วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561
เจอผีเขมร !!
เรื่องมันเกิดขึ้นในซัมเมอร์ปีหนึ่งเมื่อบรรดาสจ๊วตและแอร์รุ่นเดียวกับผมนัดรวมพรรคพวกที่มีเวลาว่างตรงกัน 10 คนจัดทริปไปเที่ยวเกาะแห่งหนึ่งเคยพักที่บ้านกึ่งรีสอร์ทบนเกาะเล็กๆส่วนตัวห่างออกมาจากชายแดนประเทศกัมพูชาไม่มากนะด้วยความที่อยากทำตัวเป็นไฮโซติดดินพวกเราถึงทุลักทุเลเดินทางออกจากกรุงเทพโดยรถโดยสารปรับอากาศของบขสจากสถานีเอกมัยมาลงที่ตัวจังหวัดตราดแล้วต่อรถสองแถวไปที่ท่าเรือเพื่อต่อเรือไปยังเกาะที่พักอีกทีนึงซึ่งกว่าจะถึงที่หมายก็พบค่ำทุกคนกินอยู่นิดหน่อยเป็นอย่างยิ่งขนาดที่เรียกได้ว่าแทบจะคลานขึ้นบ้านพักกันเลย หลังจากเติมพลังด้วยอาหารเย็นที่เจ้าของรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้จนอิ่มหมีพีมันแล้วพวกเราจึงออกเดินสำรวจบ้านพักและบริเวณโดยรอบมันมีลักษณะเหมือนบังกะโลชายหาดในโบราณทั่วไปคือยกพื้นสูงประมาณเมตรกว่าๆตัวเรือนทำด้วยไม้มีหน้าต่างโดยรอบทำให้อากาศถ่ายเทได้เป็นอย่างดีด้านหน้าเป็นท้องทะเลสีครามกับสีฟ้าอ่อนของตัวบ้านด้านหลังแอบกับเนินเขาลูกเล็กๆที่มีบรรดาพืชพรรณต่างๆขึ้นเบียดเสียดกันอยู่มากมายเสียงสรรพสัตว์ต่างๆร้องเบาๆดังออกมาจากป่าละเมาะนั้นเสียงหนึ่งที่ทำให้ผมขนหัวลุกด้วยความกลัวบนขยะแขยงมากที่สุดคือเสียงของตุ๊กแกที่ไต่ยั้วเยี้ยอยู่ตามผนังบ้านระหว่างทางพวกเราได้พบปะพูดคุยกับชาวบ้านที่มาทำงานที่รีสอร์ทแห่งนั้นทุกคนต่างมีอัธยาศัยดียกเว้นพ่อแม่ลูก 3 คนที่มองผม มองและซุบซิบกันด้วยท่าทีแปลกๆขึ้นนั้นพวกเรานั่งเฮฮากันริมชายหาดจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงคืนถึงเดินกลับเข้าตัวบ้านจะพักผ่อนด้วยความที่สนิทกันมากแต่ละคนจึงอยากลากเอาที่นอนหมอนมุ้งมานอนรวมกันที่ห้องใหญ่ห้องเดียวต่างพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานสักพักใหญ่ๆเสียงจ๊อกแจ๊กค่อยๆลดระดับลงเป็นเสียงกระซิบในเงียบไปในที่สุดแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องเห็นเป็นเงาสลัวดังๆเสียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่งเบาๆประกอบกับความเหนื่อยล้าจากการเดินทางทำให้ผมหลับไปอย่างง่ายดายเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาไม่ได้ยินเสียงตุ๊กแกร้องอยู่ภายนอกเสียงนั่นทำให้ต้องรีบไปฟ้าผมขึ้นมาคลุมโปงเอามืออุดหูด้วยความกลัวน่าแปลกที่บรรดาเป็นเพื่อนยังคงนอนหลับกันอย่างสบายอารมณ์ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักพักเสียงตุ๊กแกก็สงบลง แต่คราวนี้กลับมีเสียงของชายหญิงคู่หนึ่งดังขึ้นเบาๆผมพยายามฟังว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันแต่ไม่สามารถเข้าใจได้แม้แต่คำเดียวเหมือนกับเป็นภาษาเขมรผมค่อยๆพลิกตัวออกมาจากหน้าต่างบานหนึ่งซึ่งเป็นที่มาของเสียงท่ามกลางความมืดมิดที่มีแสงจันทร์สลัวสลัวภาพหลังๆที่เห็นเบื้องหน้าคือชายหญิงและเด็กที่ผมบอกตอนนี้เล่นไม่ช่วงค่ำนั่นเองการสนทนาสะดุดหยุดลงทันทีเหมือนรู้ว่ามีคนกำลังแอบฟังอยู่ทั้งหมดจงมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เย็นชาพวกชาวบ้านที่ทำงานนี่เองผมคิดในใจพร้อมกับเอ่ยถามพวกเขาเบาๆด้วยเกรงว่าจะเป็นการรบกวนเพื่อนที่นอนหลับอยู่มีอะไรเหรอครับ มาทำอะไรกันเด็กๆเป็นอย่างนี้เสียงของผมทำให้เพื่อนบางคนเริ่มขยับพลิกตัวเมื่อเหลียวไปมองก็เห็นเงาตะคุ่มตะคุ่มกำลังงัวเงียลุกขึ้นได้เพียงเสี้ยววินาทีที่ผมละสายตาจากภูเขานั้นรักก็กดผ้าของเด็กผู้ชายตัวเล็กที่อยู่ข้างนอกเมื่อสักครู่ไม่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องนอนถือไม้ท่อนใหญ่ท่อน 1 แขวงเล่นในมือผมงงงานกับภาพเบื้องหน้าไม่เข้าใจว่าเด็กนั่นแอบปีนเข้ามาในห้องพักของพวกเราตั้งแต่เมื่อไหร่โดยไม่คาดคิดแค่เริ่มออกวิ่งไปรอบรอบห้องกระโดดข้ามเพื่อนบางคนที่ยังนอนขวางอยู่กลางเอาไม้ที่ถืออยู่เพราะผนังดังก๊อกก๊อกก๊อกก๊อกพร้อมส่งเสียงกรีดร้องมันดังโหยหวนจนผมต้องยกมือขึ้นปิดหูถึงตอนนี้เป็นเพื่อนผมก็ตื่นกันหมดแล้วทุกคนต่างลุกขึ้นมานั่งแล้วมองหน้ากันด้วยความงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้นผมพยายามร้องห้ามแต่เด็กนั่นก็ไม่ยอมหยุดสักทียังคงวิ่งพล่านเพราะฝาผนังรอบ ต่อไปซึ่งผมจนปัญญาจึงหันไปหาสามีภรรยาที่ยังยืนอยู่ที่เดิมพี่ๆช่วยมาเอาลูกไปหน่อยสิครับส่วนจริงๆผมกวักมือเรียก 2 น่าแปลกที่เขาดูเหมือนจะไม่สนใจใยดีพอลูกตัวเองกำลังรบกวนการพักผ่อนของพวกเราอยู่คุยกับใครที่ไหนอยู่เหรอแล้วนี่เสียงอะไรใครร้องไห้เข้าป่าบ้านเสียงสั้นๆของเพื่อนคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นพร้อมหันไปมองรอบๆอย่างน่ากลัวว่าไม่เห็นใครอยู่เลยอ้าวก็เรียกให้พ่อของแม่เด็กนี่มาเอาลูกออกไปนะสิวิ่งเล่นอยู่ได้ไม่หลับไม่นอนผมตอบอย่างเดียวจากนั้นก็อยากตัวลุกขึ้นอาศัยแสงจันทร์หาทางเดินไปยังแผงสวิตช์ไฟแล้วกดปุ่มให้มันทำงานแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นห้องทั้งห้องยังคงมืดมิดท่ามกลางความมั่นคงของเพื่อนๆผมกดปุ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าแข่งกับเสียงกรีดร้องเสียงเพราะผนังของเด็กน่านความกดดันบรรทุกขึ้นจนผมไม่สามารถทนได้ผมใช้นิ้วกระแทกย้ำย้ำไปที่สวิสหลายครั้งพร้อมตะโกนขึ้นอย่างเหลืออดไอ้หนูหยุดวิ่งวันนี้เมื่อสิ้นเสียงของ ผมแสงจากดวงไฟหลายดวงบนเพดานรันสว่างขึ้นเสียงอึกทึกและภาพของเด็กน้อยนั่นกลับหายไปในพริบตาห้องทั้งห้องกลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้งผมมองไปรอบๆเห็นบรรดาเพื่อนๆดังรวมกลุ่มกันอยู่ด้วยความหวาดกลัวผมรีบสาวเท้าเดินไปที่หน้าต่างตรงหัวนอนก็มองหาทั้งสามคนนั่นแต่กลับไม่พบอะไรเลยแข็งใจมองฝ่าความมืดออกไปเงาตะคุ่มตะคุ่มกลุ่ม 1 เดือนอยู่ตรงท่าเรือพวกเขาหันมามองที่ผมอีกครั้งด้วยแววตาเฉยชาฉันเคยแล้วค่อยๆเดินห่างออกไปจนกระทั่งรับสายตาในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นผมเดินลงไปดูบริเวณที่เห็นสามีภรรยาเมื่อคืนพบว่ามีศาลเพียงตาตั้งอยู่ 2 หลังทำไมนะเมื่อวานพวกเราถึงไม่มีใครเห็นสารหนี้กันสักคนสอบถามคนงานดูทราบว่ามันถูกสร้างขึ้นให้สามีภรรยาและลูกชายที่นั่งเรืออพยพมาจากกัมพูชาเพื่อหนีสงครามเมื่อหลายปีมาแล้ว โชคร้ายที่เรือล่มจมน้ำตายหมดทั้งครอบครัวและศพถูกกระแสน้ำพัดมาเกิดกับบริเวณหน้าหาดบ้านหลังนี้ที่น่าแปลกก็คือไม่เคยมีใครพบวิญญาณพ่อแม่ลูกครอบครัวนี้มาก่อนและไม่มีใครได้พบกับพวกเขาอีกเลยหลังจากคืนนั้น
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น