรถเข้าไปจอดในวัดก็ได้อีกแล้วเพราะเกรงใจแต่ที่บอกว่าก็ได้ครับ​ ประกวดหางมืดสรุปทั้งสามคนก็นอนค้างบ้านพี่สาวพนาคืนเงินลูกเช้ามาลงอ่างวิ่งเรี่ยนตีไปที่วัดมีเรื่องใหญ่ลอยไปถึงวัดมองไปเจอรถตัวเองก็ตกใจขาดเลือดลอยมือเสกใบไม้ติดตามรถเต็มไปหมดชาวบ้านก็พากันประมงแล้วก็พูดพูดพูดพูดจับใจความไม่ได้ก้อหลวงพ่อต้องออกมาเอาล่ะเอาล่ะเงียบๆแล้วอาตมาจะคุยกับโยมลอยองค์ทีเขาเองที่ถามไปว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถโรงหนังก็ถามว่าอ้าวเมื่อคืนพวกเองไม่เห็นรอยพรุ่งนี้เหรอถ้ากับชาวบ้านเห็นตั้งแต่เมื่อคืนเองกลับเข้ามาแล้วหลวงพ่อเดิมถามว่าโยมได้ไปทำสิ่งไม่ดีท้าทายหรือไม่พูดจาล่วงเกินสิ่งที่มองไม่เห็นบ้างหรือเปล่าเพราะจับทีมองหน้ากันก่อนตอบว่าระหว่างทาง นี้เราผ่านสามแยกมาแล้วกูก็ทักว่าเห็นคนนั่งเล่นกินข้าวที่พื้นน้องภูบอกว่าพวกเขาหันมามองหน้าเราด้วยแต่รอยสักทีก็ยังไม่เห็นเราเห็นในเครื่องเสียงว่าอย่างนั้นพูดจบช้าบ้านกูว่าแล้วเชียวหลวงพ่อจงเล่าสิ่งที่เห็นให้ฟังเมื่อคืนอ่ะทำไมเห็นวิญญาณผีตายโหงหลายตนนั่งรถก็รถยนต์มาเต็มไปหมดเลยเพราะเขามาถึงวัดพวกเขาก็หายไปพอได้ยินแบบนั้นเลยนึกถึงสิ่งที่หนูพูดเมื่อคืนรอยสักทีขนลุกซู่ล่าช้ารีบไปลาหลวงพ่อและชาวบ้านแล้ววิ่งไปหยิบผ้าขี้ริ้วชุบน้ำของแม่กลัวไม่ใช่รอยเลื่อนลอยมือจนหมดแล้วพลอยบอกทีว่าจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยที่จะวิ่งไปขับรถไปบ้านพี่สาวพนาก็เก็บของและรับรองโทรกลับบ้าน ระหว่างทางกลับบ้านต้องโทรก็ยังบ่นตลอดทางอื่นทีก็นั่งรถเงียบกริบตลอดทางจนมาถึงสามแยกเดิมรถก็กระตุกเหมือนจะดำแต่พอผ่านสามแยกมาได้นิดเดียวก็หายเป็นปกติแต่เมาขึ้นเหมือนเมื่อก่อนหน้าที่เหยียบคันเร่งเกือบสุดไม่ใช่หรอไม่เบรคจนถึงบ้านที่ลงจากรถตามรอยพ่อบ้านบอกขอพักอยู่บ้านพลอยก่อนสักพักน้องภูเรียกทีเสียงดังพิธีลอยมือครับใหญ่จังพลอยกับทีหันไปดูเป็นรอยมือ 5 นิ้วเปื้อนฝุ่นฝั่งประตูคนขับพอดีเป๊ะ บ่ายวันนั้นพลอยทีและน้องภูพากันไปทำบุญกรวดน้ำทันที

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...