วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เจอปอบ !!


         เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวผมเองย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีที่แล้วพ. ศ. 2544 ผมทำงานได้เพียง 2 ปีผมก็ได้พบกับแฟนผมซึ่งก็คือภรรยาคนปัจจุบันนี่แหละครับทั้งผมและภรรยาอยู่ด้วยกันยาวๆ 6 เดือนเธอจึงชวนผมกลับบ้านที่ต่างจังหวัดพอดีจะได้รู้จักว่าที่พ่อตาแม่ยายและญาติญาติของเธอด้วยผมตกลงกลับพร้อมกันกับเธอเราทั้งสองเดินทางด้วยรถทัวร์กลับไปถึงบ้านเธอเรา 6 โมงเช้าไปพบกับพ่อแม่ที่แก่ทั้งหลายของเธอซึ่งก็เธอบอกว่าผมเป็นแฟนพวกเขาเหล่านั้นก็ยิ้มได้ชวนคุยหลายเรื่องถึงตอนอาหารเย็นแม่ยายกับป้าแฟนผมบอกว่าพรุ่งนี้ นี้จะไปทำโรงทานที่วัดป่าแล้วตอนเย็นก็มีการปฏิบัติธรรมด้วยผมสนใจจึงบอกว่าอยากไปปฏิบัติธรรมดูบ้างหลังจากนั้นวันต่อมาผมก็ได้ไปทำโรงทานที่วัดป่าแม่แฟนผมบอกกับพระอาจารย์ว่าผมเป็นลูกเขยอย่ามาลองปฏิบัติธรรมดูพระอาจารย์ยิ้มแล้วถามผมว่ากลัวพี่ไหมผมไม่ตอบท่านเอาแต่ยิ้มให้แฟนผมก็มาถามว่าอยู่ได้แน่นะที่นี่เขาบอกว่าผีดุมากผมบอกว่าอยู่ได้ลองดูสักคืนสองคืนเพราะคนที่มาทำโรงทานกลับไปหมดแล้วพระอาจารย์เอาชุดขาวทั้งชุดมาให้ผมท่านถามว่าผมสวดมนต์เป็นไหมผมบอกว่าได้บ้างบางผลครับท่านเลยบอกงั้นมาที่นี่ ตามกันมาพาผมเดินเลาะมาตามป่าไปขนมาภาพที่ผมเห็นคือศาลาหรือขุดหลังหนึ่งตั้งอยู่กลางบ่อน้ำเดินตามไปตามทางเดินจนถึงคุณท่านบอกผมว่าที่คนนี้ไม่หลวงปู่ท่านนึงธุดงค์มาจากภูควายแล้วมาขอค้างที่นี่ก่อนผมเดินเข้าไปเจอท่านแล้วก้มลงกราบท่านพูดว่าการปฏิบัติธรรมมันไม่ใช่ง่ายๆมีสิ่งทดสอบหลายอย่างตลอดเวลาหลังจากนั้นพระอาจารย์ท่านก็เดินกลับกุฏิหลวงปู่ท่านให้ผมสวดมนต์ตามท่านแล้วก็ให้คำภาวนามาคำหนึ่งตอนนั่งสมาธิเวลาผ่านไปจนถึง 5 ทุ่มกว่าผมนั่งสมาธิพร้อมกับหลวงปู่จิตใจมันว่า แวะไปมาเหมือนลิงไม่อยู่นิ่งสักทีได้ยินเสียงหลวงปู่พูดว่าทำใจให้สบายกำหนดลมหายใจเข้าออกเอาไว้ซึ่งขณะที่ผมนั่งต่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวในบ่อน้ำตลอดเวลาคิดว่าปลาอะไรจะกระโดดนักหนาลืมตามาหลวงปู่นั่งอยู่บนขอบฟ้าแล้วพูดว่าอยากรู้ไหมว่าไดน้ำผมพยักหน้าท่านบอกผมว่าให้เอามือยื่นลงไปในบ่อที่มือผมไปสัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างมีลักษณะคล้ายอะไรสักมือด้วยความสงสัยสิ่งที่สัมผัสอยู่จึงควรไปอีกครั้งผมว่ามันเป็นเกล็ดปลาอะไรสักอย่างแต่คงจะตัวใหญ่มากๆเพราะเด็กๆเดียวที่ใหญ่กว่ามือผมกำลังคิดว่าคืออะไรเสียงหลวงปู่ อู่พูดขึ้นมาว่ามีแค่ส่วนหางนะแต่ส่วนหัวอยู่ไปถึงน้ำชีโน่นผมชักมือกลับขึ้นมาเลยครับส่วนมากถ้าไม่มีคนมาหาหลวงปู่เขาจะขึ้นมาฟังธรรมด้วยผมถามท่านว่าพญานาคเหรอฉันได้แต่ยิ้มแล้วบอกผมให้เข้าไปนอนในกุฏิได้แล้วคืนต่อมาหลังจากทำทุกอย่างเป็นทั้งคนคอยถือย่านเมียหลวงปู่ตอนเช้าพี่กานไปบิณฑบาตกลับมาล้างบาศกวาดลานวัดล้างห้องน้ำประมาณ 3 โมงพระอาจารย์มาบอกผมว่าคืนนี้ไปปฏิบัติที่ป่าช้านะมีท่านกำลัง 2 ลูกและป้าคนหนึ่งกับผมร่วงเป็น 5 คนเดินเข้าไปในป่าช้าเวลา 3​ ทุ่มครึ่ง​ มองเห็นกองฟอนที่ใช้เผาศพคนตายวางอยู่เสียงเงียบสงัดในคืนเดือนหงายได้ยินแค่เสียงลมหายใจตัวเองพระท่านไปปักกลดตามใต้ต้นไม้ต่างๆต้นไทรต้นโพธิ์ต้นก้ามปูส่วนผมมีมุ้งขาวมาอันนึงเข้ามากลางใต้ต้นจานหลังจากเข้าไปในมุ้งแล้วถึงได้รู้ว่าผมนั่งบนในสูตรหลับตาลงกำหนดลมหายใจเข้าออกและภาวนาได้ยินเสียงคนเดินออกมาจากป่าช้าเงียบใบไม้แห้งเสียงไม่หยุดนอกมุ้งผมพยายามไม่คิดอะไรเพราะว่าหน้าไปเรื่อยๆแต่ความคิดหยุดลงเมื่อมีความรู้สึกว่าเหมือนมีคนเอาลิ้นมาเลียใบหูข้างขวาสักพักก็ย้ายมาต้นคอ เสียงหายใจฟืดฟาดและมีกลิ่นเหม็นเน่าลาวกับสาวโสดวนเวียนอยู่รอบตัวเสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆผมค่อยๆหรี่ตามามองมันเป็นศรีษะ​ของหญิงแก่มุดมุ้งเข้ามาเลี้ยวหัวผมตาของแกแดงกล่ำเลือดเขียวออก 2 ข้างผมลืมตาดูหรือความชอบมีเสียงพูดดังขึ้นว่าไปไหนก็ไปอย่ามากวนโยมเขาเดี๋ยวไม่ได้บุญนะแล้วหญิงแก่ก็เอาหัวออกจากมุ้งไปพบพระอาจารย์ยืนยิ้มให้ผมบอกว่ายายเมื่อกี้เป็นปอบตาได้ 2 เดือนทรมานมากไม่ค่อยได้บุญไม่ต้องกลัวไม่เป็นไรนะคิดในใจว่าผมแค่เลียหัวผมขนาดนี้ ไม่เป็นไรมั้งครับพระอาจารย์แล้วผมก็ไปนั่งสมาธิไกลๆกับท่านซึ่งผมก็ไม่ได้พบเจออะไรอีกที่ ท่านพาผมเดินจงกรมได้ทำวัตรเช้าต่อมาแฟนผมกับครอบครัวก็มาถวายจังหันที่วัดป่าแล้วก็รักผมกลับมีคนถามว่าทำไมเก่งจังนั่งสมาธิที่ป่าช้าได้ผมได้แต่ยิ้มให้อยากจะบอกว่าเจออะไรมาบ้างในเรื่องราวทั้งหมดของผมก็มีเพียงเท่านี้

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...