วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สนามบินเฮี้ยน !!




        ผมชื่ออ๊อฟวันนี้มีประสบการณ์จะมาแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องที่ผมได้เจอที่สนามบินแห่งหนึ่งปีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ช่วงนั้นผมได้มีโอกาศไปทำงานกับรุ่นพี่คนหนึ่ง และได้ไปพักอยู่แฟลต์แห่งหนึ่งซึ่งผมไม่ขอเอยชื่อ แฟลตที่ผมได้อยู่นั้นก็น่ากลัวเช่นกัน ในช่วงนั้นผมกำลังหาสมัครงานใหม่ ก็ไปสมัครเป็น รปภ. ของสนามบินทิ้งไว้ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยกลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์ถัดมาเขาก็เรียกผมไปสัมภาษณ์ ว่าคุณได้ทำงานที่นั้นที่นี้อาหารหนึ่งกับอาคารสองตอนนั้นกำลังพึ่งสร้างและยังไม่เปิดให้บริการ โดยอาคารแต่ละหลังจะมีทางเชื่อมเข้าหากัน ช่วงแรกที่ผมทำงานก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งผมจะต้องอยู่ประจำการเพียงคนเดียวที่ชั้นหนึ่งของอาหารสองที่พึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆแต่ยังไม่ได้เปิดให้ใช้งาน อาคารนี้จะมีทั้งหมด 3 ชั้นโดยจะมีเพียงชั้นละ 1 คน ผมได้ประจำการอยู่ที่ประตู 9 ของอาคารสองช่วงนั้นห้องน้ำชั้นหนึ่งยังไม่เปิดให้บริการปวดฉี่ทีก็ต้องขึ้นบรรไดไปยังชั้น 3 เพราะห้องน้่ำเปิดได้เพียงแค่ชั้น 3 เท่านั้น ผมชาร์ทแบทโทรทิ้งไว้ในชั้นหนึ่ง ที่ไม่กลัวหายเพราะไม่มีใครกล้าเข้ามาแถวนี้อยู่แล้ว หลังจากนั้นก็ได้ขึ้นไปชั้น 3 ด้วยระหว่างทางนั้นทางค่อนข้างมืดมีเพียงแสงไฟบริเวณทางเดินเท่านั้น ผมก้าวเท้าไปก็ได้ยินเสียงที่เท้าของผมกระทบลงไปมันรู้สึกโดดเดี่ยวมากแต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นว่าเป็นอาคารที่สร้างใหม่ไม่น่าจะมีอะไร พอผมไปถึงชั้น 3 ก็เข้าไปทำธุระเรียบร้อยแล้วเดินกลับลงมาชั้นล่างนั่งอยู่ประจำที่แล้วเล่นโทรศัพท์ดูไปเรื่อยเปื่อย แต่พอผมนั่งไปได้สักพักก็รู้สึกขนลุกเย็นว๊าบไปทั้งตัว แล้วก็รู้สึกเหมือนมีคนมานั่งอยู่รอบๆผมทั้งๆที่แถวนั้นไม่มีใครเลย จนผมทนไม่ไหวจึงถอดสายชาร์ทแล้วลุกขึ้น ในขณะทีผมกำลังจะลุกไปเปิดประตูนั้นได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูเบาๆบอกว่า "จะไปแล้วหรอ ไม่มีคนนั้นด้วยเลย" มันทำให้ผมขนลุกสู่ไปทั้งตัว ไม่กล้าที่จะหันไปมองที่ด้านหลัง ผมวิ่งออกประตูอย่างรวดเร็วพอออกจากอาคารได้พอสมควรแล้วผมก็หยุดแล้วหันหลังกลับไปมองก็เห็นว่า "มันเป็นแสงสีขาวๆ รูปร่างลักษณะคล้ายคน แต่ไม่ใช่คนแน่ๆ" มันทำให้ผมช๊อกมากๆจนไม่กล้าเข้าไปในอาคารนั้นอีก จนมีคนมาเปลี่ยนในตอนเช้า เห็นสีหน้าของผมก็ถามว่าเป็นอะไร แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรและรีบออกจากตรงนั้นเลย พอกลับมาถึงห้องพักผมล้างหน้าและส่องกระจกดูก็เห็นหน้าของตัวเองซีดไปหมดเพราะกลัวมาก เพียงได้แต่คิดในใจว่าพรุ่งนี้อย่าได้ไปเฝ้าตึกนั้นอีกเลย แต่ก็เหมือนกับโดนแกล้งเพราะได้เข้ากะไปอยู่ตึกเดิมที่เดิมตำแหน่งเดิม แต่วันนี้ไม่เข้าไปในอาคารแล้วครับเพราะเข็ดจากเมื่อคืน และตอนกลางคืนผมก็ปวดฉี่อีกแล้วจึง เลือกที่จะวิ่งขึ้นไปให้เร็วที่สุดแล้วรับทำธุระให้เสร็จแล้วรีบลงมา แต่ขากลับผมไม่ลงทางเดินแต่ผมไปลงที่อาคาร 1 พยายามรีบเดินเร็วๆเพื่อที่จะถึงข้างล่างเร็วๆ หัวหน้าไปผมเดินตรวจในชั้นของผม แล้วก็ต้องเดินไปตรวจตามคำสั่ง ผมก็เดินไปเรื่อยๆจนมาถึงประตู 9 อาคาร 2 ก็ไม่มีอะไรจึงรีบเดินต่อไปเพราะไม่มีอยู่จุดนี้นาน ก้าวเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็รู้สึกแปลกเหมือนมีอะไรอยู่ด้านหลังจึงหันไปมองแล้วสิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าก็ทำให้ผมต้องช๊อกเพราะผมเห็นคนประมาณ 5 คนกำลังนั่งก้มหน้าอยู่ในความมืดที่มีแสงไฟสลัวๆ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนมานั่งอยู่ตรงนี้และเมื่อกี่ผมก็เดินผ่านตรงนั้นมาแต่ก็ไม่เห็นอะไรหรือมีใครอยู่เลย ในขณะที่ผมกำลังตกใจนั้น จู่ๆทั้ง 5 คนนั้นก็ค่อยๆเงิยหน้าขึ้นแล้วหันมามองทางผม ผมตกใจมากแล้ววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต จนผมออกมาได้แล้วรีบกลับห้องพักของผมเลย ด้วยตอนนั้นผมขาดงานไปหลายวันแล้วก็บ่นด่าที่ผมไม่ไป่ทำงาน และหลังจากนั้นผมก็ไม่ไปทำงานที่นั้นอีกเลย และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...