วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561
ผีหวงเตียง !!
วันนี้มีประสบการณ์ตรงของคุณแม่มาให้เพื่อนๆได้รับฟังกัน เรื่องนี้นั้นไดเกิดขึ้นเมื่อแม่ยังเป็นนักศึกษาอยู่มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากถึงแม่ว่าจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม แต่คุณแม่ก็ไม่อาจจะลืมเรื่องนี้ได้เลยเป็นการเจอผีแบบจังๆแทบจะครบทุกประสาทสัมผัส ทั้งรูป กลิ่น เสียง ขาดเพียงแต่รสเท่านั้น แต่ก็คงไม่มีใครอยากจะลิ้มลองมันหรอกคุณแม่ของเราเป็นคนมีเซ้นท์เรื่องนี้อยู่แล้ว แถมเซ้นท์ที่ว่านี้ก็แรงมากเสียด้วย แรงที่ว่าจากคนกลัวผี เปลี่ยนไปเป็นเห็นผีจนชิน แลฃ้วเรื่องที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ถือว่าโหดที่สุดแล้ว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนที่คุณยายได้ทำการรักษามะเร็งและคุณแม่ยังเป็นแค่นักศึกษาอยู่ที่โรงพยาบาล โรงเรียนแพทย์ชื่อดังแถววังหลังโดยมีคุณพ่อที่คบกันตั้งแต่สมัยมอปลาย เป็นธุระจัดการทุกอย่างให้ก็เลยได้ห้องพิเศษมาห้องหนึ่งให้คุณแม่นอนเฝ้าคุณยายได้แบบส่วนตัว หลังจากที่คุณพ่อจัดการเรื่องต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปเรียนต่อปล่อยให้คุณแม่อยู่ลำพังกับยายเพียงสองคน ครั้งแรกที่คุณยายเข้ามาในห้องนี้ก็มีความรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้บอกใครเพราะกลัวว่าพ่าแม่จะกลัว เวลาผ่านไปเหตุการณ์ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากทานข้าวเย็นกันเสร็จพอตกดึกก็เข้านอนกันปกติ กลางดึงของวันนั้นเองคุณแม่สะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อหันไปมองยาย ก็เห็นว่าหน้าตาของคุณยายเหมือนเหนื่อยๆราวกับไม่ได้นอนเลยเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงแต่คุณยายก็บอกว่าไม่มีอะไร แน่นอนว่าคุณแม่ไม่เชื่อ เพราะเรื่องแปลกตั้งแต่เข้ามาแล้วเหมือนกัน คืนต่อมาหลังจากปิดไปนอน เวลาประมาณตีสองกว่าๆ ขณะที่คุณแม่กำลังนอนหลับอยู่ที่โซฟาก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนมานอนเบี้ยดอยู่ข้างๆพร้อมกับกลิ่นเหม็นกลิ่นนั้นมันเหม็นสาปมาก เหม็นจนติดจมูก ตอนนั้นคุณแม่มั่นใจว่าไม่ได้ฝันไปแน่ๆ ยังคงมีสติดีอยู่ทุกอย่างในใจก็คิดว่าหรือนี้จะเป็นคนที่เคยพัดอยู่ห้องนี้แล้วป่วยตาย กลายเป็นผีหวงเตียง ความที่คุณแม่อ่อนเพลีย จึงไม่สนใจอะไรแล้วพยายามที่จะหลับ แต่แล้วก็เหมือนกับว่าผีตนนั้นจะได้ใจจึงยื่นหน้าเขามาแล้วพาดไหล่ พร้อมกับเสียงลมหายใจ และกลิ่นที่เหม็นเน่าที่มาจากข้างหู จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ แหบๆเหมือนกับชอบใจทีได้ทำแบบนี้จนคุณแม่ทนไม่ไหวหันหน้าไป แล้วลืมตาขึ้นมามอง ก็ต้องตกใจเมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าห่างกันไปแค่ไม่กี่เซนติเมตร เป็นหญิงแก่ร่างกายผอมแห่งผิวหนังหุ้มกระดูกอย่างกับคนป่วยหนักแม้ว่าไฟในห้องนั้นจะมืดมีเพียงแสงไฟจากห้องน้่ำเท่านั้น แต่ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันชัดเจน ด้วยความง่วงและหงุดหงิดคุณแม่จึงบอกออกไปว่า "ถ้าจะเข้ามาขอส่วนบุญ มาหลอกกันแบบนี้ ฉันไม่ทำให้หรอกนะ บุญก็น้อยอยู่แล้วยังจะมาสร้างบาปอีกหรอ ถ้าอยากได้บุญก็มาขอดีๆ" ทันใดนั้นร่างก็หายไปแล้วคุณแม่ก็นอนต่อ รุ่งเช้าพอคุณยายตื่นขึ้นมาอยู่ๆก็เล่าให้คุณแม่ฟังว่า "ตัวเองโดนกวน และโดยพลักตกโซฟา" แต่ว่าโชคดีที่มีราวกั้นจึงไม่ตก ที่คุณยายไม่เล่าให้ฟังตั้งแต่แรกเพราะพยายามไม่คิดอะไรมากถือว่าต่างคนต่างอยู่แล้วหลังจากนั้นคุณแม่ก็เฝ้าคุณยายไปจนถึงวันกลับบ้าน โดยที่ไม่ไปทำบุญให้กับผีตนนั้นจริงๆ และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น